xs
xsm
sm
md
lg

ใครเป็นโรคตับ…เชิญทางนี้! (1)

เผยแพร่:   โดย: สิริอัญญา

ก็เป็นอันว่ารัฐบาลใหม่ได้จัดตั้งขึ้นเรียบร้อยแล้ว และคุณสมัคร สุนทรเวช ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมใจอยากแล้ว และถ้าสังเกตให้ดีรัฐบาลนี้ก็มีอะไรที่เป็นพิเศษอยู่ไม่น้อย

เอาเฉพาะแค่การได้รับโปรดเกล้าฯ แล้วเข้าเฝ้าถวายสัตย์ในวันเดียวกันก็เป็นมิติใหม่ที่เห็นได้ถึงความสำคัญยิ่งกว่า 2-3 รัฐบาลที่ผ่านมา

ดังนั้นใครที่เคยฟันธงไว้รวมทั้งคอลัมน์นี้ด้วย หรือใครที่เคยทำนายทายทักไว้ว่าคุณสมัคร สุนทรเวช จะไม่ได้เป็นนายกฯ จึงเป็นอันฟันธงผิด ทำนายทายทักผิด และคาดการณ์ผิดกันไปหมด

แต่อย่าได้ไปว่าใครเลย ความคิดความรู้ของคนไหนเลยจะสู้ฟ้าได้!

และเมื่อเป็นอย่างนี้ในขั้นต้นก็ต้องถือว่ารัฐบาลนี้ก็เป็นรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอันควรที่อาณาประชาราษฎรจะได้ร่วมไม้ร่วมมือสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลนี้ไปก่อน จนกว่าการณ์จะปรากฏชัดว่าได้ทรยศต่อฐานะของตน หรือประพฤติตนเป็นนอมินีคนอื่น หรือปล้นชาติ ปล้นประชาชนนั่นแล้วจึงค่อยประจานประณามกันต่อไป

สำหรับคนไทยนั้นเมื่อสามารถทนอยู่ในถังมูตรถังคูถของรัฐบาลเต่าที่หน่อมแน้มเฉื่อยชาล้าหลังมาได้ถึงปีกว่า ก็ไม่มีอะไรที่จะอดทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตามรัฐบาลนี้ก็ยังดีกว่ารัฐบาลเต่าวันยังค่ำ

ยังมีอะไรดี ๆ ให้ดูกันอีกเยอะ ละครฉากใหม่เพิ่งเริ่มต้น และถ้าไม่ผิดคาดผิดคิด คนที่ผิดหวังชอกช้ำระกำใจถึงขั้นที่รากเลือดตายนั้นก็ไม่ใช่ประชาชนทั่วไปดอก

เมื่อกล่าวอย่างนี้แล้วก็ต้องกล่าวขออภัยต่อบรรดามวลมิตรทั้งหลายที่หายหน้าหายตาไปเสียพักใหญ่ ซึ่งความจริงก็ไม่ได้หายไปไหน เป็นแต่ว่าทำอะไรไม่ได้เพราะตกอยู่ในภาวะป่วยหนัก เรียกว่าเข้าขั้นวิกฤตก็ได้

อาการป่วยคราวนี้เกิดแต่โรคตับ และมีอาการค่อนข้างหนักกว่าที่เคยป่วยทุกครั้งมา ต้องกลายเป็นมนุษย์กินนอนมาร่วมเดือน เรียกว่าเป็นความป่วยที่เห็นความตายได้ชัดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

ที่ว่าป่วยเป็นโรคตับนั้น ผลการตรวจเบื้องต้นก็ปรากฏว่าไม่ถึงกับเป็นโรคมะเร็ง ไม่ได้เป็นไวรัสเอ บี ซี ดี หรือไวรัสอะไรทั้งนั้น แต่เป็นการอักเสบของตับอันเป็นผลกระทบจากยา

แต่ผลกระทบนั้นหนักหนาสาหัสนัก เพราะการทำงานของตับทั้งสองส่วนอักเสบไปพร้อมกันทั้งหมด มีระดับของการอักเสบถึงพันเท่ากว่าปกติ ซึ่งเท่าที่ทราบนั้นพรรคพวกที่เคยป่วยแค่มีอาการอักเสบสิบกว่าเท่าของขั้นสูงก็ต้องเข้านอนในโรงพยาบาลแล้ว เนื่องจากหมดเรี่ยวหมดแรง ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะเหลือง

การที่ผลตับสูงนั้นแสดงถึงการอักเสบมาก และยิ่งมากเท่าใดก็ยิ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการตับวายหรือไตวายตามมาด้วย

ในขณะที่ป่วยอยู่นั้นจึงเป็นอันไม่อยากคิด ไม่อยากฟัง ไม่อยากทำอะไร เพราะรู้ตัวดีว่าป่วยคราวนี้หนัก จะไปคิดทำอะไรกันอีก

แต่ระหว่างป่วยครั้งนี้ก็ได้ยินข่าวคราวคนป่วยเรื่องตับกันเป็นอันมาก บ้างป่วยและตายไปแล้ว บ้างก็มีข่าวว่ากำลังจะตายภายใน 6 เดือน บ้างก็กำลังรักษากันอยู่ด้วยยาแผนปัจจุบันที่มีราคาถึงเข็มละ 15,000 บาท

คนที่ป่วยและเพิ่งตายไปคือท่านอาจารย์นิตินัย นาครทรรพ เป็นนักประชาธิปไตยที่อุทิศชีวิตทั้งชีวิตเพื่อมวลมหาประชาชน ก่อนจะเสียชีวิตก็เคยพบปะกัน เมื่อได้ทราบอาการแล้วก็เตือนว่าอย่าเพิ่งไปเข้าโรงพยาบาล ให้อดทนอยู่สัก 45 วัน ถ้าหากสร่างคลายก่อนก็จะไปช่วยรักษาพยาบาลให้กับท่านอาจารย์

เพราะตอนนั้นก็ป่วยเหมือนกัน และรู้ตัวว่าป่วยหนักแล้วเหมือนกัน ท่านอาจารย์นิตินัย นาครทรรพ ท่านก็รับปากเป็นอันดี ผมก็จัดยาให้ไปชุดหนึ่งซึ่งเพาะเชื้อมะเร็งที่ตับของลิงแล้วมาใช้เป็นอุปกรณ์สำคัญในการทำตัวยา ทราบข่าวต่อมาอีก 2-3 วันว่าหลังกินยาแล้วอาการค่อยกระชุ่มกระชวยขึ้น

อาจารย์นิตินัย นาครทรรพ ท่านเป็นโรคมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลือง ซึ่งถึงวันนี้ยังไม่เคยมีปรากฏว่าการรักษาด้วยแผนปัจจุบันจะหายได้ ซึ่งท่านอาจารย์เองก็รู้ตัวดีว่าเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาให้หายได้โดยวิธีแผนปัจจุบัน

แต่กระนั้นก็ไม่รู้เพราะเหตุใดท่านอาจารย์ก็เข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาล มาทราบข่าวเอาอีกทีหนึ่งก็ว่าติดเชื้อโรคชนิดร้ายแรงชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Hospital Disease หรือพูดง่ายๆ ว่าโรคโรงพยาบาล เป็นโรคเฉพาะที่ร้ายแรงและยังไม่มียารักษาให้หายได้

เมื่อติดเชื้อดังกล่าวแล้วก็เกิดอาการช็อก มีอาการไตวายติดตามมา และมีอาการหัวใจวายตามมาอีก แล้วในที่สุดนักสู้ของประชาชนคนสำคัญแห่งภาคอีสานก็ถึงกาลอำลาพวกเราไปอย่างไม่สงบนัก

เพราะเป็นการตัดสินใจละสังขารตัวเองด้วยการถอดเครื่องช่วยหายใจและเครื่องช่วยชีวิตทุกอย่างออก เพื่อให้สามารถเดินทางไกลได้ตามวันเวลาที่ตั้งใจไว้แต่เดิม

ตรงนี้ก็ต้องขอแสดงความรำลึกถึง แสดงความไว้อาลัยวีรชนของประชาชนที่มีความเสียสละและวีระกล้าหาญ เป็นตัวอย่างอันดีงามให้แก่ประชาชนในการพิทักษ์รักษาชาติบ้านเมืองและในการอุทิศตนเพื่อประชาชน มีความเหนือกว่าไอ้พวกหน่อมแน้มเฉื่อยชาล้าหลังและขี้ขลาดตาขาวนับไม่ถ้วน

นี่แหละที่เขาว่าคนเราทุกคนต้องตายเหมือนกันก็จริง แต่คุณค่าของการตายนั้นต่างกัน บ้างก็หนักยิ่งกว่าขุนเขา บ้างก็เบายิ่งกว่าขนนก การตายของท่านอาจารย์นิตินัย นาครทรรพ เป็นการตายที่มีคุณค่าหนักกว่าขุนเขา เป็นแบบอย่างการตายของวีรชนที่ไม่จำนนหรือระย่อท้อถอยต่อมัจจุราชแม้แต่น้อยนิด

ถามว่าที่มานั่งเขียนบทความอยู่นี้อาการป่วยหายดีแล้วหรือ? ก็ต้องบอกว่ายัง แต่บอกได้ว่าน่าจะผ่านพ้นขั้นวิกฤตมาแล้ว มารำลึกถึงคุณูปการแต่หนหลังของท่านผู้อุปการคุณและเห็นว่าพอทำหน้าที่บางอย่างได้ จึงจำกราบเรียนมาด้วยหวังอาณาประโยชน์จากการป่วยครั้งนี้แก่เพื่อนมนุษย์ให้มากที่สุด

หวังบังเกิดประโยชน์แก่ท่านที่กำลังเป็นโรคตับอยู่แล้ว หรือท่านที่ยังไม่เป็น เพื่อเป็นหนทางป้องกันไม่ให้เป็นโรคตับ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคตับอยู่ในขั้นวิกฤตหรือไม่อยู่ถึงขั้นวิกฤตแต่จิตคิดว่าเป็นวิกฤตแล้วทำให้เกิดวิกฤตขึ้น

ที่ทำอย่างนี้ก็เพราะใจมั่นคงอยู่ในพระธรรม หาไม่แล้วการป่วยคราวนี้คงไม่มีโอกาสกลับมาเขียนบทความบรรณาการท่านผู้มีอุปการคุณอีก และเพราะมั่นคงอยู่ในพระธรรมนั้นจึงเป็นโอกาสอันดีที่ได้ใช้ความป่วยเจ็บนั้นเป็นอารมณ์พิจารณาธรรม

เมื่อพิจารณาแล้วก็ได้รู้ได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างซึ่งเห็นได้ว่าจะเป็นประโยชน์ยิ่งใหญ่แก่เพื่อนมนุษย์ จึงนำความเรื่องเหล่านี้มาเล่าสู่กันฟัง หวังเพื่อจะให้เป็นแนวทางปฏิบัติตนแก่ผู้ป่วยเจ็บเกี่ยวกับโรคตับ ซึ่งจะได้พรรณนาเป็นประการ ๆ ไปโดยลำดับ

ประการแรก เมื่อรู้ว่าป่วยเจ็บเมื่อใดก็ตาม สิ่งที่จะกำกับรักษาตัวไม่ให้ทรุดหนักลงจนควบคุมไม่ได้ก็คือสติ สติตัวนี้แหละที่เป็นตัวเดียวกันกับสติในโพชฌงค์ ซึ่งถือกันว่าเป็นธรรมโอสถ

เพราะทันทีที่รู้ว่าป่วยเป็นโรคตับ ความวิตกทุกข์ร้อน ความหมดหวัง สิ้นหวังในชีวิตจะติดตามมา และเป็นสาเหตุทำให้อาการไข้ทรุดหนักลงไปอีก

ดังนั้นจึงต้องตั้งสติให้ดีว่าบัดนี้เราเป็นผู้มีความเจ็บป่วยครอบงำแล้ว เป็นผู้ที่กำลังสัมผัสแล้วกับอุ้งหัตถ์แห่งมัจจุราช กำลังเผชิญหน้ากับยมทูตองค์ที่สาม หรือจะเรียกว่าตรีทูตก็ได้ หากคุมสติไม่ได้ยมทูตก็จะเอาชีวิตไปโดยง่าย ต้องทำให้ยมทูตมองไม่เห็นตัว

คนที่ยมทูตมองไม่เห็นตัวนั้น พระตถาคตเจ้าได้อบรมสั่งสอนไว้ว่าคือคนที่ไม่ประมาท และคนที่ไม่ประมาทนั้นก็คือคนที่มีสติ จะเป็นสติธรรมดาหรือจะเป็นสติในนามกาย หรือจะเป็นสติในมรรค หรือจะเป็นสติในสัมโพชฌงค์ก็ได้ทั้งนั้น รวมความว่าขอให้มีสติมั่นก็เป็นอันใช้ได้

มีสติมั่นคงว่าถึงแม้ความป่วยจะเข้าครอบงำก็ตาม แต่ยังเป็นคนละขั้นคนละตอนกับมรณะหรือความตาย ความป่วยบางอย่างรักษาก็หาย ไม่รักษาก็หาย ความป่วยบางอย่างรักษาก็หาย ไม่รักษาก็ตาย และความป่วยบางอย่างรักษาก็ตาย ไม่รักษาก็ตาย

ดังนั้นในความป่วยสามชนิดนี้ที่เราจะมีความเสี่ยงกับความตายนั้นก็เป็นเพียงความป่วยอย่างเดียวเท่านั้น คือความป่วยชนิดที่รักษาก็ตาย ไม่รักษาก็ตาย

หากถึงคราวต้องเผชิญหน้ากับความป่วยชนิดนี้ก็แสดงว่าอายุขัยหมดสิ้นแล้ว จะไปดิ้นรนทุกข์ร้อนประการใดก็ไม่มีประโยชน์ ยังคงจำเป็นต้องรักษาสติให้มั่นเพื่อเตรียมการเดินทางไกลให้ปลอดภัยและสวัสดิภาพ

เมื่อตั้งสติได้อย่างนี้ก็เป็นอันว่าจะสามารถยอความป่วยไข้ทั้งหลายให้หยุดอยู่กับที่ ไม่ทรุดหนักลงไปเพราะเหตุที่สติหวั่นไหวหรือครองสติไม่ได้ เป็นการเข้าแอบอยู่ในพระหัตถ์ของพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณที่ทำให้มัจจุราชมองไม่เห็น

เมื่อครองสติอย่างนี้แล้วก็ยังจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาหนัก ๆ อีกหลายเรื่อง ที่สำคัญคือปัญหาของความปรารถนาดีของคนทั้งหลายทั้งปวงที่อาจจะทำให้ตายได้ง่าย ๆ

เป็นธรรมดาคนเรายิ่งพวกมากก็ยิ่งถูกลากไปมาก ยิ่งมีโอกาสได้รับความปรารถนาดีมาก คนโน้นก็จะแนะนำโรงพยาบาลนี้ คนนี้ก็จะแนะนำโรงพยาบาลนั้น คนนั้นก็จะแนะนำแพทย์คนนี้ คนนี้ก็จะแนะนำแพทย์คนโน้น

แล้วจะเอาอย่างไรกันดี?

ยังไม่ทันตัดสินใจเรื่องโรงพยาบาลและแพทย์ก็จะมีความปรารถนาดีในแง่การจัดหาหยูกยาต่างๆ นานาชนิด ทั้งที่เคยได้ยินชื่อบ้าง ไม่เคยได้ยินชื่อบ้าง ตลอดจนยาที่มีคุณวิเศษต่าง ๆ แม้กระทั่งการสะเดาะเคราะห์ ย้ายเจ้าที่ก็ยังมี

แล้วจะเอาอย่างไรกันดี?

คนป่วยนั่งแทบจะไม่ได้อยู่แล้ว จะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาความหวังดีสารพัดนี้แล้วจะทำอย่างไร? เพราะหากตัดสินใจพลาดพลั้งไปแม้ครั้งเดียวเท่านั้นอาจจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้อย่างง่ายดาย

ก็อยากจะแนะนำว่าตรองพิจารณาให้จงดีก่อนว่าอาการที่เป็นอยู่นั้นพอจะจัดว่าเป็นโรคอะไร ต้องทำความรู้จักกับโรคนั้นเสียให้ดีเท่าที่จะดีได้ อย่าเพิ่งพูดถึงการรักษา อย่าเพิ่งตัดสินใจเรื่องการรักษา ขอให้รู้ว่าเป็นโรคอะไรให้แน่ชัดเสียก่อน

เพราะป่วยเจ็บด้วยโรคอะไรเป็นเรื่องของการวินิจฉัยโรค เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ส่วนการรักษาโรคเป็นขั้นตอนถัดมา หากวินิจฉัยโรคผิดทุกอย่างก็ผิดหมด

จึงต้องหยุดยั้งตั้งสติให้ดี อย่าไปตัดสินใจเรื่องโรงพยาบาล เรื่องหมอ เรื่องการรักษาพยาบาลใด ๆ เลย เอากันแค่ว่าเป็นโรคอะไรเสียก่อนก็จะไม่ผิดพลาดและเอาชีวิตไปเสี่ยงภัย.
กำลังโหลดความคิดเห็น