นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านราคาน้ำมัน กล่าวถึงราคาน้ำมันดิบสหรัฐที่ปิดระดับ 100.01 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 4.51 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคาดว่าเป็นการปรับขึ้นเป็นการชั่วคราว เพราะกองทุนเก็งกำไร (เฮดจ์ฟันด์) ต้องการทำกำไรเท่านั้น ในขณะที่ไม่มีปัจจัยใหม่ที่ทำให้ราคาน้ำมันจะปรับขึ้นแต่อย่างใด เพราะโรงกลั่นเท็กซัสที่ประสบปัญหาไฟไหม้มีกำลังกลั่นเพียง 65,000 บาร์เรล ส่วนข่าวอื่นๆ เรื่องเวเนซุเอลาจะไม่ขายน้ำมัน ให้สหรัฐฯ กลุ่มโอเปกจะลดกำลังผลิต ก็เป็นข่าวที่ตลาดรับรู้แล้วทั้งสิ้น
นายมนูญ กล่าวว่า ค่าการตลาดน้ำมันโดยรวมขณะนี้ผู้ค้าน้ำมันขาดทุนต่อเนื่องหลายวัน โดยล่าสุด ค่าการตลาดเบนซินติดลบ 10 สตางค์ ดีเซลติดลบเพิ่มเป็น 25-30 สตางค์ แต่ทุกรายก็ รอ ปตท.จะตัดสินใจขึ้นราคาน้ำมันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หาก พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เห็นว่า ไม่ควรลดราคาน้ำมัน ด้วยการลดเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ก็ไม่น่าจะมีผลเท่าใดนัก เพราะเงินที่จัดเก็บในส่วนของพลังงานทดแทน ทั้งแก๊สโซฮอล์-ไบโอดีเซลอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมาก
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บมจ. ปตท.กล่าวว่า บ่ายนี้ ผู้บริหาร ปตท.จะประชุมและจะตัดสินใจว่าจะปรับขึ้นราคาน้ำมันหรือไม่ เมื่อดูภาพรวมแล้ว ในขณะนี้ ปตท.ไม่ต้องการปรับขึ้นราคาน้ำมัน เพราะเห็นว่าประชาชนได้รับผลกระทบหนักจากค่าครองชีพที่สูงอยู่แล้ว หากราคาน้ำมัน ปรับขึ้นอีก ก็จะยิ่งซ้ำเติมราคาสินค้าให้พุ่งสูงขึ้นอีก แม้ว่าในขณะนี้ ปตท.จะรับภาระขาดทุนค้าน้ำมัน 30 ล้านบาท/วัน แต่ในภาพรวม ปตท.มีกำไรจากธุรกิจอื่นๆ จึงสามารถรับภาระในส่วนนี้ได้
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในปัจจุบันว่า ผู้ค้ารู้สึกกังวลใจกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่า ปตท.คงจะต้องตัดสินใจปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ อีกเหตุผลหนึ่งที่ ปตท.ยังไม่กล้าจะปรับขึ้นราคาน้ำมัน เพราะ ปตท.เตรียมจะแจ้งผลประกอบการปี 2550 ซึ่งคาดว่ามีกำไรสูงถึง 97,000 ล้านบาท แต่ในส่วนของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันนั้นขาดทุนสูงประมาณ 4,500 ล้านบาท เนื่องจาก ปตท.ไม่ได้ปรับขึ้นตามต้นทุนที่แท้จริง ทั้งนี้ ผลกำไรประมาณกว่าร้อยละ 30 เป็นธุรกิจของ ปตท. คือ ก๊าซธรรมชาติ การค้าระหว่างประเทศและน้ำมัน ในขณะที่กว่าร้อยละ 60 มาจากธุรกิจในเครือ คือ ปตท.สผ. โรงกลั่นน้ำมัน และกลุ่มปิโตรเคมี
นายมนูญ กล่าวว่า ค่าการตลาดน้ำมันโดยรวมขณะนี้ผู้ค้าน้ำมันขาดทุนต่อเนื่องหลายวัน โดยล่าสุด ค่าการตลาดเบนซินติดลบ 10 สตางค์ ดีเซลติดลบเพิ่มเป็น 25-30 สตางค์ แต่ทุกรายก็ รอ ปตท.จะตัดสินใจขึ้นราคาน้ำมันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หาก พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เห็นว่า ไม่ควรลดราคาน้ำมัน ด้วยการลดเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ก็ไม่น่าจะมีผลเท่าใดนัก เพราะเงินที่จัดเก็บในส่วนของพลังงานทดแทน ทั้งแก๊สโซฮอล์-ไบโอดีเซลอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมาก
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บมจ. ปตท.กล่าวว่า บ่ายนี้ ผู้บริหาร ปตท.จะประชุมและจะตัดสินใจว่าจะปรับขึ้นราคาน้ำมันหรือไม่ เมื่อดูภาพรวมแล้ว ในขณะนี้ ปตท.ไม่ต้องการปรับขึ้นราคาน้ำมัน เพราะเห็นว่าประชาชนได้รับผลกระทบหนักจากค่าครองชีพที่สูงอยู่แล้ว หากราคาน้ำมัน ปรับขึ้นอีก ก็จะยิ่งซ้ำเติมราคาสินค้าให้พุ่งสูงขึ้นอีก แม้ว่าในขณะนี้ ปตท.จะรับภาระขาดทุนค้าน้ำมัน 30 ล้านบาท/วัน แต่ในภาพรวม ปตท.มีกำไรจากธุรกิจอื่นๆ จึงสามารถรับภาระในส่วนนี้ได้
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในปัจจุบันว่า ผู้ค้ารู้สึกกังวลใจกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่า ปตท.คงจะต้องตัดสินใจปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ อีกเหตุผลหนึ่งที่ ปตท.ยังไม่กล้าจะปรับขึ้นราคาน้ำมัน เพราะ ปตท.เตรียมจะแจ้งผลประกอบการปี 2550 ซึ่งคาดว่ามีกำไรสูงถึง 97,000 ล้านบาท แต่ในส่วนของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันนั้นขาดทุนสูงประมาณ 4,500 ล้านบาท เนื่องจาก ปตท.ไม่ได้ปรับขึ้นตามต้นทุนที่แท้จริง ทั้งนี้ ผลกำไรประมาณกว่าร้อยละ 30 เป็นธุรกิจของ ปตท. คือ ก๊าซธรรมชาติ การค้าระหว่างประเทศและน้ำมัน ในขณะที่กว่าร้อยละ 60 มาจากธุรกิจในเครือ คือ ปตท.สผ. โรงกลั่นน้ำมัน และกลุ่มปิโตรเคมี