เชียงราย – กลุ่มทุนจีนยึดหัวหาดริมฝั่งโขงผุด “กาสิโน-โรงแรม-นิคมอุตสาหกรรมการเกษตร” บนพื้นที่กว่าหมื่นไร่ เบื้องต้นเร่งมือก่อสร้างหวังเปิดให้ทันในเดือนเมษายน 51 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว-นักลงทุน ที่จะเข้ามามากขึ้นตามแนวถนน R3a-เส้นทางเดินเรือผ่านแม่น้ำโขง หลังจีน คุมเข้มบ่อนใหญ่ชายแดนพม่า-จีน ขณะที่ทุนต่างชาติไหลเข้าลาวเหนือ ปักธงตามแนวถนนจีน-ลาว-ไทยเพียบ
นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานหอการค้า จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกลุ่มทุนชาวจีนจากมณฑลหยุนหนัน(ยูนนาน )สาธารณรัฐประชาชนจีน ในนาม บริษัท หงษ์หยู ได้เข้ามาลงทุนเช่าพื้นที่บริเวณเมืองต้นผึ้ง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) ตรงข้าม สามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เยื้องท่าเรือล้านช้างของฝั่งไทย กว่าหมื่นไร่ โดยให้บริษัทลูกในนาม บริษัท ดอกงิ้วคำ จำกัด ของ สปป.ลาว เป็นผู้ดำเนินงาน พัฒนาพื้นที่ ซึ่งแบ่งเป็นหลายเฟส คาดว่าจะทำเป็นนิคมอุตสาหกรรมการเกษตร ซึ่งมีการเพาะปลูกพืช และอีกส่วนยังเป็นโรงแรมและเอนเตอร์เทนเมนต์ เช่น กาสิโน ด้วย
ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะมีเป้าหมายรองรับกลุ่มลูกค้าจากจีน ที่จะเดินทางจากเส้นทางถนน R3a – แม่น้ำโขง มายังบริเวณนี้ ซึ่งโครงการนี้ได้ทำถนนยาวราว 4 กิโลเมตร(กม.)ไปเชื่อมถนนที่เลียบฝั่งโขงไปเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาวและเชื่อมต่อกับถนน R3a - ถนนไปเมืองมอม สปป.ลาวด้วย
“การเคลื่อนย้ายเข้ามาลงทุนในสามเหลี่ยมทองคำของกลุ่มทุนเหล่านี้ ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการต้องการรองรับการท่องเที่ยว - การเกษตรในอนาคต รวมถึงนโยบายจีน ที่ไม่ส่งเสริมให้มี คาสิโน ในเมืองลา ชายแดนจีน-พม่า อีกต่อไป ทำให้กาสิโนส่วนหนึ่งต้องย้ายไปเมืองม้า ซึ่งอยู่ใกล้กัน แต่ส่วนหนึ่งอาจจะย้ายฐานมายังเมืองต้นผึ้ง สปป.ลาว แห่งนี้แทน”
แหล่งข่าวในอำเภอเชียงแสน ระบุว่า ก่อนหน้านี้นายประสงค์ ปงปัญญายืน อดีต กำนัน ต.สันทราย อ.แม่จัน จ.เชียงราย ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือล่มในแม่น้ำโขงเมื่อ 2 เดือนก่อน เคยเข้าไปรับเหมาทำถนน ที่เชื่อมจากโครงการนี้ระยะทางกว่า 4 กม. พออดีตกำนันเสียชีวิต ทราบว่า ครอบครัวก็เข้าไปสานงานต่ออยู่ ซึ่งชื่อของโครงการยังเป็นความลับ โดยการก่อสร้างที่เห็นด้วยสายตา นอกจากถนนเชื่อมแล้ว ยังมีการสร้างโรงแรมคาดว่าจะมากกว่า 100 ห้องขึ้นไป - กาสิโน ซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้น คาดว่าจะมีพื้นที่ใหญ่โต ทันสมัยกว่าโครงการพาราไดซ์รีสอร์ท ในฝั่งพม่าที่อยู่เยื้องกัน
เบื้องต้นมีกระแสข่าวว่าโครงการนี้จะเริ่มเปิดบริการได้ตั้งแต่เดือน เมษายน 2551 แต่ยังไม่แน่ว่าจะทันกำหนดหรือไม่ เพราะเท่าที่เห็นขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนเร่งสร้างตัวอาคารอยู่
ส่วนโครงการนิคมอุตสาหกรรมการเกษตร อาจจะเป็นเฟสต่อไป หลังจากการลงทุนในส่วนโรงแรม-กาสิโน สามารถสร้างรายได้แล้ว เนื่องจากอายุสัญญาการเช่าพื้นที่ยาวถึง 90 ปี (ครั้งแรก 30 ปี สามารถต่ออายุได้อีก 2 ครั้ง ๆ ละ 30 ปี) รวมพื้นที่กว่าหมื่นไร่ ซึ่งรัฐบาล สปป.ลาว ให้การส่งเสริมนักลงทุนชาวจีนเต็มที่
ด้านนายวรชัย อุตตมชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชีรยงราย กล่าวว่า ทราบเพียงว่ามีการจะสร้างนิคมอุตสาหกรรมการเกษตรในฝั่ง สปป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน แต่ไม่มีใครได้เข้าไปสังเกตการณ์ใกล้ชิด แต่ข่าวก็คือขณะนี้มีการสร้างโรงแรมและกาสิโนก่อน ซึ่งทราบว่าในระยะนี้มีชาวจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ทยอยกันเข้ามาลงทุนในพื้นที่แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาวมาก ทั้งโรงแรม,ตลาดสินค้าจีน,สนามกอล์ฟ ฯลฯ เพื่อรับกับถนน R3a ที่ใกล้เสร็จ และไทย-จีน ยังมีโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ที่ อ.เชียงของ-แขวงบ่อแก้ว คาดว่าจะเสร็จราวปี 2554 ด้วย จึงทำให้มีนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามายึดหัวหาดกันมาก เพื่อยึดกุมพื้นที่ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวบริเวณนี้ไว้หมด
“เท่าที่ทราบมูลค่าการลงทุนใน สปป.ลาว ในระยะนี้มีสูงมาก โดยเฉพาะธุรกรรมการลงทุนตามแนวถนน R3a”
ส่วนฝั่งไทยก็เริ่มมีการลงทุนบ้าง เช่น ขออนุญาตก่อสร้าง สร้างโรงแรมขนาดใหญ่หลายร้อยห้อง ที่บ้านดอนมหาชัย อ.เชียงของ ที่ อ.เชียงของ ใกล้จุดจะสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ราว 3 กม.ของกลุ่มทุนไทย และจีน สัดส่วน ไทย 51% และ จีน 49% มูลค่าการลงทุนอาจถึงพันล้านบาท