xs
xsm
sm
md
lg

คาดตลาดบ้าน-ที่ดินขอนแก่นปีหนูฟื้นตัว ชี้ความชัดเจนการเมืองช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ชมรมผู้ค้าบ้านขอนแก่น คาดตลาดบ้านจัดสรรขอนแก่นปี 51 ฟื้น หลังต้องเผชิญปัญหาตลาดทรุดมากว่า 2 ปี ยกเครดิตได้รัฐบาลชุดใหม่ ที่ทำให้เกิดความชัดเจนทางการเมือง ทั้งปัจจัยเฉพาะพื้นที่ราคาประเมินที่ดินขอนแก่นสูงสุดในภาคอีสาน แต่ผู้ค้าบ้านยังไม่พ้นขวากหนาม เหตุต้นทุนพุ่ง ต้องทนขายราคาเดิม แนะจับตามาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของรัฐ พร้อมให้โอกาสพรรคพลังประชาชนพิสูจน์ฝีมือ ด้านแบงก์ชาติอีสานเผยตลาดบ้านขอนแก่นปี 50 โตขึ้น12.39%

นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานชมรมผู้ค้าอสังหาริมทรัพย์จังหวัดขอนแก่น เปิดเผย “ผู้จัดการรายวัน” ถึงภาพรวมตลาดบ้านจัดสรรจังหวัดขอนแก่นในปี 2551 ว่า สถานการณ์ตลาดบ้านจัดสรรในจังหวัดขอนแก่นปี 2551 น่าจะมีการปรับตัวในทิศทางดีขึ้น หลังจากที่ตลาดบ้านและที่ดินจังหวัดขอนแก่น ต้องเผชิญปัญหารอบด้าน จนทำให้ยอดขายบ้านจัดสรรในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา ชะลอตัวลงมาก

ภาพรวมตลาดบ้านและที่ดินจังหวัดขอนแก่น น่าจะได้รับผลดี จากปัจจัยการเมืองที่เกิดความชัดเจนทางการเมือง จากการจัดการเลือกตั้งส.ส.และได้รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ เชื่อว่าจะสร้างความเชื่อมั่นแก่ต่างประเทศ และประชาชนลดความกังวล ส่งผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ตลาดโดยรวมเกิดความเชื่อมั่น ความต้องการที่อยู่อาศัยกลับคืนมา เกิดการซื้อ-ขายบ้านและที่ดินมากขึ้น

ขณะเดียวกันธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มีนโยบายให้สินเชื่อกู้ซื้อบ้านถึง 100% ของราคาประเมิน มีส่วนสำคัญช่วยแก้ปัญหากับกลุ่มลูกค้ามีเงินออมน้อย มีโอกาสกู้เงินซื้อบ้านง่ายขึ้น อีกทั้งปัจจัยเฉพาะจังหวัดขอนแก่น ที่กรมธนารักษ์ ประกาศประเมินราคาที่ดินใหม่รอบปี 2551-2554 โดยราคาเฉลี่ยเขตอำเภอเมืองขอนแก่นสูงที่สุดในภาคอีสานถึงตารางวาละ 200,000 บาท ช่วยเป็นแรงกระตุ้นให้การปล่อยสินเชื่อคล่องตัวขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในแง่ผู้ประกอบการพัฒนาสินค้า ยังคงอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เนื่องจาก ต้นทุนพัฒนาสินค้าบ้าน ปรับขึ้นทุกชนิด ทั้งราคาน้ำมันกระทบต่อค่าขนส่ง ต้นทุนวัสดุก่อสร้าง ทยอยปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้ค้าบ้านกลับไม่สามารถปรับราคาบ้านตามต้นทุนแท้จริงได้ เพราะจะทำให้เสียเปรียบการแข่งขันกับคู่แข่ง อีกทั้งตลาดไม่เอื้ออำนวย

กรณีพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ เชื่อว่าจะมีนโยบายบริหารและแผนปฏิบัติการต่างๆออกมาแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศ โดยผู้ประกอบการบ้านคาดหวังรัฐบาลชุดนี้ จะใช้นโยบายที่เคยหาเสียง แปลงแผนสู่การปฏิบัติได้ทันที ส่วนภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรีและพรรคพลังประชาชนที่เชื่อมโยงกับการเมืองเก่า ควรใช้เป็นโอกาสและพิสูจน์ตนเองว่า สามารถทำหน้าที่บริหารประเทศให้พัฒนาต่อไปได้

“ต้องรอดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นสักระยะ ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหรือไม่ เพื่อพยุงและกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้กลับมามีสีสันอีกครั้ง เช่น มาตรการสนับสนุนกำลังซื้อตลาด การประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ใหม่ รวมถึงแคมเปญเฉพาะของธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งต่อการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ด้วย”ประธานชมรมผู้ค้าอสังหาริมทรัพย์จังหวัดขอนแก่น กล่าวและว่า

ที่ผ่านมา มาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวม หมดไปนานแล้ว ทั้งมาตรการลดหย่อนภาษีธุรกิจ , ภาษีการโอนที่ดิน , หรือแม้กระทั่งภาษีปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ไม่มีมาตรการพิเศษใดออกมาจากรัฐบาลชุดที่แล้ว ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ขาดสีสัน ตลาดบ้านและที่ดินเกิดการปรับตัวตามปัจจัยที่แท้จริง

แบงก์ชาติชี้ตลาดบ้านขอนแก่นปี50โตขึ้นเล็กน้อย

จากข้อมูลภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือไตรมาสที่ 4 ปี 2550 ของธนาคารแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ธปท.สภอ.) ถึงสถานการณ์บ้านจัดสรรในจังหวัดขอนแก่นปี 2550 พบว่า มียอดขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 12.39 หรือขายได้ 771 หน่วย ขณะที่ปี 2549 ขายได้ 686 หน่วย

ทั้งนี้ หากพิจารณาข้อมูลรายไตรมาสพบว่าแนวโน้มชะลอตัว บางส่วนเกิดจากลูกค้ารอโครงการที่จะเปิดตัวในปี 2551 โครงการที่ขายดีในปี 2550 จะเป็นโครงการเปิดใหม่ที่มีทำเลให้ลูกค้าเลือกมากกว่า ส่วนโครงการที่เปิดขายมานานยอดขายจะลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากแปลงที่เหลืออยู่มีให้เลือกน้อย ความน่าสนใจจึงลดลงตามไปด้วย

สถานการณ์ปี 2551 โครงการที่เปิดตัวใหม่จะช่วยกระตุ้นยอดขายให้ภาพรวมขายได้ในระดับเดียวกับปี 2550 โดยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยยังขยายตัวแต่ไม่มาก อัตราดอกเบี้ย ปริมาณและมูลค่าการซื้อขายที่ดินมีแนวโน้มทรงตัวต่อเนื่อง ปัจจัยเสี่ยงคือยอดจดทะเบียนบ้านใหม่มีแนวโน้มชะลอตัว แต่ราคาน้ำมันมีแนวโน้มสูงขึ้น

สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดขอนแก่น แยกโครงการพัฒนาเป็น 2 กลุ่มหลักคือ กลุ่มบ้านเอื้ออาทร และกลุ่มผู้ประกอบการเอกชน โดยกลุ่มโครงการบ้านเอื้ออาทรมี 4 โครงการ มีจำนวนบ้านและที่ดินรวม 4,338 หน่วย ทำสัญญาจะซื้อจะขายแล้ว 2,216 หน่วย คงเหลือ 2,122 หน่วย หรือขายได้ประมาณร้อยละ 51.08 เป็นการขายในไตรมาส 4 ปี 2550 จำนวน 195 หน่วย นับเป็นการขายสูงสุดในรอบปี

ขณะที่กลุ่มโครงการภาคเอกชนมีทั้งสิ้น 63 โครงการ ปิดการขายแล้ว 12 โครงการ โดยปี 2550 ขายได้รวม 771 หน่วย สูงกว่ายอดขายปีก่อน 85 หน่วย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.39 แต่เมื่อพิจารณาเป็นรายไตรมาสแนวโน้มชะลอตัว โดยไตรมาส 4/50 ขายได้ 129 หน่วย ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 35 หน่วย ปัจจัยหนึ่งเกิดจากลูกค้ารอการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2551

ด้านยอดขาย 771 หน่วย ส่วนใหญ่เป็นการจำหน่ายบ้านเดี่ยวจำนวนถึง 728 หน่วย หรือคิดเป็นร้อยละ 94.42 เป็นบ้านระดับราคา 1.0-1.9 ล้านบาทมากที่สุด จำนวนถึง 279 หน่วย หรือร้อยละ 36.19 และพื้นที่ที่มีการจำหน่ายสูงสุดอยู่ในโซนบึงหนองโคตร จำนวน 351 หน่วยหรือร้อยละ 45.53

ส่วนบ้านและที่ดินคงเหลือมีจำนวนรวม 1,254 หน่วย ลดลงจากปีก่อน 345 หน่วย หรือร้อยละ 26.36 ประกอบด้วยที่ดินเปล่า 541 หน่วย หรือร้อยละ 43.14 อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 334 หน่วย หรือร้อยละ 26.63 และบ้านสร้างเสร็จพร้อมขาย 379 หรือร้อยละ 30.22
กำลังโหลดความคิดเห็น