“หมัก” สวมบทขิงแก่ ผวาพังก่อนกำหนด เบรกเลขาฯ-กุนซือหน้าผับโควตา “พลังแม้ว” ยกล็อต ตีกลับให้ทบทวนใหม่กว่าครึ่ง อ้างมือยังไม่ถึง ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลอื่นไม่แตะ ส่วนนโยบายรัฐบาลไม่ร่นเวลานัดแถลงต่อสภาวันจันทร์ที่ 18 ก.พ.ตามกำหนดเดิม
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง สมัคร สุนทรเวช แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี
วันนี้ (12 ก.พ.)นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการแต่งตั้งเลขานุการรัฐมนตรีและ ที่ปรึกษารัฐมนตรี ที่มีชื่อบุตรชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทยด้วย ว่า ตนจะบอกให้ฟังเรื่องคนที่เขาตั้งอะไรทั้งหมดนี้พรรคอื่นเขาไม่มีปัญหา เขาตั้งมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่พรรคพลังประชาชนที่ตนขอเลื่อนไป 1 อาทิตย์ เพราะตนในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรีจะไปคุยกับรัฐมนตรีคือ ทั้งแผงของเรา 20 กว่า ครึ่งหนึ่งไม่มีปัญหาทั้งที่ปรึกษาและเลขานุการ แต่ตนดูแล้วก็ขอดูหน่อยว่า เลขาฯ เจ๋ง ที่ปรึกษาใครก็ไม่รู้ถามรัฐมนตรีไปว่าอย่างไร ยกตัวอย่าง รัฐมนตรีต่างประเทศ เลขาฯ เขาชื่อศิรัมภา ก็โอเค เขาเป็นส.ส.สอบตก ที่ปรึกษาเขาดร.วิทยา พุกะมาน อดีตเอกอัครราชทูตอย่างนี้ไม่น่าเกลียดใช้ได้
“แต่ทีนี้เลขาคนนี้ บางครั้งที่ปรึกษามันไม่มีอะไรยิ่งกว่าเลขาอีก ผมจะถามเขาหน่อยว่า ได้อย่างไรใครเขาจัดการใส่อย่างนี้มาให้และก็ทำกันแบบชนิดเอาทั้งพวกใส่เข้าไป แล้วให้ได้เงินเดือน อย่างนี้แล้วไม่รู้ถึงหน้าตาตัวเองบ้าง ว่าที่ปรึกษาของตัวเป็นอย่างไร” นายสมัครกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าไม่ได้ดั่งใจ นายสมัครกล่าวว่า ไม่ใช่ไม่ได้ดั่งใจ ตนควรจะให้ข้อคิดรัฐมนตรีท่านหน่อยใครจับยัดใส่มาให้ข้างบน ข้างล่าง ๆ ไอ้เลขาฯน่ะเจ๋ง แต่ที่ปรึกษา....อูย..ไม่ไหว เราก็เลยบอกว่าทำอย่างนี้ได้อย่างไร แต่ทั้งหมด 20 กว่า ครึ่งหนึ่ง โอเค อีกครึ่งหนึ่งจะขอคุยเป็นส่วนตัวว่า คุณเอาอย่างนี้หรอ ใครเขาบังคับให้เอามาอย่างนี้ แล้วคุณจะหาเองได้มั๊ย
เมื่อถามว่า จะเป็นการเพิ่มแรงเสียดทานให้เกิดปัญหาภายในหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า “มันไม่เป็นปัญหาหรอกครับ ผมก็ยอมรับ ตัวผมเองต้องนึกถึงหน้าผมด้วย นึกถึงหน้ารัฐมนตรีด้วย คือจับใครต่อใครก็ไม่รู้ มาเป็นที่ปรึกษาจะเอาเงินเดือนใส่ไปอย่างนั้น ผมว่ามันไม่ยุติธรรมกับสังคมนี้”
เมื่อถามว่า คนดีๆไม่มีให้เลือกแล้วหรอ นายสมัครกล่าวว่า ก็มี กำลังนี้ตนจะดูสิว่าที่ปรึกษาเขายังโอเคมั๊ย ถ้าไปเจอประเด็นเดียวกัน บอกเป็นที่ปรึกษาก็ถูกตรวจสอบ7 ชั่วโคตรอีก ให้มันแน่อย่างนี้ ตนก็จะบอกว่า มันหาไม่ได้ก็ต้องเอาอย่างนี้ เพราะเป็นอย่างนี้ แต่จริงๆแล้วไอ้คนสอบตกที่มีสถานะดีๆ ก็มี เช่น นายวิเชียรโชติ อดีตคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ป.) และท่านสอบตก มาสมัครกับเรา ทำไมอย่างนี้ไม่มาเป็นที่ปรึกษา มีใครคนหนึ่งมา เป็นซึ่งประหลาด ตนขอไปดูหน่อย เพื่อรักษาหน้ากันเอง ส่วนพรรคอื่นเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว แต่ในส่วนของพลังประชาชน ได้ขออภัยไปแล้วขอสะดุดหน่อย จะขอดูหน่อย ไม่อยากให้สุ่มสี่สุ่มห้าจับยัดใส่เข้ามาเรื่องนี้ขอเป็นเรื่องภายใน
เมื่อถามว่า ใครเป็นคนจับยัดใส่มา นายสมัคร หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า ขอถอนศัพท์นี้ เดี๋ยวจะมายุ่งอีก สื่อยังถามว่า เหมือนเป็นระบบพรรคไปแก้ไขเดี๋ยวก็หาเรื่อง ตนก็รู้ว่าระบบพรรค แต่เราก็จะพูด ถ้ามันโอเค ก็ไม่เป็นปัญหา คนเป็นเลขาก็ไม่ขัดข้อง แต่คนเป็นที่ปรึกษาอยากให้หน้าตามันเข้าท่าเข้าทางหน่อย อยากให้เลือกให้ดีหน่อย นี่เป็นความแส่
เมื่อถามว่า มีข่าวว่า นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เข้ามาช่วยจัดรายชื่อ นายสมัครกล่าวว่า อย่ามาหาเรื่อง นายเนวินเขาเป็นใคร เขา 111 เขามีปัญหาเอาเขามายุ่งทำไม ข่าวจากไหน สถานีไหนรายงาน ตนฟังทุกช่อง อ่านทุกฉบับ ไม่เห็นมีชื่อเนวิน ปั๊ดโถ่ ส่วนเรื่องแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว
เมื่อถามว่า พวกลูกหลานรัฐมนตรีจะเอาเขาออกได้หรือ นายสมัครกล่าวว่า ไม่เอาออก คือร.ต.อ.เฉลิม วันนั้นพูดตกไปประโยคหนึ่งคือที่จริงถ้าเขาบอกว่า ตกลงขอโทษขอโพย ลูกเขาไม่มาเกี่ยวข้องก็โอเคไง ร.ต.อ.เฉลิม ต้องพูดต่ออีกประโยคว่า “แต่ทว่าลูกผม เรียนปริญญาโตมาอายุ 35 แล้ว ถ้ารัฐมนตรีท่านไหนไม่รังเกียจให้ลูกได้เป็นเลขาฯ ก็ขอบคุณ ถ้าพูดซะอย่างนี้มันก็จบเรื่อง คือขอเขาซะเลย ก็ไม่พูด พูดออกตัวซะตรงนั้นเลย ว่ากระทรวงนี้ไม่มายุ่ง ไม่ทำให้พ่อเสียหาย ก็ดี วันนั้นผมยังชมในครม.เลย แต่พอถึงเวลา ปรากฎว่า ....น่าจะพูดต่ออีกประโยคหนึ่ง ว่าลูกผมเรียนจบสวนกุหลาบ จบปริญญาโทใครจะเอาไปใช้งานก็ไม่ขัดข้อง เท่านี้ก็จบเรื่องก็เจ๊ากันไป ก็ไม่พูด”
เมื่อถามว่า ประชาชนยังทำใจไม่ได้ นายสมัครกล่าวว่า ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องไปกินยาทัมใจ เมื่อถามว่าแถมลูกนายวัฒนา อัศวเหม อีกคนหนึ่ง นายสมัครกล่าวว่า โอ๊ย นั่นผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
ด้าน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงปัญหาการแต่งตั้งเลขานุการและที่ปรึกษารัฐมนตรีว่ากฤษฎีกายังไม่ได้ตีความ แต่ในส่วนของนายกรัฐมนตรีไม่ได้บ่นในที่ประชุมถึงการแต่งตั้งที่มีข่าวในช่วงนี้
“จริงอยู่ที่เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ แต่ถ้าพูดถึงการจัดคนให้เหมาะกับงานกระทรวงนั้นยังไม่เหมาะสม แต่ทั้งนี้หากรัฐมนตรียังยืนยันมาว่าจะใช้เลขานุการและที่ปรึกษาคนดังกล่าวก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่ให้ชี้แจงเหตุผลมาว่าทำไมต้องตั้งคนคนนั้น อย่างไรก็ตาม แม้รัฐมนตรีคนไหนยังไม่มีทีมงานก็เชื่อว่ายังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะเสนอเข้ามาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า” นายสมชาย กล่าว
ส่วนเรื่องวันเวลาของการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภา นายสมชาย กล่าวด้วยว่า เป็นหน้าที่ของวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านต้องหารือกัน และสำหรับเรื่องของตัวนโยบายขณะนี้ก็ยังไม่สมบูรณ์ จะต้องมีการปรับเพิ่มเติมบางถ้อยคำ โดยให้แต่ละกระทรวงเร่งเสนอความเห็นนโยบายของตัวเองเข้ามาอีกครั้งก่อนแถลงต่อสภา