xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าหนี้แฉเล่ห์ปิคนิคฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจ้าหนี้ปิคนิคฯ สุดเซ็ง คดีฟ้องร้องทวงเงินคืนชะงัก หลังผู้บริหารหัวใส ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ สุดมึนงบการเงินติดลบเฉยหลังเป็นบวกมาตั้งนาน ขณะที่บลจ.กรุงไทยเผยตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ ต้องรอลุ้นศาลพิจารณา 17 มีนาคมนี้เพียงอย่างเดียว ส่วนจะคัดค้านหรือไม่ ให้ลูกค้าซึ่งเป็นเจ้าของเงินตัดสินใจ แต่ยังย้ำติดตามทวงเงินคืนให้ได้

นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการฟ้องร้องบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI ที่ผิดนัดชำระหนี้ตั๋วเงินระยะสั้น (B/E) ว่า ขณะนี้คดีในชั้นศาลที่บริษัทได้ฟ้องร้องปิคนิคให้ชำระหนี้ไปทั้งหมดต้องหยุดไปก่อน เนื่องจากปิคนิคได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการเพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เจ้าหนี้ทุกรายต้องหยุดกระบวนการฟ้องร้องเอาไว้ทั้งหมด เพื่อรอการพิจารณาคำร้องศาลอีกครั้ง โดยศาลได้นัดฟังคำพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 17 มีนาคมที่จะถึงนี้
โดยในระหว่างนี้ ศาลจะพิจารณาคำร้องของปิคนิกว่าในส่วนของเจ้าหนี้จะมีความเห็นว่าอย่างไร เพื่อตัดสินใจว่าจะพิจารณารับปิคนิคเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการหรือไม่ ซึ่งในกรณีนี้ หากศาลฟื้นฟูมีมติรับปิคนิคเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เจ้าหนี้รายไหนที่ชนะคดีแพ่งจากการฟ้องร้องไปก่อนหน้านี้ หรือที่กำลังฟ้องร้องกันอยู่จะไม่สามารถดำเนินการอะไรต่อได้เลย
"หากศาลฟื้นฟูรับคำร้องแล้วเห็นชอบให้ปิคนิคเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการได้ ทุกคดีที่ค้างอยู่ในตอนนี้ต้องหยุดหมด เพื่อให้ปิคนิคดำเนินกิจการต่อไป"นายธีระพันธ์กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของบลจ.กรุงไทยซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหนี้จะคัดค้านการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูหรือไม่นั้น นายธีระพันธ์กล่าวว่า เนื่องจากเงินทั้งหมดเป็นเงินของลูกค้า ดังนั้นเราจึงให้ลูกค้าตัดสินใจว่าจะคัดค้านหรือไม่ ซึ่งบริษัทได้แจ้งให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการผิดชำระหนี้ของปิคนิคทั้งหมดได้ทราบถึงการขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งอธิบายถึงข้อดีข้อเสียของการฟื้นฟูกิจการดังกล่าวด้วย ซึ่งหลังจากนี้คงต้องรอข้อสรุปอีกครั้งว่า ลูกค้าต้องการคัดค้านหรือไม่
"ตอนนี้เราได้แจ้งให้ลูกค้าที่เป็นเจ้าหนี้ทั้งหมดทราบถึงการขอฟื้นฟูกิจการของปิคนิคแล้ว ส่วนจะคัดค้านหรือไม่คงต้องให้ลูกค้าซึ่งเป็นเจ้าของเงินเป็นผู้ตัดสินใจเอง แต่ความรู้สึกเราที่อยากบอกคือ เงินที่เราลงทุนไปทั้งหมด เป็นเงินของลูกค้า และเป็นเงินก้อนสุดท้ายของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เราต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อเอาเงินดังกล่าวมาคืนให้กับลูกค้าให้ได้ เราเองไม่ยอมอยู่แล้ว เพราะถือว่าเอาเงินของลูกค้าเราไปแล้วต้องใช้คืนด้วย" นายธีระพันธ์กล่าว
สำหรับบลจ.กรุงไทย มีมูลหนี้ที่ปิคนิคผิดชำระหนี้ทั้งหมดประมาณ 1,000 ล้านบาท จากจำนวนกองทุนทั้งหมด 1 กองทุน โดยในช่วงที่ผ่านมาได้รับการชำระคืนไปแล้วประมาณ 800 ล้านบาท ซึ่งยังเหลือมูลหนี้ที่ค้างชำระอีกประมาณ 200 ล้านบาทจากจำนวนกองทุนทั้งหมด 9 กองทุน ซึ่งที่ผ่านมา บลจ.กรุงไทยเองก็ได้ดำเนินการฟ้องร้องเพื่อให้ปิคนิคชำระหนี้ดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตของการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการของปิคนิคในครั้งนี้ว่า อยู่ดีๆ งบการเงินของปิคนิคเปลี่ยนแปลงจากที่เป็นบวกมาติดลบได้อย่างไร ซึ่งจากการที่งบการเงินติดลบดังกล่าวทำให้เข้าเงื่อนไขการฟื้นฟูกิจการได้
ก่อนหน้านี้ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2551 บริษัทได้ยื่นต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ในคดีหมายเลขดำที่ ฟ. 2/2551 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอให้ศาลพิจารณารับคำร้อง และศาลล้มละลายกลางได้กำหนดวันนัดพิจารณาคำร้องในวันที่ 17 มีนาคม 2551 เวลา 9.00 น.
สำหรับสาเหตุที่ต้องนำบริษัทเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ สืบเนื่องจาก PICNI มีภาระหนี้อยู่กับสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งเจ้าหนี้ได้ทำการอายัดและยึดทรัพย์สินของบริษัทอย่างต่อเนื่อง อาทิ เงินสด หุ้นของบริษัท เอ็นเนซอล จำกัด และหุ้นของบริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด ทำให้บริษัทได้รับได้รับผลกระทบและขาดสภาพคล่องในการดำเนินกิจการ
ประกอบกับงบการเงินประจำปี 2550 ซึ่งเป็นงบภายในของบริษัทมีส่วนทุนติดลบเป็นเงินจำนวนประมาณ 1,258 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีขาดทุนจากการดำเนินงานต่อเนื่อง รวมทั้งมีสินทรัพย์ลดลงจากการที่บริษัทถูกบังคับโอนหุ้นเวิลด์แก๊สให้กับเจ้าหนี้ ดังนั้นเมื่อผู้สอบบัญชีดำเนินการจัดทำงบการเงินบริษัทเรียบร้อยแล้ว บริษัทจะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนการฟื้นฟูกิจการของบริษัทต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น