ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ –เตรียมประกาศศักยภาพดัน จ.กระบี่ สู่ศูนย์กลางจังหวัดอันดามันสร้างฐานฮาลาลรองรับมุสลิมโลกหวังใช้ IMT-GT โยงมาเลเซีย ภายหลังการจัดงานเมาลิดกลาง จ.กระบี่ ประสบความสำเร็จ คนล้นหลามนับแสน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างวันที่ 22-24 กุมภาพันธ์ ที่ โรงแรมกระบี่มารีไทม์ พาร์ต แอนด์ สปา รีสอร์ท สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย จัดประชุมนานาชาติด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาล อุตสาหกรรมและธุรกิจ พ.ศ.2551 งานแสดงสินค้าฮาลาลสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ IMT – GT พ.ศ.2551 และการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่องการพัฒนาผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกี่ยวกับมาตรฐานฮาลาล
ภายในงานมีการบรรยายเรื่องโอกาสของธุรกิจและการค้าฮาลาลในโลกหลังยุคเศรษฐกิจใหม่, ความหมายของฮาลาลในศาสนาอิสลามและมาตรฐานสากล โดย รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน คณบดีคณะสหเวชศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศักยภาพของพื้นที่อันดามัน ในการทำธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวเพื่อผู้บริโภคมุสลิม, การทำความเข้าใจกับคู่มือมาตรฐานอาหารฮาลาล ท่องเที่ยวและการวางระบบ HAL-Q เพื่อการผลิตอาหาฮาลาลอย่างถูกต้องในภัตตาคารและโรงแรม พร้อมทั้งมีการมอบหนังสือสำคัญแก่ผู้ประกอบการด้านภัตตาคารและโรงแรม เพื่อให้มุสลิมเข้ามาเลือกหารับประทานอาหารมุสลิมตามแบบฉบับฮาลาล
รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เหตุผลที่ใช้จังหวัดกระบี่เป็นศูนย์กลาง ในการจัดงานครั้งนี้ เพราะกระบี่มีงานวัฒนธรรมอิสลามหรืองานเมาลิดกลางที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งจัดมาแล้ว 26 ปีมีผู้เข้าร่วมงานครั้งละนับแสนคน แต่การจัดงานในแต่ละปี เหมือนน้ำที่เข้ามาแล้วออกไปไม่มีการกักเก็บเอาไว้ไม่ต่างจากผู้คนที่เข้ามาในงานวัดแล้วจากไป จึงได้เสนอต่อธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เพื่อให้นำชาวมุสลิมเข้ามายังพื้นที่ภาคใต้ และเห็นว่าชุมชนมุสลิมในกระบี่แข็งแรงด้านวัฒนธรรม
ขณะที่มาเลเซียได้จัดระเบียงเศรษฐกิจตอนเหนือ ( Northern Economic Corridor) เพื่อเน้นการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันตกของมาเลเซีย ซึ่งส่วนนี้ได้ขอไปทางมาเลเซียให้ขยายความร่วมมือมาเป็นระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก (Western Economic Corridor) โดยครอบคลุมพื้นที่จังหวัดอันดามันทั้งหมด กอปรกับการขยายพื้นที่ของสามเหลี่ยมเศรษฐกิจอินโดนีเซียมาเลเซียและไทยหรือ (IMT-GT) ได้ขยายกรอบครอบคลุม 14 จังหวัดภาคใต้ จึงเห็นว่าน่าจะให้กระบี่เป็นเมืองต้นแบบของฮาลาลฮับ (Halal Hub)
รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน กล่าวอีกว่า วันนี้ผู้นับถือศาสนาอิสลามในกระบี่มีร้อยละ 50 ของประชากรทั้งจังหวัดชาวมุสลิมทั่วโลกให้ความสนใจ ต่อการท่องเที่ยวในกระบี่อย่างมากวัฒนธรรมใกล้เคียง 3 จังหวัดภาคใต้มีศักยภาพ และความพร้อมที่จะนำแนวคิดไปถ่ายทอดใน 3 จังหวัดภาคใต้ และการอยู่ร่วมระหว่างชาวมุสลิมกับศาสนาอื่นเป็นไปอย่างสันติ ให้การยอมรับซึ่งกันและกันสูง มีเที่ยวบินลงทุกวัน
นอกจากนี้ ต้องการจะพัฒนาให้กระบี่ สตูล และภูเก็ตเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) สำหรับผู้ป่วยมุสลิมจากทั่วโลก จากปัจจุบันรองรับผู้ป่วยมุสลิมจากมาเลเซียและสิงคโปร์เท่านั้น ความเหมาะสมทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมที่คล้ายคลึง 3 จังหวัดภาคใต้ ทำให้ต้องการสร้างกระบี่เป็นจังหวัดต้นแบบ จากการสัมมนาเชิงปฏิบัติการประชุมนานาชาติและอื่นๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างวันที่ 22-24 กุมภาพันธ์ ที่ โรงแรมกระบี่มารีไทม์ พาร์ต แอนด์ สปา รีสอร์ท สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย จัดประชุมนานาชาติด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาล อุตสาหกรรมและธุรกิจ พ.ศ.2551 งานแสดงสินค้าฮาลาลสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ IMT – GT พ.ศ.2551 และการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่องการพัฒนาผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกี่ยวกับมาตรฐานฮาลาล
ภายในงานมีการบรรยายเรื่องโอกาสของธุรกิจและการค้าฮาลาลในโลกหลังยุคเศรษฐกิจใหม่, ความหมายของฮาลาลในศาสนาอิสลามและมาตรฐานสากล โดย รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน คณบดีคณะสหเวชศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศักยภาพของพื้นที่อันดามัน ในการทำธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวเพื่อผู้บริโภคมุสลิม, การทำความเข้าใจกับคู่มือมาตรฐานอาหารฮาลาล ท่องเที่ยวและการวางระบบ HAL-Q เพื่อการผลิตอาหาฮาลาลอย่างถูกต้องในภัตตาคารและโรงแรม พร้อมทั้งมีการมอบหนังสือสำคัญแก่ผู้ประกอบการด้านภัตตาคารและโรงแรม เพื่อให้มุสลิมเข้ามาเลือกหารับประทานอาหารมุสลิมตามแบบฉบับฮาลาล
รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เหตุผลที่ใช้จังหวัดกระบี่เป็นศูนย์กลาง ในการจัดงานครั้งนี้ เพราะกระบี่มีงานวัฒนธรรมอิสลามหรืองานเมาลิดกลางที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งจัดมาแล้ว 26 ปีมีผู้เข้าร่วมงานครั้งละนับแสนคน แต่การจัดงานในแต่ละปี เหมือนน้ำที่เข้ามาแล้วออกไปไม่มีการกักเก็บเอาไว้ไม่ต่างจากผู้คนที่เข้ามาในงานวัดแล้วจากไป จึงได้เสนอต่อธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เพื่อให้นำชาวมุสลิมเข้ามายังพื้นที่ภาคใต้ และเห็นว่าชุมชนมุสลิมในกระบี่แข็งแรงด้านวัฒนธรรม
ขณะที่มาเลเซียได้จัดระเบียงเศรษฐกิจตอนเหนือ ( Northern Economic Corridor) เพื่อเน้นการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันตกของมาเลเซีย ซึ่งส่วนนี้ได้ขอไปทางมาเลเซียให้ขยายความร่วมมือมาเป็นระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก (Western Economic Corridor) โดยครอบคลุมพื้นที่จังหวัดอันดามันทั้งหมด กอปรกับการขยายพื้นที่ของสามเหลี่ยมเศรษฐกิจอินโดนีเซียมาเลเซียและไทยหรือ (IMT-GT) ได้ขยายกรอบครอบคลุม 14 จังหวัดภาคใต้ จึงเห็นว่าน่าจะให้กระบี่เป็นเมืองต้นแบบของฮาลาลฮับ (Halal Hub)
รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน กล่าวอีกว่า วันนี้ผู้นับถือศาสนาอิสลามในกระบี่มีร้อยละ 50 ของประชากรทั้งจังหวัดชาวมุสลิมทั่วโลกให้ความสนใจ ต่อการท่องเที่ยวในกระบี่อย่างมากวัฒนธรรมใกล้เคียง 3 จังหวัดภาคใต้มีศักยภาพ และความพร้อมที่จะนำแนวคิดไปถ่ายทอดใน 3 จังหวัดภาคใต้ และการอยู่ร่วมระหว่างชาวมุสลิมกับศาสนาอื่นเป็นไปอย่างสันติ ให้การยอมรับซึ่งกันและกันสูง มีเที่ยวบินลงทุกวัน
นอกจากนี้ ต้องการจะพัฒนาให้กระบี่ สตูล และภูเก็ตเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) สำหรับผู้ป่วยมุสลิมจากทั่วโลก จากปัจจุบันรองรับผู้ป่วยมุสลิมจากมาเลเซียและสิงคโปร์เท่านั้น ความเหมาะสมทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมที่คล้ายคลึง 3 จังหวัดภาคใต้ ทำให้ต้องการสร้างกระบี่เป็นจังหวัดต้นแบบ จากการสัมมนาเชิงปฏิบัติการประชุมนานาชาติและอื่นๆ
