นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ถึงการแต่งตั้งเลขานุการรัฐมนตรีและ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่า พรรคอื่นไม่มีปัญหา ตั้งเรียบร้อยแล้ว แต่พรรคพลังประชาชนตนขอเลื่อนไป 1 สัปดาห์ เพราะในฐานะนายกรรัฐมนตรีจะขอคุยกับรัฐมนตรีพรรคพลังประชาชนที่มี 20 กว่าคนก่อน ซึ่งที่เสนอมาครึ่งหนึ่งไม่มีปัญหาทั้งเลขานุการและที่ปรึกษารัฐมนตรี แต่บางกระทรวงเลขายึการเจ๋ง แต่ที่ปรึกษาใครก็ไม่รู้จึงขอถามรัฐมนตรีหน่อย ยกตัวอย่างเช่น กระทรวงต่างประเทศ น.ส.ศิรัมภา เลิศนุวัฒน์ เป็นเลขานุการรัฐมนตีก็โอเค เขาเป็น ส.ส.ตอบตก ดร.วิทยา พุกามาน อดีตเอกอัครราชทูตเป็นที่ปรึกษาอย่างนี้ใช้ได้ไม่น่าเกลียด
“แต่บางกระทรวงที่ปรึกษามันไม่มีอะไรยิ่งกว่เลขาฯอีก ผมจะถามเขาหน่อยว่าได้มาอย่างไร ใครเขาจัดการใส่มาให้อย่างนี้ และก็ทำกันชนิดเอาพวกใส่เข้าไปเพื่อให้ได้เงินเดือน อย่างนี้ต้องดูหน้าตาตัวเองบ้างว่าที่ปรึกษาของตัวเองเป็นอย่างไรW
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าไม่ได้ดั่งใจ นายสมัคร กล่าวว่า “ไม่ใช่ไม่ได้ดั่งใจ แต่ผมควรจะให้ข้อคิดรัฐมนตรีท่านหน่อยว่าใครจับยัดใส่มาให้ บางคนเลขาฯน่ะเจ๋ง แต่ที่ปรึกษา....อูย..ไม่ไหว เราก็เลยบอกว่าทำอย่างนี้ได้อย่างไร แต่ ครึ่งหนึ่งโอเค อีกครึ่งหนึ่งจะขอคุยเป็นการส่วนตัวว่า คุณเอาอย่างนี้หรอ ใครเขาบังคับให้เอามาอย่างนี้ แล้วคุณจะหาเองได้มั๊ย”
ต่อข้อถถามว่าจะเพิ่มแรงเสียดทานให้เกิดปัญหาภายในพรรคพลังประชาชนหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า “มันไม่เป็นปัญหาหรอกครับ ผมก็ยอมรับ แต่ต้องนึกถึงหน้าผมด้วย นึกถึงหน้ารัฐมนตรีด้วย คือจับใครต่อใครก็ไม่รู้ มาเป็นที่ปรึกษาจะเอาเงินเดือนใส่ไปอย่างนั้น ผมว่ามันไม่ยุติธรรมกับสังคมนี้”
ผู้สื่อข่าวถามว่าคนดีๆ ไม่มีให้เลือกแล้วหรือ นายสมัคร กล่าวว่า ก็มี แต่ตนจะดูสิว่า เขายังโอเคกับที่ปรึกษามั้ย หรือถ้าบอกว่าเป็นที่ปรึกษาก็จะถูกตรวจสอบ 7 ชั่วโครตอีกก็จะบอกว่าหาไม่ได้ก็ต้องเอาอย่างนี้ อย่างไรก็ตาม ส.ส.สอบตกทีมีศักยภาพดีๆ ก็มี เช่น พล.ต.อ.วิเชียรโชติ โชติสุกรัตน์ อดีต ป.ป.ป. ท่านสอบตก ทำไมไม่เอามาเป็น ที่ปรึกษาเป็นเรื่องประหลาด ตนขอไปดูหน่อย เพื่อรักษาหน้ากันเอง ไม่อยากให้สุ่มสี่สุ่มห้าจับยัดใส่เข้ามาเรื่องนี้ขอเป็นเรื่องภายใน
ส่วนใครเป็นคนจับยัดใส่มานั้น นายสมัคร หัวเราะ ก่อนจะกล่าวว่า ขอถอนศัพท์นี้ เดี๋ยวจะมายุ่งอีก การจัดสรรเลขานุการรัฐมนตรีและที่ปรึกษาตนรู้ว่าเป็นระบบพรรค แต่ตนก็จะพูดถ้ามันโอเคก็ไม่เป็นปัญหา คนเป็นเลขาฯไม่ขัดข้องแต่ที่ปรึกษาอยากให้หน้าตาเข้าท่าหน่อย อยากให้เลือกให้ดีหน่อย นี่เป็นความแส่ของตน
ส่วนที่มีข่าวว่า นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เข้ามาช่วยจัดรายชื่อ นายสมัครกล่าวว่า อย่ามาหาเรื่อง นายเนวินเขาเป็นใคร เขา อยู่ใน111 คนที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เขามีปัญหาเอาเขามายุ่งทำไม ข่าวจากไหน สถานีไหนรายงาน ตนฟังทุกช่อง อ่านทุกฉบับ ไม่เห็นมีชื่อนายเนวิน ปั๊ดโถ่
เหน็บเฉลิมควรฝากลูกเป็นเลขาฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่าพวกลูกหลานรัฐมนตรีจะเอาเขาออกได้หรือ อย่าง นายวัน อยู่บำรุง ลูกช่วย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุ่ง รมว.มหาดไทย ที่มีข่าวว่าจะไปเป็นเลขานุการ รมว.สาธารณสุข นายสมัครกล่าวว่า ไม่เอาออก ร.ต.อ.เฉลิม วันนั้นพูดตกไปประโยคหนึ่ง คือที่จริงถ้าเขาบอกว่า ตกลงขอโทษขอโพย ลูกเขาไม่มาเกี่ยวข้องก็โอเคไง ร.ต.อ.เฉลิม ต้องพูดต่ออีกประโยคว่า “แต่ทว่าลูกผม เรียนปริญญาโตมาอายุ 35 แล้ว ถ้ารัฐมนตรีท่านไหนไม่รังเกียจให้ลูกได้เป็นเลขาฯ ก็ขอบคุณ “ถ้าพูดซะอย่างนี้มันก็จบเรื่อง คือขอเขาซะเลย ก็ไม่พูด พูดออกตัวซะตรงนั้นเลยว่ากระทรวงนี้ไม่มายุ่ง ไม่ทำให้พ่อเสียหาย ก็ดี วันนั้นผมยังชมในครม.เลย แต่พอถึงเวลา ปรากฎว่า ....น่าจะพูดต่ออีกประโยคหนึ่งว่าลูกผมเรียนจบสวนกุหลาบ จบปริญญาโทใครจะเอาไปใช้งานก็ไม่ขัดข้อง เท่านี้ก็จบเรื่องก็เจ๊ากันไป ก็ไม่พูด”
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าประชาชนยังทำใจไม่ได้ นายสมัครกล่าวว่า ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องไปกินยาทัมใจ เมื่อถามว่าแถมลูก นายวัฒนา อัศวเหม อีกคนหนึ่ง นายสมัครกล่าวว่า “โอ๊ย นั่นผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร”
เฉลิมโวลูกความรู้ท้วมหัวมีสติปัญญา
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ การที่บุตรชาย นายวัน อยู่บำรุง จะมารับตำแหน่งเลขานุการรมช.สาธารณสุขว่า ตนยังไม่รู้เลย บุตรชายเองก็มาถามตนเหมือนกัน และตนก็บอกไปแล้วว่าไม่ทราบจริงๆ เพราะเดิมทีจะลงเลือกตั้ง พรรคก็บอกว่าให้รอก่อน ไว้หลังเลือกตั้งก็ดูว่าจะให้ทำอะไรได้บ้าง เราก็รอเรื่อยมา เป็นเรื่องของระบบพรรคพลังประชาชนทั้งนั้น ทางพรรค เป็นคนจัดทำ ซึ่งในส่วนของตนพรรคก็จัดมา กระทรวงอื่นๆ ก็คงเหมือนกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าลูกชายจะมานั่งทำงานในจุดนี้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ยังพูดไม่ได้ เพราะยังไม่มีเอกสารที่เป็นรูปธรรม เมื่อถามต่อว่า คิดว่า บุตรชายจะสามารถทำงานได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม ย้อนผู้สื่อข่าวว่า “หนู คนเรียนหนังสือจบระดับปริญญาโทมันน่าจะมีสติปัญญานะแต่เห็นว่า นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข จะให้เป็นพรีเซ็นเตอร์”
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไรกับการเป็นพรีเซ็นเตอร์มีกระแสตอบรับเป็นไป ในทางบวก เพราะมีชื่อเสียงอยู่แล้ว ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวพร้อมหัวเราะว่า ไม่ต้องลงทุนโฆษณา ส่วนที่มีคนวิจารณ์นั้นถือว่าเป็นสีสัน ถ้าเข้ามาอยู่ในการเมือง ต้องอดทน และต้องรับฟังการวิพากษ์วิจารณ์ ส่วนการที่นายไชยา บอกว่า นายวัน เป็น “องคุลีมารกลับใจ” นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ก็ดีไม่เป็นไร และนายไชยารู้จักลูกของตนมาตั้งแต่เด็กๆ
“ชวรัตน์” อ้าแขนรับลูกมท.1
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมช.สาธารณสุข กล่าว ว่า ขณะนี้ตนยังไม่พบกับนายวัน อยู่บำรุง ซึ่งจะมารับตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรี แต่ก็ไม่มีปัญหา หากต้องทำงานร่วมกัน นายวันเป็นเด็กรุ่นใหม่ไฟแรง จบการศึกษาปริญญาโท ถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่ดีคนหนึ่ง สังคมควรจะให้โอกาส อย่าไปปิดกั้นโอกาสเขา
“ปัญหาที่ผ่านมาเกิดขึ้นสมัยเป็นเด็ก แต่ปัจจุบันโตแล้ว มีวุฒิภาวะเพิ่มขึ้น ในอดีตก็ยังไม่เห็นว่าเลวอะไร ไม่ได้ติดคุกติดตาราง ไม่มีคดีความอะไร หากสังคมลงโทษอย่างนี้ไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่ ถือว่าระยะทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์คน เชื่อว่าผมสามารถทำให้เขาเป็นลูกน้องที่ดีได้ ส่วนที่เขามาทำหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ เลิกเหล้า เลิกบุหรี่ ก็ดี กระทรวงไม่ต้องเสียเงินจ้างพรีเซ็นเตอร์ราคาแพง คนหนึ่งเสียเป็นแสนบาท หากเขาดังผมก็ดังไปด้วย”
ด้านนายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า หากนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข จะให้นายวัน อยู่บำรุง เป็น พรีเซ็นต์เตอร์ เลิกเหล้า-บุหรี่ ก็สามารถทำได้ และจะให้การสนับสนุน หากเขาสามารถ กลับตัวกลับใจได้ เพราะทุกคนหากทำผิดพลาดไปแล้วพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงก็ควร ให้โอกาส ไม่มีใครสายเกินที่จะแก้ไขปรับปรุงตัว ซึ่งหากนายวันทำได้ก็ขออนุโมทนา ยินดีด้วย
“น้องเขยแม้ว”รับจัดคนไม่เหมาะกับงาน
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ศึกษาธิการ น้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่านายสมัคร สุนทรเวช ไม่ได้บ่นในที่ประชุมถึงการแต่งตั้งเลขานุการรัฐมนตี และที่ปรึกษารัฐมนตรี อย่างไรก็ตามผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นเลขาฯและที่ปรึกษาฯเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถแต่ถ้าพูดถึงการจัดคนให้เหมาะกับงานกระทรวงนั้นยังไม่เหมาะสม แต่ถ้าหากรัฐมนตรียังยืนยันมาว่าจะใช้เลขานุการและที่ปรึกษาคนดังกล่าวก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่ให้ชี้แจงเหตุผลมาว่า ทำไมต้องตั้งคนนั้นคนนี้
อย่างไรก็ตามแม้รัฐมนตรีคนไหนยังไม่มีทีมงานก็เชื่อว่ายังทำงานได้อย่าง มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ในวันนี้เลขานุการโควตาพรรคเพื่อแผ่นดินผ่านทั้งหมดแล้ว ส่วนพรรคพลังประชาชนต้องเข้าครม.สัปดาห์หน้าอีกครั้ง
สุวิทย์ขอโอกาสให้ชนม์สวัสดิ์
นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงการแบ่งงานในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีว่า หลักการทั่วไปก็คงเป็นไปตามปกติ ใครจะดูแลกำกับกระทรวงไหนก็ดูแลไปตามนั้น ส่วนงานพิเศษนอกเหนือจากนี้ อยู่ที่นายกรัฐมนตรีจะพิจารณา ว่ามีหน่วยงานอื่น ให้ดูแล จะมีคณะกรรมการไหนเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะพิจารณากันต่อไป
ส่วนการแต่งตั้งเลขานุการรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดินที่ให้ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม บุตรชายนายวัฒนา อัศวเหม เป็นเลขานุการ รมช.มหาดไทย (นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รมช.มหาดไทย) นั้น นายสุวิทย์ กล่าวว่า อยู่ที่รัฐมนตรีแต่ละท่าน ทางพรรคได้มอบหมายให้รัฐมนตรีพิจารณาและนำเสนอในทีม เพราะต้องทำงานร่วมกับรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของพรรคได้มีทักท้วงบ้างหรือไม่ เนื่องจากบุคคล ที่เสนอไปนั้นมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์รัฐบาลที่อาจจะทำให้ขี้เหร่ยิ่งกว่าเดิม นายสุวิทย์ กล่าวว่า คงไม่ คิดว่า เราต้องให้โอกาสกับทุกคนได้มีโอกาสทำงาน เพราะเรายังไม่เห็นบุคคลเหล่านี้มาทำงานทางการเมือง และการเข้ามาทำงานทางการเมือง เป็นบุคคลที่เสียสละอยู่แล้ว ตนคิดว่า การทำงานให้บ้านเมืองเป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้นคนที่เข้ามาทำงานให้บ้านเมืองต้องมีจิตใจหนักแน่น และทำอะไรคิดถึงประเทศชาติ และประชาชนเป็นหลัก ตนคิดว่าหากคิดถึงหลักตรงนี้ก็จะไม่มีปัญหา ส่วนจะเสริมความขี้เหร่ของรัฐบาลหรือไม่นั้น รัฐบาลต้องดูที่ฝีมือดูที่หน้าตาของรัฐมนตรี ที่บางคนหล่อ บางคนสวยก็คงไม่ใช่ คิดว่าควรดูที่ผลงานมากกว่า ผลงานดีหรือไม่อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจว่า นายชนม์สวัสดิ์ จะทำงานได้ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย นายสุวิทย์ กล่าวว่า จริงๆ อย่างเพิ่งไปมองคนในแง่ร้ายเกินไป มองในแง่ดีบ้าง โลกจะได้สดใส
“พินิจ”ส่งน้องสาวนั่งเลขาฯ “สุวิทย์”
นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า ครม. ได้มีมติตามที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ยุติธรรมเสนอ แต่งตั้ง 1.นางพรรณี จารุสมบัติ ให้ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง 2.พล.อ.ธงชัย เกื้อสกุล ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี
“แต่บางกระทรวงที่ปรึกษามันไม่มีอะไรยิ่งกว่เลขาฯอีก ผมจะถามเขาหน่อยว่าได้มาอย่างไร ใครเขาจัดการใส่มาให้อย่างนี้ และก็ทำกันชนิดเอาพวกใส่เข้าไปเพื่อให้ได้เงินเดือน อย่างนี้ต้องดูหน้าตาตัวเองบ้างว่าที่ปรึกษาของตัวเองเป็นอย่างไรW
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าไม่ได้ดั่งใจ นายสมัคร กล่าวว่า “ไม่ใช่ไม่ได้ดั่งใจ แต่ผมควรจะให้ข้อคิดรัฐมนตรีท่านหน่อยว่าใครจับยัดใส่มาให้ บางคนเลขาฯน่ะเจ๋ง แต่ที่ปรึกษา....อูย..ไม่ไหว เราก็เลยบอกว่าทำอย่างนี้ได้อย่างไร แต่ ครึ่งหนึ่งโอเค อีกครึ่งหนึ่งจะขอคุยเป็นการส่วนตัวว่า คุณเอาอย่างนี้หรอ ใครเขาบังคับให้เอามาอย่างนี้ แล้วคุณจะหาเองได้มั๊ย”
ต่อข้อถถามว่าจะเพิ่มแรงเสียดทานให้เกิดปัญหาภายในพรรคพลังประชาชนหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า “มันไม่เป็นปัญหาหรอกครับ ผมก็ยอมรับ แต่ต้องนึกถึงหน้าผมด้วย นึกถึงหน้ารัฐมนตรีด้วย คือจับใครต่อใครก็ไม่รู้ มาเป็นที่ปรึกษาจะเอาเงินเดือนใส่ไปอย่างนั้น ผมว่ามันไม่ยุติธรรมกับสังคมนี้”
ผู้สื่อข่าวถามว่าคนดีๆ ไม่มีให้เลือกแล้วหรือ นายสมัคร กล่าวว่า ก็มี แต่ตนจะดูสิว่า เขายังโอเคกับที่ปรึกษามั้ย หรือถ้าบอกว่าเป็นที่ปรึกษาก็จะถูกตรวจสอบ 7 ชั่วโครตอีกก็จะบอกว่าหาไม่ได้ก็ต้องเอาอย่างนี้ อย่างไรก็ตาม ส.ส.สอบตกทีมีศักยภาพดีๆ ก็มี เช่น พล.ต.อ.วิเชียรโชติ โชติสุกรัตน์ อดีต ป.ป.ป. ท่านสอบตก ทำไมไม่เอามาเป็น ที่ปรึกษาเป็นเรื่องประหลาด ตนขอไปดูหน่อย เพื่อรักษาหน้ากันเอง ไม่อยากให้สุ่มสี่สุ่มห้าจับยัดใส่เข้ามาเรื่องนี้ขอเป็นเรื่องภายใน
ส่วนใครเป็นคนจับยัดใส่มานั้น นายสมัคร หัวเราะ ก่อนจะกล่าวว่า ขอถอนศัพท์นี้ เดี๋ยวจะมายุ่งอีก การจัดสรรเลขานุการรัฐมนตรีและที่ปรึกษาตนรู้ว่าเป็นระบบพรรค แต่ตนก็จะพูดถ้ามันโอเคก็ไม่เป็นปัญหา คนเป็นเลขาฯไม่ขัดข้องแต่ที่ปรึกษาอยากให้หน้าตาเข้าท่าหน่อย อยากให้เลือกให้ดีหน่อย นี่เป็นความแส่ของตน
ส่วนที่มีข่าวว่า นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เข้ามาช่วยจัดรายชื่อ นายสมัครกล่าวว่า อย่ามาหาเรื่อง นายเนวินเขาเป็นใคร เขา อยู่ใน111 คนที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เขามีปัญหาเอาเขามายุ่งทำไม ข่าวจากไหน สถานีไหนรายงาน ตนฟังทุกช่อง อ่านทุกฉบับ ไม่เห็นมีชื่อนายเนวิน ปั๊ดโถ่
เหน็บเฉลิมควรฝากลูกเป็นเลขาฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่าพวกลูกหลานรัฐมนตรีจะเอาเขาออกได้หรือ อย่าง นายวัน อยู่บำรุง ลูกช่วย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุ่ง รมว.มหาดไทย ที่มีข่าวว่าจะไปเป็นเลขานุการ รมว.สาธารณสุข นายสมัครกล่าวว่า ไม่เอาออก ร.ต.อ.เฉลิม วันนั้นพูดตกไปประโยคหนึ่ง คือที่จริงถ้าเขาบอกว่า ตกลงขอโทษขอโพย ลูกเขาไม่มาเกี่ยวข้องก็โอเคไง ร.ต.อ.เฉลิม ต้องพูดต่ออีกประโยคว่า “แต่ทว่าลูกผม เรียนปริญญาโตมาอายุ 35 แล้ว ถ้ารัฐมนตรีท่านไหนไม่รังเกียจให้ลูกได้เป็นเลขาฯ ก็ขอบคุณ “ถ้าพูดซะอย่างนี้มันก็จบเรื่อง คือขอเขาซะเลย ก็ไม่พูด พูดออกตัวซะตรงนั้นเลยว่ากระทรวงนี้ไม่มายุ่ง ไม่ทำให้พ่อเสียหาย ก็ดี วันนั้นผมยังชมในครม.เลย แต่พอถึงเวลา ปรากฎว่า ....น่าจะพูดต่ออีกประโยคหนึ่งว่าลูกผมเรียนจบสวนกุหลาบ จบปริญญาโทใครจะเอาไปใช้งานก็ไม่ขัดข้อง เท่านี้ก็จบเรื่องก็เจ๊ากันไป ก็ไม่พูด”
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าประชาชนยังทำใจไม่ได้ นายสมัครกล่าวว่า ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องไปกินยาทัมใจ เมื่อถามว่าแถมลูก นายวัฒนา อัศวเหม อีกคนหนึ่ง นายสมัครกล่าวว่า “โอ๊ย นั่นผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร”
เฉลิมโวลูกความรู้ท้วมหัวมีสติปัญญา
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ การที่บุตรชาย นายวัน อยู่บำรุง จะมารับตำแหน่งเลขานุการรมช.สาธารณสุขว่า ตนยังไม่รู้เลย บุตรชายเองก็มาถามตนเหมือนกัน และตนก็บอกไปแล้วว่าไม่ทราบจริงๆ เพราะเดิมทีจะลงเลือกตั้ง พรรคก็บอกว่าให้รอก่อน ไว้หลังเลือกตั้งก็ดูว่าจะให้ทำอะไรได้บ้าง เราก็รอเรื่อยมา เป็นเรื่องของระบบพรรคพลังประชาชนทั้งนั้น ทางพรรค เป็นคนจัดทำ ซึ่งในส่วนของตนพรรคก็จัดมา กระทรวงอื่นๆ ก็คงเหมือนกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าลูกชายจะมานั่งทำงานในจุดนี้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ยังพูดไม่ได้ เพราะยังไม่มีเอกสารที่เป็นรูปธรรม เมื่อถามต่อว่า คิดว่า บุตรชายจะสามารถทำงานได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม ย้อนผู้สื่อข่าวว่า “หนู คนเรียนหนังสือจบระดับปริญญาโทมันน่าจะมีสติปัญญานะแต่เห็นว่า นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข จะให้เป็นพรีเซ็นเตอร์”
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไรกับการเป็นพรีเซ็นเตอร์มีกระแสตอบรับเป็นไป ในทางบวก เพราะมีชื่อเสียงอยู่แล้ว ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวพร้อมหัวเราะว่า ไม่ต้องลงทุนโฆษณา ส่วนที่มีคนวิจารณ์นั้นถือว่าเป็นสีสัน ถ้าเข้ามาอยู่ในการเมือง ต้องอดทน และต้องรับฟังการวิพากษ์วิจารณ์ ส่วนการที่นายไชยา บอกว่า นายวัน เป็น “องคุลีมารกลับใจ” นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ก็ดีไม่เป็นไร และนายไชยารู้จักลูกของตนมาตั้งแต่เด็กๆ
“ชวรัตน์” อ้าแขนรับลูกมท.1
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมช.สาธารณสุข กล่าว ว่า ขณะนี้ตนยังไม่พบกับนายวัน อยู่บำรุง ซึ่งจะมารับตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรี แต่ก็ไม่มีปัญหา หากต้องทำงานร่วมกัน นายวันเป็นเด็กรุ่นใหม่ไฟแรง จบการศึกษาปริญญาโท ถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่ดีคนหนึ่ง สังคมควรจะให้โอกาส อย่าไปปิดกั้นโอกาสเขา
“ปัญหาที่ผ่านมาเกิดขึ้นสมัยเป็นเด็ก แต่ปัจจุบันโตแล้ว มีวุฒิภาวะเพิ่มขึ้น ในอดีตก็ยังไม่เห็นว่าเลวอะไร ไม่ได้ติดคุกติดตาราง ไม่มีคดีความอะไร หากสังคมลงโทษอย่างนี้ไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่ ถือว่าระยะทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์คน เชื่อว่าผมสามารถทำให้เขาเป็นลูกน้องที่ดีได้ ส่วนที่เขามาทำหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ เลิกเหล้า เลิกบุหรี่ ก็ดี กระทรวงไม่ต้องเสียเงินจ้างพรีเซ็นเตอร์ราคาแพง คนหนึ่งเสียเป็นแสนบาท หากเขาดังผมก็ดังไปด้วย”
ด้านนายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า หากนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข จะให้นายวัน อยู่บำรุง เป็น พรีเซ็นต์เตอร์ เลิกเหล้า-บุหรี่ ก็สามารถทำได้ และจะให้การสนับสนุน หากเขาสามารถ กลับตัวกลับใจได้ เพราะทุกคนหากทำผิดพลาดไปแล้วพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงก็ควร ให้โอกาส ไม่มีใครสายเกินที่จะแก้ไขปรับปรุงตัว ซึ่งหากนายวันทำได้ก็ขออนุโมทนา ยินดีด้วย
“น้องเขยแม้ว”รับจัดคนไม่เหมาะกับงาน
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ศึกษาธิการ น้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่านายสมัคร สุนทรเวช ไม่ได้บ่นในที่ประชุมถึงการแต่งตั้งเลขานุการรัฐมนตี และที่ปรึกษารัฐมนตรี อย่างไรก็ตามผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นเลขาฯและที่ปรึกษาฯเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถแต่ถ้าพูดถึงการจัดคนให้เหมาะกับงานกระทรวงนั้นยังไม่เหมาะสม แต่ถ้าหากรัฐมนตรียังยืนยันมาว่าจะใช้เลขานุการและที่ปรึกษาคนดังกล่าวก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่ให้ชี้แจงเหตุผลมาว่า ทำไมต้องตั้งคนนั้นคนนี้
อย่างไรก็ตามแม้รัฐมนตรีคนไหนยังไม่มีทีมงานก็เชื่อว่ายังทำงานได้อย่าง มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ในวันนี้เลขานุการโควตาพรรคเพื่อแผ่นดินผ่านทั้งหมดแล้ว ส่วนพรรคพลังประชาชนต้องเข้าครม.สัปดาห์หน้าอีกครั้ง
สุวิทย์ขอโอกาสให้ชนม์สวัสดิ์
นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงการแบ่งงานในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีว่า หลักการทั่วไปก็คงเป็นไปตามปกติ ใครจะดูแลกำกับกระทรวงไหนก็ดูแลไปตามนั้น ส่วนงานพิเศษนอกเหนือจากนี้ อยู่ที่นายกรัฐมนตรีจะพิจารณา ว่ามีหน่วยงานอื่น ให้ดูแล จะมีคณะกรรมการไหนเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะพิจารณากันต่อไป
ส่วนการแต่งตั้งเลขานุการรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดินที่ให้ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม บุตรชายนายวัฒนา อัศวเหม เป็นเลขานุการ รมช.มหาดไทย (นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รมช.มหาดไทย) นั้น นายสุวิทย์ กล่าวว่า อยู่ที่รัฐมนตรีแต่ละท่าน ทางพรรคได้มอบหมายให้รัฐมนตรีพิจารณาและนำเสนอในทีม เพราะต้องทำงานร่วมกับรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของพรรคได้มีทักท้วงบ้างหรือไม่ เนื่องจากบุคคล ที่เสนอไปนั้นมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์รัฐบาลที่อาจจะทำให้ขี้เหร่ยิ่งกว่าเดิม นายสุวิทย์ กล่าวว่า คงไม่ คิดว่า เราต้องให้โอกาสกับทุกคนได้มีโอกาสทำงาน เพราะเรายังไม่เห็นบุคคลเหล่านี้มาทำงานทางการเมือง และการเข้ามาทำงานทางการเมือง เป็นบุคคลที่เสียสละอยู่แล้ว ตนคิดว่า การทำงานให้บ้านเมืองเป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้นคนที่เข้ามาทำงานให้บ้านเมืองต้องมีจิตใจหนักแน่น และทำอะไรคิดถึงประเทศชาติ และประชาชนเป็นหลัก ตนคิดว่าหากคิดถึงหลักตรงนี้ก็จะไม่มีปัญหา ส่วนจะเสริมความขี้เหร่ของรัฐบาลหรือไม่นั้น รัฐบาลต้องดูที่ฝีมือดูที่หน้าตาของรัฐมนตรี ที่บางคนหล่อ บางคนสวยก็คงไม่ใช่ คิดว่าควรดูที่ผลงานมากกว่า ผลงานดีหรือไม่อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจว่า นายชนม์สวัสดิ์ จะทำงานได้ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย นายสุวิทย์ กล่าวว่า จริงๆ อย่างเพิ่งไปมองคนในแง่ร้ายเกินไป มองในแง่ดีบ้าง โลกจะได้สดใส
“พินิจ”ส่งน้องสาวนั่งเลขาฯ “สุวิทย์”
นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า ครม. ได้มีมติตามที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ยุติธรรมเสนอ แต่งตั้ง 1.นางพรรณี จารุสมบัติ ให้ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง 2.พล.อ.ธงชัย เกื้อสกุล ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี
