ผู้จัดการรายวัน- ผู้ค้าน้ำมันประสานเสียงโอกาสเห็นลดราคาขายปลีกช่วงนี้ยากตรงข้ามเริ่มเป็นขาขึ้นแทน เผยหากสิงคโปร์ขยับอีก 1-2 วันสัปดาห์นี้ขายปลีกไทยต้องขึ้นตามแน่ทั้งเบนซินและดีเซล แนะเกาะติดปัญหาเวเนซุเอล่า ไนจีเรีย ประชุมโอเปกใกล้ชิดคาดระยะสั้นจะเป็นไปในทิศทางขยับเพิ่ม
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัทปตท.จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.ยังไม่ได้ตัดสินใจปรับเปลี่ยนราคาขายปลีกน้ำมันเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมามีทิศทางที่จะลดลงแต่ปรากฏว่าราคาตลาดโลกได้สวิงกลับมาสูงขึ้นทำให้ค่าการตลาดเฉลี่ยลดลงเหลือเพียง 1 บาทต่อลิตรซึ่งคงต้องติดตามราคาสิงคโปร์อีกระยะหนึ่งก่อนว่าจะไปในทิศทางใดแต่ยอมรับว่าช่วงนี้ค่อนข้างจะเป็นขาขึ้นมากกว่าลง
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้คงต้องติดตามสถานการณ์น้ำมันตลาดโลกอย่างใกล้ชิดเนื่องจากเริ่มปรับตัวสูงขึ้นจนส่งผลให้ค่าการตลาดผู้ค้าน้ำมันเฉลี่ยเหลือเพียง 90 สตางค์-1 บาทต่อลิตรเท่านั้นดังนั้นหากราคาสิงคโปร์ปิดตลาดวันที่ 12 ก.พ.ปรับเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่ำ 1เหรียญต่อบาร์เรลก็จะทำให้ค่าการตลาดเฉลี่ยจะลดลงเหลือ 70 สตางค์ต่อลิตรซึ่งหากน้ำมันตลาดโลกปรับขึ้นอีกโอกาสที่จะเห็นการปรับราคาขายปลีกน้ำมันเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ก็มีสูง
ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงมาจากปัจจัยที่ประธานาธิบดีฮิวโก ชาเวส แห่งเวเนซุเอลา ประกาศว่าอาจจะหยุดส่งออกน้ำมันไปยังสหรัฐหากถูกกดดันอย่างหนักจนดันให้ราคาน้ำมันดิบเวสเท็กซัสเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ปรับขึ้นถึง 3.66 เหรียญต่อบาร์เรลมาปิดที่ 91.77 เหรียญต่อบาร์เรล ประกอบกับกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปก จะมีการจัดประชุมวันที่ 5 มีนาคมนี้ซึ่งหลายฝ่ายวิตกว่าโอเปกจะคงกำลังผลิตหรืออาจมีการลดกำลังผลิตอีกด้วย ดังนั้นจึงทำให้กองทุนเก็งกำไรมองเห็นโอกาสดังกล่าวจึงเริ่มเข้ามาซื้อสต็อกดังนั้นระยะสั้นจากนี้คงจะยังเห็นทิศทางราคาน้ำมันแกว่งตัวไปตามกระแสข่าวในทิศทางที่สูงขึ้น
นายศัลยา สุคนธทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายราคาการตลาดขายปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับขึ้นต่อเนื่องโดยปิดตลาดวันที่ 11 ก.พ. ดิบดูไบปรับขึ้น 3.18 เหรียญต่อบาร์เรลจาก 84.25 เหรียญต่อบาร์เรลไปอยู่ที่ 87.44 เหรียญต่อบาร์เรล ส่งผลให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์ โดยเฉพาะเบนซิน 95 ปรับขึ้น 2.25 เหรียญต่อบาร์เรลจาก 98.51 เหรียญต่อบาร์เรลมาปิดที่ 100.76 เหรียญต่อบาร์เรล ดีเซลขึ้น 3.89 เหรียญต่อบาร์เรลจาก 102.37 เหรียญต่อบาร์เรลมาเป็น 106.26 เหรียญต่อบาร์เรลและช่วงเช้าของวันที่ 12 ก.พ.ยังคงมีทิศทางปรับขึ้นอีกเล็กน้อย ซึ่งสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ผันผวนดังกล่าว บริษัทจึงแจ้งเตือน มายังผู้บริโภคให้เตรียมรับมือกับภาวะราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านน้ำมันกล่าวว่า สัปดาห์นี้มีแนวโน้มที่ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงเป็นทิศทางขาขึ้นเนื่องจากมีปัจจัยสำคัญทั้งปัญหาเวเนซุเอลา ไนจีเรีย โรงกลั่นที่สหรัฐปิดซ่อม 2 แห่งจึงเป็นแรงผลักดันให้กองทุนเข้ามาเก็งกำไรแต่เชื่อว่าคงไม่ใช่ปัญหาระยะยาวแน่นอน ดังนั้นราคาขายปลีกของไทยจึงเป็นทิศทางขาขึ้นมากกว่าลง
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัทปตท.จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.ยังไม่ได้ตัดสินใจปรับเปลี่ยนราคาขายปลีกน้ำมันเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมามีทิศทางที่จะลดลงแต่ปรากฏว่าราคาตลาดโลกได้สวิงกลับมาสูงขึ้นทำให้ค่าการตลาดเฉลี่ยลดลงเหลือเพียง 1 บาทต่อลิตรซึ่งคงต้องติดตามราคาสิงคโปร์อีกระยะหนึ่งก่อนว่าจะไปในทิศทางใดแต่ยอมรับว่าช่วงนี้ค่อนข้างจะเป็นขาขึ้นมากกว่าลง
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้คงต้องติดตามสถานการณ์น้ำมันตลาดโลกอย่างใกล้ชิดเนื่องจากเริ่มปรับตัวสูงขึ้นจนส่งผลให้ค่าการตลาดผู้ค้าน้ำมันเฉลี่ยเหลือเพียง 90 สตางค์-1 บาทต่อลิตรเท่านั้นดังนั้นหากราคาสิงคโปร์ปิดตลาดวันที่ 12 ก.พ.ปรับเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่ำ 1เหรียญต่อบาร์เรลก็จะทำให้ค่าการตลาดเฉลี่ยจะลดลงเหลือ 70 สตางค์ต่อลิตรซึ่งหากน้ำมันตลาดโลกปรับขึ้นอีกโอกาสที่จะเห็นการปรับราคาขายปลีกน้ำมันเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ก็มีสูง
ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงมาจากปัจจัยที่ประธานาธิบดีฮิวโก ชาเวส แห่งเวเนซุเอลา ประกาศว่าอาจจะหยุดส่งออกน้ำมันไปยังสหรัฐหากถูกกดดันอย่างหนักจนดันให้ราคาน้ำมันดิบเวสเท็กซัสเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ปรับขึ้นถึง 3.66 เหรียญต่อบาร์เรลมาปิดที่ 91.77 เหรียญต่อบาร์เรล ประกอบกับกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปก จะมีการจัดประชุมวันที่ 5 มีนาคมนี้ซึ่งหลายฝ่ายวิตกว่าโอเปกจะคงกำลังผลิตหรืออาจมีการลดกำลังผลิตอีกด้วย ดังนั้นจึงทำให้กองทุนเก็งกำไรมองเห็นโอกาสดังกล่าวจึงเริ่มเข้ามาซื้อสต็อกดังนั้นระยะสั้นจากนี้คงจะยังเห็นทิศทางราคาน้ำมันแกว่งตัวไปตามกระแสข่าวในทิศทางที่สูงขึ้น
นายศัลยา สุคนธทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายราคาการตลาดขายปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับขึ้นต่อเนื่องโดยปิดตลาดวันที่ 11 ก.พ. ดิบดูไบปรับขึ้น 3.18 เหรียญต่อบาร์เรลจาก 84.25 เหรียญต่อบาร์เรลไปอยู่ที่ 87.44 เหรียญต่อบาร์เรล ส่งผลให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์ โดยเฉพาะเบนซิน 95 ปรับขึ้น 2.25 เหรียญต่อบาร์เรลจาก 98.51 เหรียญต่อบาร์เรลมาปิดที่ 100.76 เหรียญต่อบาร์เรล ดีเซลขึ้น 3.89 เหรียญต่อบาร์เรลจาก 102.37 เหรียญต่อบาร์เรลมาเป็น 106.26 เหรียญต่อบาร์เรลและช่วงเช้าของวันที่ 12 ก.พ.ยังคงมีทิศทางปรับขึ้นอีกเล็กน้อย ซึ่งสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ผันผวนดังกล่าว บริษัทจึงแจ้งเตือน มายังผู้บริโภคให้เตรียมรับมือกับภาวะราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านน้ำมันกล่าวว่า สัปดาห์นี้มีแนวโน้มที่ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงเป็นทิศทางขาขึ้นเนื่องจากมีปัจจัยสำคัญทั้งปัญหาเวเนซุเอลา ไนจีเรีย โรงกลั่นที่สหรัฐปิดซ่อม 2 แห่งจึงเป็นแรงผลักดันให้กองทุนเข้ามาเก็งกำไรแต่เชื่อว่าคงไม่ใช่ปัญหาระยะยาวแน่นอน ดังนั้นราคาขายปลีกของไทยจึงเป็นทิศทางขาขึ้นมากกว่าลง