"ไนท์ซาฟารี"ยื่นหนังสือนายกฯ ต้านโอนซุกปีกองค์การสวนสัตว์

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ผู้บริหารเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีนำเจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง และชาวบ้านกว่า 200 คน เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกร้องให้ยับยั้งการถ่ายโอนโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจาก อพท.ไปอยู่ภายใต้การดูแลขององค์การสวนสัตว์ ชี้มีแต่ผลเสียกระทบต่อแผนการพัฒนาและหมดความคล่องตัว ในการบริหารจัดการ

วานนี้(21 ม.ค.51) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายอุปถัมภ์ ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม ผู้อำนวยการสำนักบริหารเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และลูกจ้างของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี รวมทั้งแกนนำชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงโครงการ ทั้งตำบลสุเทพ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง และตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 200 คน ได้เข้ายื่นหนังสือถึงพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้ยับยั้งการพิจารณาการมอบการบริหารจัดการโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีและพื้นที่เชื่อมโยงให้ไปอยู่ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์

นายอุปถัมภ์ กล่าวว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้ เนื่องจากทราบมาว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะมีการเสนอเรื่องดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบวันนี้(22 ม.ค.51) ซึ่งผู้บริหารเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ตลอดจนเจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงโครงการไม่เห็นด้วย จึงได้มายื่นหนังสือเพื่อขอให้มีการยับยั้งในเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้เห็นว่าการมอบให้โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไปอยู่ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์นั้น ไม่ได้เป็นผลดีต่อโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ที่มีการลงทุนไปแล้วนับพันล้านบาท เพราะรูปแบบการบริหารจัดการของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีกับสวนสัตว์ของรัฐมีความแตกต่างกัน โดยเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีการบริหารจัดการที่เป็นลักษณะขององค์การมหาชน ที่มีความคล่องตัวค่อนข้างสูงอยู่แล้ว ดังนั้นหากมีการให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไปขึ้นอยู่กับองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะเท่ากับเป็นการทำลายความคล่องตัวในการบริหารจัดการที่มีอยู่ลงไปและจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีที่จะไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาการดำเนินการเกี่ยวกับการที่จะมอบโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีให้ไปอยู่ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไม่เคยมีการสอบถามความคิดเห็นจากบุคลากรของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ที่เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและมีผลได้ผลเสียโดยตรงเลย ซึ่งเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและขาดการมีส่วนร่วม และเห็นว่าความพยายามที่จะดำเนินการดังกล่าวยังขาดการศึกษาในเชิงวิชาการอย่างละเอียด ก่อนที่จะมีการตัดสินใจอีกด้วย ซึ่งยิ่งทำให้หวั่นเกรงว่าจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี จึงอยากเรียกร้องให้มีการทบทวนในเรื่องนี้

“กว่าที่จะมีการลงทุนในโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ในทุกๆ ด้านอย่างละเอียดแล้วก่อนที่จะมีการตัดสินใจ แต่ว่าการที่จะมอบการบริหารเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไปอยู่ภายใต้องค์การสวนสัตว์ฯกลับไม่มีผลการศึกษาใดๆ มารองรับเลย ซึ่งทำให้ไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่าในที่สุดแล้วอนาคตของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจะไปในทิศทางใด” นายอุปถัมภ์ กล่าว

นอกจากนี้ นายอุปถัมภ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเริ่มเปิดให้บริการมานานประมาณ 2 ปี ยอมรับว่าที่ผ่านมายังมีรายได้ไม่คุ้มรายจ่าย อย่างไรก็ตาม จนถึงเวลานี้ทุกสิ่งทุกอย่างในโครงการได้เริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว และล่าสุดการว่าจ้างให้คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดทำแผนธุรกิจให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีก็ใกล้ที่จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว

ดังนั้น หากดำเนินการยังคงเดินหน้าต่อไปตามแผน ก็น่าจะสามารถดำเนินการบริหารจัดการให้คุ้มค่าการลงทุนได้ภายใน 7 ปีตามแผนที่มีการวางไว้อย่างแน่นอน แต่หากมีการมอบให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไปอยู่ภายใต้องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์แล้ว โดยส่วนตัวเห็นว่า จะมีความน่าเป็นห่วงมากในเรื่องของความคุ้มค่าในการลงทุน

ขณะที่นายพิศาล วสุวาณิช ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กล่าวว่า เท่าที่ทราบการมอบโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีให้ไปอยู่ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะมีการยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 50 ด้วย ซึ่งมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ให้ดำเนินการศึกษาในการแยกโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีออกจากองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. แล้วจัดตั้งเป็นบริษัทภายใต้กำกับของรัฐ โดยรัฐถือหุ้น 100% ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี และอยู่ภายใต้กำกับของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ขณะนี้ ผลการศึกษาในเรื่องดังกล่าวใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ดังนั้นจึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงจะต้องมีการยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ทั้งๆ ที่ไม่เป็นผลดีต่อเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเลย จึงอยากให้มีการทบทวนในเรื่องดังกล่าว

ด้านนายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ในการรับหนังสือจากผู้บริหารเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กล่าวว่า จะรีบรายงานและนำเสนอเรื่องดังกล่าวให้ตามขั้นตอน ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ สนับสนุนที่จะให้มีการใช้ประโยชน์จากโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีให้คุ้มค่ากับงบประมาณที่ลงทุนไปจำนวนมหาศาล

อย่างไรก็ตาม ในที่สุดแล้วการตัดสินใจในเรื่องที่ว่าจะมีการมอบโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีให้ไปอยู่ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาลว่ามีนโยบายอย่างไร

อนึ่ง สำหรับโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี อยู่ภายใต้การกำกับขององค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) ต่อมาวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 50 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการแผนการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ระยะเร่งด่วน พ.ศ.2550-2551 ที่ อพท. ได้ปรับปรุงแก้ไขตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ครั้งที่ 4/2550 วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 50 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่เป้าหมายการพัฒนาในส่วนของพื้นที่พิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และพื้นที่เชื่อมโยงที่ได้กำหนดแนวทางการดำเนินงาน พ.ศ.2550-2553 แยกออกจาก อพท.โดยจัดตั้งเป็นบริษัท ภายใต้กำกับของรัฐ และรัฐถือหุ้น 100% ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี และให้อยู่ภายใต้กำกับของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ต่อมาวันที่ 17 ธันวาคม 50 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีหนังสือถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณานำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี โดยรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี 20 กุมภาพันธ์ 50 และขอให้พิจารณาเห็นชอบการโอนโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจาก อพท.ไปให้องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทั้งนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 50 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เสนอขอถอนเรื่องไปพิจารณาทบทวนอีกครั้ง