xs
xsm
sm
md
lg

คตส.มีมติฟ้องงาบกล้ายาง “เนวิน- 4 รมต.-ขรก.-ซีพี”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คตส.มีมติส่งอัยการสูงสุดฟ้อง “เนวิน”พร้อม 4 อดีต รมต. ขรก.และเอกชนรวม 45 คน งาบกล้ายาง เจออาญาพร้อมแพ่งเรียกค่าเสียหาย 1,100 ล้านบาท “ซีพี” อ่วมโดนข้อหาฉกรรจ์ 3 กระทง ฐานฉ้อโกง-ปลอมแปลงเอกสาร-ฮั้วประมูล ระบุ 3 บริษัทที่ได้รับการประมูลเชื่อมโยงกันกับซีพี ส่วนคดีหวยบนดิน คตส.มีมติฟ้องเอง หลังอัยการสูงสุดมีความเห็นสำนวนไม่สมบูรณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (4 ก.พ.) มีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) เพื่อพิจารณาคดีการทุจริตการจัดซื้อพันธุ์กล้ายางพารา 90 ล้านต้น ของกรมวิชาการเกษตรที่มีนายบรรเจิด สิงคะเนติ กรรมการ คตส. เป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวน

นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. พร้อมด้วยนายบรรเจิด ร่วมกันแแถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติส่งสำนวนการสอบสวนให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้อง ผู้ร่วมกระทำผิดจำนวน 45 ราย จากเดิม 90 ราย โดยยุติไม่สั่งฟ้อง 45 ราย คือ คณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องก่อนเข้าที่ประชุม ครม.ชุดที่ 2 แต่รัฐมนตรีที่ร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) คตส.มีมติสั่งดำเนินคดีด้วย โดยหลังจากนี้คตส.จะจัดทำแฟ้มเอกสารสำนวน ส่งให้อัยการสูงสุดภายใน 14 วัน เพื่อส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป

นายบรรเจิดกล่าวว่า ผู้ถูกกล่าวหาประกอบด้วย 1. กลุ่มคณะกรรมการ คชก. 2.คณะกรรมการประกวดราคา 3.บริษัทเอกชนที่เข้าร่วมประมูล และ 4. ผู้รับผิดชอบโครงการ โดยจากการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการไต่สวนพบว่า มีความผิดจากการดำเนินนโยบาย คือ คชก.นำเงิน 1,440 ล้านบาท ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ โดย คชก. ไม่ได้ขออนุมัติกองทุนส่งเสริมการทำสวนยาง (สกย.) ตามมติ ครม. ซึ่งการนำเงินเซสของ สกย.ไปใช้มีระเบียบที่กำหนดไว้ตามระเบียบขอบ สกย.ข้อ 19(5) คือให้ใช้ได้เฉพาะคราวและจำเป็นเร่งด่วน แต่โครงการนี้เป็นโครงการระยะยาว 1-3 ปี เป็นโครงการใหม่ ไม่ได้เป็นโครงการเร่งด่วน

สำหรับขั้นตอนการผลิตกล้ายาง พบว่ามีการกำหนดคุณสมบัติของผู้ผลิตกล้ายาง ให้มีประสบการณ์ในเรื่องการผลิตเมล็ดพันธุ์พืช เป็นการกำหนดคุณสมบัติแบบกว้าง แทนที่จะกำหนดคุณสมบัติเฉพาะผู้ที่มีประสบการณ์ในการผลิตพันธุ์กล้ายางเท่านั้น ทั้งยังพบว่าเจ้าหน้าที่ยังมีการสบคม เอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชน และมีการย่นเวลาให้เร็วขึ้น ทำให้บางบริษัทผลิตไม่ทัน จึงเป็นเหตุให้ 3 บริษัทเอกชนชนะการประมูล ประกอบด้วย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ เมล็ดพันธุ์ จำกัด บริษัท รีสอร์ทแลนด์ จำกัด และบริษัท เอกเจริญการเกษตร จำกัด

**ชี้ทำให้รัฐเสียหาย1,100ล้านบาท
ทั้งนี้ ทั้ง 3 บริษัทมีความเชื่อมโยงกัน มีเจ้าหน้าที่จากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ฯ (ซีพี) ได้รับมอบอำนาจจาก 2 บริษัทเข้าร่วมประมูล ทั้งที่ บริษัทเอกเจริญการเกษตร เป็นบริษัทเลี้ยงไก่ชน อยู่ที่ชลบุรี และบริษัท รีสอร์ท แลนด์ ทำธุรกิจโรงแรม ที่ระยอง นอกจากนี้ยับพบว่าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ฯ ใช้หลักฐานเอกสารในการประมูลเท็จ มีการปลอมลายเซ็นเกตรกรสวนยาง ในจ.ตรังและสตูล ว่าพร้อมเข้าร่วมโครงการกับ บริษัท อีกทั้งยังเพิ่มตัวเลขจากจำนวน 10 ไร่เป็น 30 ไร่ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการร่วมประมูลจากที่มีอยู่ 1 พันไร่ เป็น 2 พันไร่
"พฤติกรรมดังกล่าวจึงเห็นว่าคณะกรรมการประกวดราคา และกำหนดทีโออาร์ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 หรือ พ.ร.บ.ฮั้ว และยังผิด พ.ร.บ.พนักงานในองค์กร หรือหน่วยงานของรัฐ ฐานเป็นพนักงานของรัฐไม่รักษาประโยชน์ของทางราชการ ก่อให้เกิดความเสียหาย เป็นเงิน 1,100 ล้านบาท เพราะก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนว่า 3 บริษัทฮั้วประมูล แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่ตรวจสอบ ซึ่งอนุกรรมการไต่สวนตรวจสอบแล้วเห็นชัดว่า ลายเซ็นของเกษตรกรเป็นลายเซ็นแบบเดียวกัน และคตส.ยังให้ดำเนินคดีกับ 3 บริษัทเอกชน ฐานฉ้อโกง ฮั้ว และสร้างหลักฐานเท็จโดยให้ดำเนินคดีกับกรรมการบริษัทดังกล่าวด้วย เพราะการประมูลเป็นพันล้านจะอ้างว่าไม่ทราบเรื่องถือว่าฟังไม่ขึ้น” นายบรรเจิด กล่าว

**เนวินเจอทั้งอาญาและจ่ายเงินคืนรัฐ
นายบรรเจิดกล่าวว่า พร้อมกันนี้คตส.ยังมีมติให้ดำเนินคดีกับนาย ฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ฐานเป็นผู้ริเริ่มโครงการ เสนอเรื่องให้รัฐมนตรี และรับผิดชอบการประกวดราคา รวมทั้งเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติเอื้อประโยชน์กับบริษัทเอกชนให้ชนะการประมูล

ส่วนรัฐมนตรีที่ต้องรับผิดชอบนั้น เนื่องจากขณะนั้นอยู่ระหว่างเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีจาก นายสรอรรถ กลิ่นประทุม เป็นนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เข้ามาเป็น รมว.เกษตรฯแทน ซึ่งในวันที่ 10 พ.ย. 2546 นายสมศักดิ์ อยู่ระหว่างการเข้าพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเข้าเป็น รมว.เกษตรฯ ปรากฏว่านายเนวิน ชิดชอบ รมช.เกษตรฯ ในขณะนั้นได้อนุมัติโครงการ โดยลงนามอนุมัติในนามของ รมว.เกษตรฯ พฤติกรรมทั้งหมดของนายเนวิน จึงเข้าข่ายความผิดพ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 10 , 13 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 38 , 157 และ 341 โดยผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดจะต้องร่วมกันรับผิดชอบชดใช้ความเสียหายเป็นเงิน 1,100 ล้านบาท คืนแก่รัฐ โดยจะต้องรับผิดร่วมกันเต็มจำนวนความเสียหายโดยจะฟ้องร่วมไปกับคดีอาญา

**สมคิด-สรอรรถ-วราเทพ-อดิศัยโดน
นายบรรเจิดกล่าวด้วยว่า สาเหตุที่คณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการกลั่นกรองและเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมครม.คณะที่ 2 เรื่องเศรษฐกิจ ไม่ถูกดำเนินคดี เพราะการสั่งให้ใช้เงิน สกย.ในโครงการดังกล่าว ทั้ง 2 คณะได้มีความเห็นให้ คชก. ไปสอบถามความเห็นจากสกย. ก่อน ไม่ได้เห็นตามที่กระทรวงเกษตรฯเสนอมา จึงถือว่าครม.และคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ไม่ผิดกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้เป็นผู้อนุมัติโครงการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่ออดีตรัฐมนตรีที่ร่วมเป็นกรรมการคชก. มี 4 รายคือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานคชก. และกรรมการคือ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม นายวราเทพ รัตนากร และนายอดิศัย โพธารามิก ขณะที่บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ฯ บุคคลที่น่าสนใจที่คตส.สั่งดำเนินคดีคือ นายวัลลภ เจียรวนนท์ และนายพงษ์เทพ เจียรวนนท์ ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจดำเนินการบริษัท

**45 รายชื่อเจอข้อหางาบกล้ายาง
สำหรับรายชื่อผู้ถูกกล่าวหาในคดีดังกล่าว จำนวน 45 คน แยกตามฐานความผิด ได้ 7 กลุ่ม ประกอบด้วย

กลุ่ม 1 คชก. ประกอบด้วย นาย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการการกลั่นกรองและประธาน คชก. นายวราเทพ รัตนากร อดีตรมช.คลัง ในฐานะ กรรมการ คชก.นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะกรรมการ คชก. นายอดิสัย โพธารามิก อดีต รมว.พาณิชย์ ในฐานะกรรมการ คชก. นายพิศิษฐ เศรษฐวงศ์ รองปลัดกระทรวงพานิชย์ นายปริญญา อุดมทรัพย์ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ น.ส. บุญมี เลิศพิเชษฐ ผู้อำนวยการกลุ่มงานเงินนอกงบประมาณ นางเสริมสุข ชลวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ อธิบดีกรมการค้าภายใน นายรณรงค์ ฤทธิ์ฤาชัย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน นายสิทธิ บุณยรัตผลิน อธิบดีกรมประมง และน.ส. สุชาดา วราภรณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

ทั้งหมดมีฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83,151และ 157 ส่วน น.ส. สุกัญญา โตวิวิชญ์ ผู้บริหารส่วนวิเคราะห์ สาขาเศรษฐกิจและนายพิทยาพล นาถธราดล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 ประกอบมาตรา 83 ตามประมวลกฎหมายอาญา

กลุ่ม 2 นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ประธานคณะกรรมการกลางกลุ่มเกษตรกร แห่งประเทศไทย มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86,157 และพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ มาตรา 11

กลุ่ม 3 นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร นายจิรากร โกศัยเสวี นาย อนันต์ สุวรรณรัตน์ นายจำนง คงศิลป์ กรรมการบริหารโครงการและกรรมการพิจารณาโครงการประกวดราคา นายสุจินต์ แม้นเหมือน นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ กรรมการบริหารโครงการ นายสมบัติ ยิ่งยืน นายสมชาย ชาญณรงค์กุล กรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ มาตรา 11,12 และมาตรา 83,157 และ 341 ตามประมวลกฎหมายอาญา

กลุ่ม 4 นายสกล บุญชูดวง ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธ์ จำกัด นายญาณกร สิงห์ชุม ผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท เอกเจริญการเกษตร จำกัด นาย สำราญ ชัยชนะ ผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท รีสอร์ทแลนด์ จำกัด บริษัท เจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธ์ จำกัด ในฐานะผู้ชนะการประกวดราคา บริษัท รีสอร์ทแลนด์ จำกัด บริษัท เอกเจริญการเกษตร จำกัด ในฐานะผู้เสนอราคา มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ มาตรา 4,10 ,11 ,12 ,13และประมวลกฎหมายอาญา 86,157,341

กลุ่ม5 นายวัลลภ เจียรวนนท์ นายมิน เธียรวร นายประเสริฐ พุ่งกุมาร นาย ธีรยุทธ พิทยาอิสรกุล นายพงษ์เทพ เจียรวนนท์ นายเอี่ยม งามดำรง นายบุญเลิศ ประภากมล กรรมการบริษัท เจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ จำกัด นายวรวิทย์ เจนธนากุล นาง วิไลลักขณ์ รัตนสวัสดิ์ กรรมการบริษัท รีสอร์ทแลนด์ จำกัด น.ส. พัชรี ชินรักษ์ นางอนงนุช ภรณวลัย นางเจริญศรี ลือพัฒนสุข กรรมการผู้มีอำนาจบริษัท เอกเจริญการเกษตร จำกัด มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐมาตรา 4 ,9,10,11,12,13 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86,157,341

กลุ่ม 6.นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ฐานะเป็นผู้ริเริ่ม โครงการมีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดการเสนอความผิดต่อหน่วยงานรัฐ มาตรา 10,11,12 ตามประมวลกฎหมายอาญา 83,84,157,341

กลุ่ม 7.นายเนวิน ชิดชอบ อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดการเสนอความผิดต่อหน่วยงานรัฐ มาตรา 10,13 ตามประมวลกฎหมายอาญา 83, 157,341

**คตส.มีมติฟ้องเองคดีหวยบนดิน
นายสัก กอแสงเรือง
แถลงด้วยว่า คตส.มีมติเห็นด้วยกับความเห็นของคณะทำงานฝ่าย คตส.ในการประชุมร่วมกับ อัยการสูงสุด เพื่อพิจาณาความไม่สมบูรณ์ ของสำนวนในดคีการออกฉลากเลขท้ายพิเศษแบบ 2 และ 3 ตัว หรือหวยบนดิน ที่ยืนยันในความสมบูรณ์ของสำนวนการไต่สวนที่ได้ส่งให้อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง ซึ่งเมื่ออัยการสูงสุดเห็นต่างกับ คตส.ว่าสำนวนไม่สมบูรณ์ คตส.ก็จะนำสำนวนดังกล่าวมาฟ้องเอง

โดยหลังจากนี้ คตส.จะได้ส่งหนังสืออัยการสูงสุดเพื่อขอเอกสาร สำนวนสรุปการไต่สวนคืน เพื่อดำเนินคดีต่อไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 11 ว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งขณะนี้ คตส.ได้มีการแต่งตั้งทีมทนายความจากสภาทนายความรวม 12 คน ร่วมเป็นคณะทำงานตรวจสอบสำนวนของคตส.ให้รัดกุมยิ่งขึ้น และจะทำให้เสร็จภายในกรอบเวลา 14 วัน

"ขอยืนยันว่าสำนวนของคตส.ทุกสำนวนถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ประกอบด้วยข้อมูลเอกสารหลักฐานที่เป็นพยานจากข้อกล่าวหา จากกากระทำจากการชี้แจงของผู้ถูกกล่าวหา พร้อมทั้งมีกฎหมายประกอบทุกประเด็น ครบถ้วนอย่างชัดเจนทุกคดี ซึ่งคตส.มั่นใจในสำนวนที่ได้สรุปไป"นายสักกล่าว

**ชาวบ้านแห่ให้กำลังใจ คตส.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกัน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ได้มีการจัดบอร์ด ติดตัวอักษรว่า กำลังใจแด่ คตส.โดยมีรูปคตส.ทั้ง 10 คน เรียงหน้ากระดาน พร้อมทั้งนำผลงานสมุดปกเหลืองของคตส.ทั้งสองเล่ม ที่เคยพิมพ์แจกจ่ายให้กับประชาชนมาติดโชว์ด้วย

นายสัก กล่าวว่า คตส.ไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยว โดยในวันเดียวกันนี้ได้มีชาวบ้าน พ่อค้า แม่ค้าจากจังหวัดต่าง ๆ อาทิ จ.ชัยภูมิ เลย กทม. นครราชสีมา ชุมพร ประมาณ 40 คน เข้าให้กำลังใจกับคตส. ซึ่งคตส.ก็ยังเหนียวแน่น ทำงานตามกฎหมายทั้ง 10 คนเหมือนเดิม
กำลังโหลดความคิดเห็น