ผู้จัดการรายวัน - พระราชครูวามเทพมุนีประกอบพิธีบวงสรวงซ่อมแซมราชรถ ราชยาน และเครื่องประกอบ ช่างอัญเชิญบันไดนาคออกจากราชรถน้อยเป็นปฐมฤกษ์ “น.อ.อาวุธ” ระบุใช้เวลาซ่อมแซมไม่เกิน 4 เดือน เผยมีตัวอย่างกระดาษทองย่นสำหรับประดับพระเมรุจากจีนหลายแบบแล้ว ขึ้นอยู่กับพระราชวินิจฉัยของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ว่าจะทรงเลือกแบบใด
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 5 ก.พ.มณฑลพิธีด้านหน้าโรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรมศิลปากร กำหนดจัดพิธีบวงสรวงการซ่อมราชรถ พระยานมาศ และเครื่องประกอบ ในงานออกพระเมรุสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยมีท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ ร.อ.จิทัศ ศรสงคราม พระนัดดาในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ประธานในพิธีบวงสรวงฯ และมีพระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ กรุงเทพมหานครเป็นผู้ประกอบพิธี
ในเวลา 11.45 น.คุณหญิงไขศรี ประธานในพิธีสักการะพระพุทธสิหิงค์ ที่พระที่นั่งพุทธไธสวรรย์ สักการะเจ้าพ่อหอแก้ว ที่ศาลาข้างพระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์
จากนั้นเวลา 12.15 น.ซึ่งเป็นฤกษ์บวงสรวง ประธานในพิธีจุดธูปเทียนถวายเครื่องสังเวยบูชาพระฤกษ์ พร้อมด้วยปี่พาทย์บรรเลงเพลงสาธุการ พราหมณ์บันลือสังข์ และไกวบัณเฑาะว์ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ร่วมกันปักธูปหางที่เครื่องสังเวย พระราชครูวามเทพมุนี อ่านโองการบวงสรวงเทพยดา และดวงพระวิญญาณพระมหากษัตริยาธิราชทุกพระองค์ โปรยข้าวตอกดอกไม้ที่เครื่องสังเวย
ต่อมาพระราชครูวามเทพมุนีใช้ใบมะตูมพรมน้ำเทพมนต์ และทัดใบมะตูมที่พระมหาพิชัยราชรถ คุณหญิงไขศรีคล้องพวงมาลัยที่พระมหาพิชัยราชรถ โดยประกอบพิธีเช่นเดียวกันที่เวชยันตราชรถ ราชรถน้อย 3 องค์ พระยานมาศสามลำคาน พระที่นั่งราเชนทรยาน และพระวอสีวิกากาญจน์ที่จะต้องซ่อมแซมตามลำดับ หลังจากนั้นศิลปินสำนักการสังคีตรำสาธุการ 7 คู่
จากนั้นในเวลา 12.49 น.ซึ่งเป็นภูมิปาโลฤกษ์ ดำเนินงานซ่อมราชรถ คณะช่างที่เกี่ยวข้องจากทุกหน่วยงาน เริ่มดำเนินการบูรณะ โดยช่างได้ใช้เครื่องมือช่างอัญเชิญบันไดนาคด้านซ้ายออกจากองค์ราชรถน้อยเพื่อเป็นปฐมฤกษ์ในการซ่อมแซม
เสร็จแล้วพระราชครูวามเทพมุนีทำพิธีทัดใบตูม และเจิมหน้าผากให้กับทหารช่างจากกรมสรรพาวุธทหารบก ทหารจากกองทัพเรือ และช่างจากสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากรที่จะทำหน้าที่ซ่อมแซมราชรถ ราชยาน และเครื่องประกอบทุกคนเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ
ซ่อมราชรถ-ราชยานไม่เกิน 4 เดือน
น.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น ประธานคณะทำงานออกแบบและจัดสร้างพระเมรุสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า ราชรถ พระราชยานมาศ และเครื่องประกอบอื่นๆนั้น สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ผ่านการใช้งานในพระราชพิธีพระบรมศพมาหลายครั้ง ซึ่งการที่ฝ่ายช่างจะเข้ามาซ่อมแซมบูรณะ ราชรถ พระราชยานมาศ จำเป็นต้องคิดถึงครูอาจารย์ที่เคยสร้างราชรถ พระยานมาศ มาตั้งแต่สมัยโบราณด้วย โดยการทำพิธีบวงสรวงนั้น เพื่อเป็นสิริมงคล ในการเริ่มงานซ่อมแซมให้กับช่างผู้ปฏิบัติงาน หลังจากนี้ทางคณะช่างจะเข้าทำการซ่อมได้ทันที โดยทางกรมสรรพาวุธ จะเข้ามาดูแลซ่อมในส่วนล้อ เพลา ก่อน อาจจะต้องทำการขยับตรวจดูการเคลื่อนไหว และความแข็งแรงของล้อด้วย แต่ยังไม่มีการการอัญเชิญออกนอกโรงราช
จากนั้น ฝ่ายช่างกลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ จะเข้ามาชำระซากสิ่งสกปรก ที่อยู่ในราชรถ พระราชยานมาศ ซึ่งปล่อยทิ้งไว้มานานกว่า 11 ปี ให้สะอาด สำหรับในส่วนที่ชำรุด เช่น กระจกประดับ ปรอทที่เสีย ต้องแคะออกและประดับใหม่ ส่วนทองที่ยังอยู่ในสภาพที่ดี ก็จะต้องล้างทำความสะอาดใหม่ทั้งหมด ส่วนที่ชำรุดก็จะต้องซ่อมปิดทองใหม่ด้วย
“ส่วน พัตราภรณ์ อาทิ ม่าน ฉัตร และธงประดับหน้ารถ ก็จะต้องนำมาทำใหม่ เนื่องจากธงที่ใช้ เป็นธงแบบทองแผ่ลวด มีลักษณะตั้ง จะต้องอนุรักษ์ไว้ เพราะธงทองแผ่ลวดไม่ได้มีไว้ใช้กันทั่วไป เนื่องจากเป็นธงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานสำหรับใช้ประดับเรือพระราชพิธี ธงรถ หรือใช้กับฉัตรประกอบที่ในพิธีศพของข้าราชการต่างๆ ดังนั้นจำเป็นต้องมีการรักษา และสืบทอดเอาไว้ โดยขณะนี้ผู้ที่สามารถทำธงทองแผ่ลวดได้มีจำนวนน้อย เพราะเป็นงานที่มีความละเอียดอย่างมาก ทั้งงานช่างฝีมือ เย็บ ปัก ประดับกระจกด้วย” ประธานคณะทำงานฯ กล่าว
น.อ.อาวุธ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่แน่นอน ซึ่งการซ่อมแซมราชรถ ราชยาน และเครื่องประกอบต่างๆ นั้น คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 4 เดือน
พระเทพฯ ทรงวินิจฉัยกระดาษทองย่น
ประธานคณะทำงาน กล่าวด้วยว่า สำหรับกระดาษทองย่นที่จะนำมาใช้ประดับพระเมรุนั้น ขณะนี้มีตัวอย่างกระดาษทองย่นส่งเข้ามาหลายตัวอย่างแล้ว จากการพิจารณาแบบกระดาษทองย่นที่ส่งเข้ามานั้น ส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศจีน ซึ่งคิดว่าน่าจะใช้ได้ทั้งหมด แต่จะคัดเลือกกระดาษแบบใดนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับพระบรมราชวินิจฉัย และการตัดสินพระทัยของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเท่านั้น
นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า สำหรับเครื่องประกอบที่จะต้องซ่อมเป็นพิเศษ คือ พระที่นั่งราเชน พระวอสีวิกากาญจน์ และราชรถน้อย ส่วนอื่นๆ จะมีการซ่อมดูแลปกติ เช่น พระยานมาศ 3 ลำคาน และพระมหาพิชัยราชรถ พระเวชยันตรราชรถ อาจจะเสร็จเร็วกว่า ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม หากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯจะใช้ราชรถองค์ใด ก็พร้อมจะใช้งานได้ทันที
พล.ท.คำนวณ เธียรประมุข เจ้ากรมสรรพวุธทหารบก กล่าวว่า จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่เบื้องต้นนั้น พระมหาวิชัยราชรถ เวชยันตรราชรถ มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ เพราะเพิ่งผ่านการใช้ในงานสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ส่วนราชรถน้อย 3 องค์นั้น 2 องค์เพิ่งบูรณะไป เหลือราชน้อยอีก 1 องค์ที่ยังไม่ได้รับการบูรณะ เมื่อเสร็จสิ้นการบวงสรวงแล้วกรมสรรพวุธจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบราชรถ ราชยานทั้งหมด เพื่อนำไปวางแผน และตั้งคณะทำงานอย่างเป็นทางการต่อไป
พ.อ.ศักดา ศิริรัตน์ ผู้อำนวยการกองโรงงานช่างแสง ศูนย์อุตสาหการ สรรพาวุธ กรมสรรพาวุธ ทหารบก กล่าวว่า ในวันบวงสรวงทางเจ้าหน้าที่ทำการเบิกปฐมฤกษ์ซ่อม โดยอัญเชิญบันใดนาคด้านซ้ายองค์ราชรถน้อยออกมาซ่อมบูรณะเป็นอันดับแรก เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย จากนั้นในวันพฤหัสบดีที่ 14 ก.พ.นี้จะเริ่มดำเนินการซ่อมอย่างเป็นทางการ รวมทั้งใส่เทคนิคใหม่ในระบบเบรก ระบบกันกระแทรก เป็นต้น คาดว่าน่าจะเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ โดยใช้ทหาร เจ้าหน้าที่ทั้งหมดกว่า 100 คน
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 5 ก.พ.มณฑลพิธีด้านหน้าโรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรมศิลปากร กำหนดจัดพิธีบวงสรวงการซ่อมราชรถ พระยานมาศ และเครื่องประกอบ ในงานออกพระเมรุสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยมีท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ ร.อ.จิทัศ ศรสงคราม พระนัดดาในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ประธานในพิธีบวงสรวงฯ และมีพระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ กรุงเทพมหานครเป็นผู้ประกอบพิธี
ในเวลา 11.45 น.คุณหญิงไขศรี ประธานในพิธีสักการะพระพุทธสิหิงค์ ที่พระที่นั่งพุทธไธสวรรย์ สักการะเจ้าพ่อหอแก้ว ที่ศาลาข้างพระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์
จากนั้นเวลา 12.15 น.ซึ่งเป็นฤกษ์บวงสรวง ประธานในพิธีจุดธูปเทียนถวายเครื่องสังเวยบูชาพระฤกษ์ พร้อมด้วยปี่พาทย์บรรเลงเพลงสาธุการ พราหมณ์บันลือสังข์ และไกวบัณเฑาะว์ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ร่วมกันปักธูปหางที่เครื่องสังเวย พระราชครูวามเทพมุนี อ่านโองการบวงสรวงเทพยดา และดวงพระวิญญาณพระมหากษัตริยาธิราชทุกพระองค์ โปรยข้าวตอกดอกไม้ที่เครื่องสังเวย
ต่อมาพระราชครูวามเทพมุนีใช้ใบมะตูมพรมน้ำเทพมนต์ และทัดใบมะตูมที่พระมหาพิชัยราชรถ คุณหญิงไขศรีคล้องพวงมาลัยที่พระมหาพิชัยราชรถ โดยประกอบพิธีเช่นเดียวกันที่เวชยันตราชรถ ราชรถน้อย 3 องค์ พระยานมาศสามลำคาน พระที่นั่งราเชนทรยาน และพระวอสีวิกากาญจน์ที่จะต้องซ่อมแซมตามลำดับ หลังจากนั้นศิลปินสำนักการสังคีตรำสาธุการ 7 คู่
จากนั้นในเวลา 12.49 น.ซึ่งเป็นภูมิปาโลฤกษ์ ดำเนินงานซ่อมราชรถ คณะช่างที่เกี่ยวข้องจากทุกหน่วยงาน เริ่มดำเนินการบูรณะ โดยช่างได้ใช้เครื่องมือช่างอัญเชิญบันไดนาคด้านซ้ายออกจากองค์ราชรถน้อยเพื่อเป็นปฐมฤกษ์ในการซ่อมแซม
เสร็จแล้วพระราชครูวามเทพมุนีทำพิธีทัดใบตูม และเจิมหน้าผากให้กับทหารช่างจากกรมสรรพาวุธทหารบก ทหารจากกองทัพเรือ และช่างจากสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากรที่จะทำหน้าที่ซ่อมแซมราชรถ ราชยาน และเครื่องประกอบทุกคนเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ
ซ่อมราชรถ-ราชยานไม่เกิน 4 เดือน
น.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น ประธานคณะทำงานออกแบบและจัดสร้างพระเมรุสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า ราชรถ พระราชยานมาศ และเครื่องประกอบอื่นๆนั้น สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ผ่านการใช้งานในพระราชพิธีพระบรมศพมาหลายครั้ง ซึ่งการที่ฝ่ายช่างจะเข้ามาซ่อมแซมบูรณะ ราชรถ พระราชยานมาศ จำเป็นต้องคิดถึงครูอาจารย์ที่เคยสร้างราชรถ พระยานมาศ มาตั้งแต่สมัยโบราณด้วย โดยการทำพิธีบวงสรวงนั้น เพื่อเป็นสิริมงคล ในการเริ่มงานซ่อมแซมให้กับช่างผู้ปฏิบัติงาน หลังจากนี้ทางคณะช่างจะเข้าทำการซ่อมได้ทันที โดยทางกรมสรรพาวุธ จะเข้ามาดูแลซ่อมในส่วนล้อ เพลา ก่อน อาจจะต้องทำการขยับตรวจดูการเคลื่อนไหว และความแข็งแรงของล้อด้วย แต่ยังไม่มีการการอัญเชิญออกนอกโรงราช
จากนั้น ฝ่ายช่างกลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ จะเข้ามาชำระซากสิ่งสกปรก ที่อยู่ในราชรถ พระราชยานมาศ ซึ่งปล่อยทิ้งไว้มานานกว่า 11 ปี ให้สะอาด สำหรับในส่วนที่ชำรุด เช่น กระจกประดับ ปรอทที่เสีย ต้องแคะออกและประดับใหม่ ส่วนทองที่ยังอยู่ในสภาพที่ดี ก็จะต้องล้างทำความสะอาดใหม่ทั้งหมด ส่วนที่ชำรุดก็จะต้องซ่อมปิดทองใหม่ด้วย
“ส่วน พัตราภรณ์ อาทิ ม่าน ฉัตร และธงประดับหน้ารถ ก็จะต้องนำมาทำใหม่ เนื่องจากธงที่ใช้ เป็นธงแบบทองแผ่ลวด มีลักษณะตั้ง จะต้องอนุรักษ์ไว้ เพราะธงทองแผ่ลวดไม่ได้มีไว้ใช้กันทั่วไป เนื่องจากเป็นธงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานสำหรับใช้ประดับเรือพระราชพิธี ธงรถ หรือใช้กับฉัตรประกอบที่ในพิธีศพของข้าราชการต่างๆ ดังนั้นจำเป็นต้องมีการรักษา และสืบทอดเอาไว้ โดยขณะนี้ผู้ที่สามารถทำธงทองแผ่ลวดได้มีจำนวนน้อย เพราะเป็นงานที่มีความละเอียดอย่างมาก ทั้งงานช่างฝีมือ เย็บ ปัก ประดับกระจกด้วย” ประธานคณะทำงานฯ กล่าว
น.อ.อาวุธ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่แน่นอน ซึ่งการซ่อมแซมราชรถ ราชยาน และเครื่องประกอบต่างๆ นั้น คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 4 เดือน
พระเทพฯ ทรงวินิจฉัยกระดาษทองย่น
ประธานคณะทำงาน กล่าวด้วยว่า สำหรับกระดาษทองย่นที่จะนำมาใช้ประดับพระเมรุนั้น ขณะนี้มีตัวอย่างกระดาษทองย่นส่งเข้ามาหลายตัวอย่างแล้ว จากการพิจารณาแบบกระดาษทองย่นที่ส่งเข้ามานั้น ส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศจีน ซึ่งคิดว่าน่าจะใช้ได้ทั้งหมด แต่จะคัดเลือกกระดาษแบบใดนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับพระบรมราชวินิจฉัย และการตัดสินพระทัยของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเท่านั้น
นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า สำหรับเครื่องประกอบที่จะต้องซ่อมเป็นพิเศษ คือ พระที่นั่งราเชน พระวอสีวิกากาญจน์ และราชรถน้อย ส่วนอื่นๆ จะมีการซ่อมดูแลปกติ เช่น พระยานมาศ 3 ลำคาน และพระมหาพิชัยราชรถ พระเวชยันตรราชรถ อาจจะเสร็จเร็วกว่า ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม หากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯจะใช้ราชรถองค์ใด ก็พร้อมจะใช้งานได้ทันที
พล.ท.คำนวณ เธียรประมุข เจ้ากรมสรรพวุธทหารบก กล่าวว่า จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่เบื้องต้นนั้น พระมหาวิชัยราชรถ เวชยันตรราชรถ มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ เพราะเพิ่งผ่านการใช้ในงานสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ส่วนราชรถน้อย 3 องค์นั้น 2 องค์เพิ่งบูรณะไป เหลือราชน้อยอีก 1 องค์ที่ยังไม่ได้รับการบูรณะ เมื่อเสร็จสิ้นการบวงสรวงแล้วกรมสรรพวุธจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบราชรถ ราชยานทั้งหมด เพื่อนำไปวางแผน และตั้งคณะทำงานอย่างเป็นทางการต่อไป
พ.อ.ศักดา ศิริรัตน์ ผู้อำนวยการกองโรงงานช่างแสง ศูนย์อุตสาหการ สรรพาวุธ กรมสรรพาวุธ ทหารบก กล่าวว่า ในวันบวงสรวงทางเจ้าหน้าที่ทำการเบิกปฐมฤกษ์ซ่อม โดยอัญเชิญบันใดนาคด้านซ้ายองค์ราชรถน้อยออกมาซ่อมบูรณะเป็นอันดับแรก เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย จากนั้นในวันพฤหัสบดีที่ 14 ก.พ.นี้จะเริ่มดำเนินการซ่อมอย่างเป็นทางการ รวมทั้งใส่เทคนิคใหม่ในระบบเบรก ระบบกันกระแทรก เป็นต้น คาดว่าน่าจะเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ โดยใช้ทหาร เจ้าหน้าที่ทั้งหมดกว่า 100 คน