พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้จะเป็นอย่างไรอยู่ที่ความร่วมมือและเข้าใจ ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ และไม่พยายามก็ไม่มีประโยชน์อะไร แต่ถ้ายืนอยู่บนความร่วมมือและมีส่วนร่วมเราจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าดูแนวโน้มผู้ที่จะมาเป็นรัฐบาลคิดว่าจะทำให้บ้านเมืองสงบสุขหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นว่าใครจะมาเป็นคณะรัฐมนตรีบ้าง ซึ่งเป็นเพียงข่าวลือทราบเพียงว่ามีกี่พรรคประกาศร่วมรัฐบาล ให้คนเหล่านั้นมีเวลาทำงานพิสูจน์ตัวเองคิดว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดี
ผมมีความหวังว่าบ้านเมืองของเรานั้นน่าจะมีโอกาสเจริญก้าวหน้าต่อไป ถ้าพวกเราช่วยกันและร่วมมืออย่างที่กล่าวไปแล้ว ไม่ปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้น โดยไม่มีส่วนร่วม เราก็จะสูญเสียโอกาสนั้น
ส่วนที่นายสมัครออกมาระบุว่ามีขบวนการขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้เป็นนายสมัคร ฉะนั้นไม่ทราบว่าอะไรเป็นมือสะอาด มือสกปรก
เตือนรัฐทหารภักดีต่อผู้บังคับบัญชา
พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.สส.) สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวว่าอยากจะฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ว่ากองทัพจะปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด ที่สำคัญคือเราจะสนับสนุนราชบัลลังก์ รวมถึงโครงการพระราชดำริให้สุดความสามารถ ทั้งนี้กองทัพจะต้องตอบสนองนโยบายของรัฐบาล และอยากให้ผู้นำซึ่งจะเป็นท่านใดก็แล้ว แต่ต้องมีความเข้าใจกองทัพว่า ทหารวันนี้เรามีวินัยมีความจงรักภักดีต่อผู้บังคับบัญชาอยู่แล้ว ซึ่งกองทัพถือว่าปกครองง่ายที่สุด ถ้าผู้บังคับบัญชาระดับสูงสุด มีความเข้าใจ มีความจริงในทหาร มีความรัก ตายแทนผู้บังคับบัญชาได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นขอให้ช่วยดูแลกองทัพ และกำลังเหล่านี้ให้ดีด้วย
ส่วนจะฝากรัฐบาลในฐานะที่อาสาเข้ามาบริหารประเทศนั้น พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า กองทัพเป็นตัวแปรสำคัญในบ้านเมือง ทางรัฐบาลมีความเข้าใจและดูแล อย่างที่ตนพูดว่าทหารดูแลง่ายที่สุดอยู่แล้ว มีความจริงใจต่อกันง่ายมากจะทำให้เกิดความสมานฉันท์ในทุกฝ่าย เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าทหารเป็นตัวแปรสำคัญหมายถึงอะไร พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ทหารจะเข้าไปช่วยเหลือประชาชน ทหารมีกำลังพลมากพอสมควร และมียุทโธปกรณ์ ทหารมีวินัยได้รับการฝึกมาอย่างดี ถ้าถูกใช้ไปตามนโยบายรัฐบาลไปในทางที่ดี จัดการให้มีระบบที่มีอยู่แล้ว รวมถึงตัวบุคคล put the rigth man on the job มันก็จะมีความเข้มแข็งที่จะทำตามนโยบายของรัฐบาลได้ ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชาติบ้านเมือง
ถ้ารัฐบาลไม่มีคุณภาพก็อาจจะใช้กองทัพไปในทางที่ผิดซึ่งจะเกิดโทษมหันต์ ดังนั้นรัฐบาลจะต้องมีคุณธรรมในการใช้งานในการมอบภารกิจต่าง ๆ ให้กับทหาร
แนะคิดให้รอบคอบตั้งใครเป็นรมว.กห.
สำหรับกระแสข่าวที่ว่าคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ี โทรศัพท์พูดคุยกับ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ถือเป็นหนทางนำไปสู่ความสมานฉันท์หรือไม่นั้น พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ขอพูด เพราะไม่ทราบอะไร แต่แนวทางทั่วไปถือเป็นสิ่งที่ดีที่มีการพูดคุยกัน เพื่อนำไปสู่สิ่งที่ดีก็ดี
ส่วนตำแหน่ง รมว.กลาโหมคน กองทัพจำเป็นจะต้องเสนอแนะหรือไม่ ว่าจะต้องเป็นทหาร หรือพลเรือน พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า อยู่ที่รัฐบาลจะต้องมีความเข้าใจว่า ควรจะทำอย่างไรที่เหมาะสม เพราะบางจุดก็ละเอียดอ่อน บางจุดปกติอาจจะไม่ละเอียดอ่อน แต่เวลาเช่นนี้อาจจะต้องละเอียดอ่อน ซึ่งตำแหน่ง รมว.กลาโหม น่าจะเป็นจุดที่ละเอียดอ่อนพอสมควรในเวลาเช่นนี้ ดังนั้นรัฐบาลจะต้องคิดให้รอบคอบ
ส่วนที่เพื่อน ตท.6 ผลักดันให้ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ. ไปดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม คนใหม่นั้น พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า รัฐบาลก็จะต้องพิจารณาห้รอบคอบ เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเห็นว่าเหมาะสมหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน และ พล.อ.ประวิตร ก็เคยเป็น ผบ.ทบ. คนที่เป็น ผบ.ทบ.ได้รับการคัดเลือกมาแล้วอย่างถูกต้องตามขั้นตอนต่าง ๆ ตนเชื่อว่าความสามารถไม่ต้องห่วงศักยภาพมีแน่นอน
ผมว่าทุกคนตอนนึ้คงจะต้องมุ่งหวังบุคลิกของคนที่มองอะไรส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อส่วนตัว หรือมีอารมณ์มากๆ คงไม่ใช่ ต้องระมัดระวังที่จะไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ต้องมีความสร้างสรรค์ และมุ่งมั่นในการทำงาน
ปัดแม้วส่งสัญญาณตั้งนายกฯ
นายนพดล ปัทมะ รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน และที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์หนุนนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนเป็นนายกรัฐมนตรีว่า ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณ แต่เป็นการพูดตามหลักการว่าหัวหน้าพรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต้องเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนการแถลงข่าวยืนยันการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงรับทราบจากข่าวทางอินเตอร์เน็ตแล้ว
ส่วนที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ไม่ยืนยันจะสนับสนุนนายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาสุดท้ายคงสนับสนุน ตนไม่อยากให้มองเป็นการต่อรอง แต่ให้คิดว่าเป็นการมาทำงานร่วมกันมากกว่า ส่วนโควตารัฐมนตรีนั้น ต้องจัดสรรตามสัดส่วนส.ส.ของแต่ละพรรคอยู่แล้ว ในวันนี้ทางพรรคจะส่งหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการ ไปถึงทุกพรรค เพื่อเป็นการให้เกียรติ และหลังจากนั้นต้องมีการพูดคุยถึงวาระการทำงาน
นายนพดล ยืนยันว่า ในวันที่ 19 ม.ค.ก็จะมีการประกาศตั้งรัฐบาลร่วม 6 พรรคแน่นอน ซึ่งพรรคพลังประชาชนพร้อมที่จะปรับตัวเพื่อให้เป็นสถาบันทางการเมือง ส่วนการที่น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา รองหัวหน้าพรรค ระบุต้องจำใจเข้าร่วมรัฐบาลเพราะไม่มีทางเลือกนั้น ไม่ขอวิจารณ์ เพราะเป็นมติของพรรคชาติไทยซึ่งไม่ควรที่จะก้าวล่วง
พปช.วางกรอบเวลาเลือกตั้งนายกฯ
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงการพิจารณา บุคคลที่จะมาเป็นประธานสภา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมว่า ต้องรอเวลาที่เหมาะสมแล้วค่อยหารือ โดยต้องรอการเปิดประชุมสภาฯวันที่ 21ม.ค.จากนั้นวันที่ 23ม.ค.จึงจะเลือกประธานสภาฯแล้ววันที่25ม.ค.เลือกนายกรัฐมนตรี จากนั้นจึงจะมีการเลือกครม.และแถลงนโยบายรัฐบาล
ส่วนข่าวที่ว่า พรรคเตรียมบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีสำรองไว้แล้วนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้มีข่าวปล่อยเยอะ ยืนยันแกนนำพรรคไม่เคยพูดเรื่องนี้ เมื่อถามว่า การเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น พรรครอคำตอบจากต่างประเทศใช่หรือไม่ นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า เรื่องที่ถามนั้นไม่ใช่ปัจจัย เพราะบุคคลที่จะตัดสินใจเลือกนายกรัฐมนตรีคือกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาล
นพ.สุรพงษ์ ปฎิเสธข่าวที่ว่ามีแกนนำพรรคบางคนไปหารือกับพรรคประชาธิปัตย์เพื่อตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดยยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ แต่การที่นักการเมืมองจะพบและคุยกันเป็นเรื่องธรรมดา
ล๊อคคลัง-คมนาคม-พาณิชย์-ท่องเที่ยว
ส่วนที่มีข่าวว่า จะทาบทามคนนอกมาเป็นรัฐมนตรีครึ่งหนึ่ง นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า พรรคจะดูแลกระทรวงสำคัญๆ อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงท่องเที่ยวฯ โดยพรรคจะสรรหาบุคลากรให้มาทำงานเป็นทีมให้ดีที่สุด โดยบุคคลเหล่านั้นมาช่วยงานพรรคแต่ไม่เคยเป็นข่าว แต่ระดับวงในพรรคนั้นรู้กันอยู่
พรรคจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ประชาชนมั่นใจ เพราะ 6 เดือนจากนี้ไป ต้องแก้ไขปัญหาค่าใช้จ่ายภาครัฐ การลงทุนเมกะโปรเจกต์ การกระตุ้นการท่องเที่ยวและการทำให้ประชาชนมีรายได้อย่างเร่งด่วน สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยการกระตุ้นเศรษฐกิจ ฉะนั้นรายชื่อต่างๆ ที่เป็นข่าวในช่วงนี้อาจมาจากคนที่ไม่รู้จริง
กุเทพกำชับชท.ต้องหนุนสมัคร
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า การที่พรรคชาติไทย และพรรคเพื่อแผ่นดินแถลงว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนนั้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะทำให้การเมืองชัดเจน ส่วนกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ยังไม่ตอบรับว่าจะสนับสนุนนายสมัคร สึนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี นั้น ทราบว่ นายบรรหารกล่าวว่า ให้เป็นหน้าที่ของพรรคแกนนำ เพราะฉะนั้นพรรคจึงมองว่า หากพรรคพลังประชาชนเสนอใครพรรคร่วมก็จะต้องเห็นด้วย โดยเฉพาะตำแหน่งประธานสภาฯ และนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นตำแหน่งที่สำคัญ พรรคแกนนำจะต้องเป็นผู้กำหนด และพรรคร่วมก็ต้องสนับสนุน 2ตำแหน่งนี้ไม่ใช่ตำแหน่งที่จะต่อรองได้
อวยชัยจะนำภาคปชช.ทิ้งชาติไทย
นายอวยชัย วะทา อดีตผู้สมัครส.ส.แบบสัดส่วน พรรคชาติไทย กล่าวว่ารู้สึกรับไม่ได้กับการประกาศเจตนารมณ์เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนของ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย โดยสัปดาห์หน้าจะเรียกประชุมเครือข่ายภาคประชาชนที่ จ.ขอนแก่น เพื่อหารือถึงเรื่องการลาออกจาก พรรคชาติไทย โดยสหพันธ์สหกรณ์ภาคเกษตรอีสานและองค์กรภาคประชาชนทั้งหมด ที่เคยสนับสนุนพรรคชาติไทย จะขอยุติบทบาทตรงนี้ เพราะเหตุผลของนายบรรหาร ไม่ใช่เหตุผลที่ต้องการทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง แต่เป็นเพียงสูตรสำเร็จของพรรคที่อยากเข้าร่วมรัฐบาลเท่านั้น
ตอนนี้ไม่อยากให้ประชานคาดหวังกับนักการเมืองเหล่านี้ ประชนต้องพึ่งตนเอง ตอนนี้มันชัดเจนแยกขั้วระหว่างเทพกับมาร แต่ไม่ได้หมายความว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นเทพ แต่ประชาชนคือเทพ แต่เทพต้องแย่ในวันนี้ คนที่ใกล้ชิด นายบรรหาร คงดูกระแสสังคมว่าจะรุนแรงแค่ไหน หากรุนแรง เชื่อว่าคงมีการถอยหลังกันบ้าง แต่สำหรับตัวนายบรรหารคงไม่ฟังกระแสสังคม
นายอวยชัยกล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่ไม่เกินสิ้นปีนี้ โดยเฉพาะ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรี จะทำให้การเมือง ถูกแทรกแซงอย่างหนักจากกลุ่มอำนาจเก่า ความสมานฉันท์ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน การเป็นรัฐบาลหลายพรรค จะมีการแย่งชิงผลประโยชน์ ขอให้ประชาชนเฝ้าจับตาโครงการต่างๆ ที่จะไปสู่รากหญ้า เพราะจะมีเม็ดเงินจากตรงนี้มาก และนักการเมือง ต่างเฝ้าตะครุบอยู่ ที่นายบรรหารถูกถามเรื่องผู้มีพระคุณแล้วบอกว่า เรื่องการเมือง ให้ลืมๆไปบ้าง ก็อยากบอกกับเด็กรุ่นหลังเหมือนกันว่า ให้ลืมนักการเมืองรุ่นเก่าให้หมด ประเทศชาติจะได้เจริญมากกว่านี้
ชูวิทย์บุกชท.ถล่มบรรหาร
วานนี้ (18 ม.ค.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวบริเวณหน้าที่ทำการพรรค โดยนำรูปนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ขนาดเท่าตัวจริงวางไว้บนเก้าอี้ พร้อมนำโปสเตอร์ข้อความ โจมตีต่างๆ โดยระบุว่าจะนำข้อความไปขึ้นคัดเอาท์ขนาดใหญ่ 3 รูปแบบติดไว้ที่บริเวณทางขึ้นทางด่วนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มักกะสัน และบางนา
นายชูวิทย์ หันไปกล่าวกับรูปของนายบรรหารว่า รู้สึกอึดอัดใจ ไม่อยากจะมา แต่ที่ต้องมาเพราะสังคมเรียกร้อง ท่านสอนอยู่เสมอว่าเป็นนักการเมืองต้องพูดอะไรให้ออกได้สองทางอยู่เสมอ ถ้าออกทางเดียวจะไม่มีทางไป ซึ่งตรงข้ามกับสโลแกนของพรรคที่ตั้งไว้ แต่ท่านทำตรงข้ามมาตลอด และการแถลงข่าวเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนก็ปากสั่น ลิ้นคับ น้ำตาคลอ ถ้าชาติไทยไม่เข้าร่วม บ้านเมืองก็จะไปไม่ได้ วันนี้ท่านวัยใกล้ 80 ปีแล้วยังต้องการอะไรอีก นายกฯก็เคยเป็นมาแล้ว คนที่ตั้งฉายาให้เป็นหลงจู๊เขามองเห็นว่าแตกต่างกับคำว่า เถ้าแก่อย่างไร เพราะคุณบัติของหลงจู๊คือเอาประโยชน์ต่อหน้าเฉพาะตน ไม่มีวิสัยทัศน์ คับแคบ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว
เคยอ่านประวัติท่านบอกว่าเคยเป็นช่างตัดเสื้อ เมียขายขนม เป็นนายกฯ รัฐมนตรีก็เป็นมาแล้ว วันนี้ท่านยังต้องการอะไรในชีวิตอีก วัยอย่างท่านถือว่า เป็นผู้อาวุโสที่จะต้องยกย่องบูชา ะฉะนั้นให้ระวังที่ไปร่วมกับพรรคพลังประชาชน ท่านจะจบชีวิตทางการเมือง
นายชูวิทย์ยังระบุว่าในวันแถลงข่าวร่วมรัฐบาลทั้ง 6 พรรคที่โรงแรมสุโขทัย เวลา 14.00 น.จะเดินทางไปป่วน โดยอาจนำอาหารที่ทำจากปลาไหลในงานด้วย
หนูนาเตรียมฟ้องชูวิทย์
ขณะที่ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวเตือนนายชูวิทย์ ว่า ให้พึงสังวรณ์ว่ามีกฎหมายหมิ่นประมาทอยู่ ดังนั้นจะพูดจาอะไรก็ให้ระวังไว้ให้ดี สำหรับคนนี้ในการแสดงความคิดเห็นไม่เคยเข้าหูตน แต่ความเห็นที่มีคุณค่า ก็พร้อมที่จะยอมรับ ซึ่งขณะนี้กำลังให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาอยู่ อาจจะมีการดำเนินการฟ้องรเอาผิดในข้อหาหมิ่นประมาทได้
รับอึดอัดชท.ต้องเข้าร่วมรัฐบาลกับพปช.
น.ส.กัญจนา กล่าวว่า สำหรับการวิพากษ์วิจารณ์พรรคชาติไทยในการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนนั้น ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็รู้สึกอึดอัดใจพอสมควร แต่ด้วยเหตุผลรอบด้าน และด้วยภาวะแวดล้อม เราต้องคำนึงถึง ซึ่งคุณพ่อ (นายบรรหาร ศิลปอาชา) ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านกระบวนการทางความคิดมามาก ท่านคงคิดพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ด้วยเหตุผลรอบด้านเราไม่มีทางเลือก ถึงจะไม่ได้อยากร่วมรัฐบาลและได้มีการพูดกับพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด แต่ด้วยคะแนนเสียงที่ออกมาอย่างนี้ ถึงอย่างไรพรรคประชาธิปัตย์ก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่จะทำให้ประเทศเดินต่อไปไม่ได้ ถ้าเราไม่เข้าร่วมรัฐบาล พรรคพลังประชาชนก็จัดตั้งรัฐบาลด้วยเสียงปริ่มๆ และคนที่เป็นรัฐบาลก็จะเกิดความชะงักงันทางการเมืองทำให้บางทีก็เลือกทางเดินอย่างที่ใจนึกไม่ได้ โดยเฉพาะที่ไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่งคือ การแบ่งแยกทางความคิดอย่างชัดเจน ระหว่างคนเมืองกับคนในชนบท เป็นเรื่องที่ไม่ดีเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความรู้สึกลำบากใจในการที่จะเลือกนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีหรือๆไม่ น.ส.กัญจนา กล่าวว่า เมื่อกติกาเป็นอย่างนั้น เราก็ต้องเคารพ เมื่อเราอยู่ภายในระบอบประชาธิปไตย ถึงแม้รัฐธรรมนูญจะเปิดอิสระให้เลือกนายกฯ แต่เมื่ออยู่ภายใต้พรรคการเมือง เราก็ต้องเคารพมติพรรค ความรู้สึกส่วนตัวต้องเก็บเอาไว้
ไม่รับตำแหน่งรมต.แน่นอน
การที่คุณพ่อว่าพร้อมเข้าร่วมรัฐบาล แต่เรื่องการโหวตนายกฯ ให้อยู่ที่มติของ ที่ประชุม ก็ถือว่าเป็นการพูดไปตามขั้นตอน แต่สุดท้ายก็ต้องเป็นไปตามกติกา
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการพูดคุยถึงความอึดอัดใจกับคุณพ่อหรือไม่ น.ส.กัญจนา กล่าวว่า ก็สะท้อนกันและกันอยู่ตลอด ตนเองก็ไม่ชอบที่จะถูกเรียกว่าพรรคปลาไหล แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่ทำใจ จะเรียกก็เรียกไป ไม่ขอเถียง
ดิฉันรับรองว่าจะไม่มีชื่อ กัญจนา เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้แน่นอน แต่ไม่เกี่ยวกับพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำ แต่เกี่ยวกับวิสัยของดิฉันแล้วไม่ชอบตำแหน่ง ที่รับตำแหน้งแต่ละครั้งด้วยเหตุบางประการ ซึ่งดิฉันได้แจ้งให้คุณพ่อทราบแล้ว
พผ.อ้างจำเป็นต้องร่วมรัฐบาล
นายจิรายุ วสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นทราบว่า พรรคได้รับการจัดสรร เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการ 2 กระทรวง รัฐมนตรีช่วย 2 กระทรวง และรองนายกฯ 1 ตำแหน่ง แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นกระทรวงใดบ้าง และใครจะอยู่ในตำแหน่งใด โดยพรรคได้มอบหมายให้นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรค เป็นผู้ตัดสินใจและเจรจากับพรรคพลังประชาชนเพียงผู้เดียว ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องตกลงกันแล้วนำกลับมาหารือภายในพรรค ทั้งนี้เห็นว่า พรรคมีเหตุผลชอบธรรมที่จะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตามการเข้ามาดูแลปัญหาภาคใต้อาจไม่จำเป็นต้องเข้าไปเป็นรัฐมนตรีในกระทรวงก็ได้ เพราะตำแหน่งหน้าที่อื่นก็สามารถดูแลแก้ไขปัญหาภาคใต้ได้เช่นกัน
ส่วนที่มีข่าวว่าตนจะได้เป็น รมช.คลังนั้น ยืนยันว่าพรรคยังไม่ได้หารือกัน เพราะยังไม่ชัดเจนว่าจะได้กระทรวงใด แต่หากเสนอตำแหน่ง รมช.คลังให้ตนก็พร้อมเพราะมีความรู้ความสามารถอยู่แล้ว และทำงานมาโดยตรงอย่างต่อเนื่อง
รายงานข่าวแจ้งว่าพรรคเพื่อแผ่นดินเสนอขอตำแหน่ง รองนายกรัฐมนรี , รมว.พลังงาน รมช.คลัง รมช.มหาดไทย ส่วนอีกตำแหน่งเป็น รมว.กระทรวงเกรด บี หรือ รมช.กระทรวงเกรดเอ โดยเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงพลังงาน จะมอบให้นายสุวิทย์ ไปดูแล เพราะจะให้ไปพลักดันนโยบายของพรรคที่ได้ประกาศในการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะกองทุนหมู่บ้าน ส่วนเก้าอี้ รมช. คลังจะมอบหมายให้ นายจิรายุ วสุรัตน์ เข้ามาดูแล รมช. มหาดไทย อาจจะมอบหมายให้ นพ.แวมาหฮาดี แวดาโอะ ส.ส.นราธิวาส เพราะเป็นคนในพื้นที่ และรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด
กลุ่มสุชาติ-ไพโรจน์สายตรงพปช.ขอเก้าอี้
อย่างไรก็ทั้งนี้แหล่งข่าวในกลุ่มบ้านริมน้ำของ นายสุชาติ ตันเจริญ และกลุ่มของว่าที่ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี ที่มีสัดส่วนส.ส.มากที่สุดในพรรคถึง 10 คน ยอมรับว่าได้ต่อสายตรงไปพรรคพลังประชาชน เพื่อเจราจา เก้าอี้ รมช.เกษตรฯ โดยได้รับการตอบตกลงมาแล้ว อย่างไรก็ตามหากการเลือกตั้งซ่อมทั้งสองกลุ่มได้รับส.ส.เพิ่มขึ้นอาจจะขยับเก้าอี้เป็นถึง รมว.เกษตรฯ หรืออาจจะเป็นเก้าอี้ รมว.ในกระทรวงอื่น พร้อมทั้งเก้าอี้รองประธานสภาฯ ด้วย ทั้งนี้คงจะต้องรอความชัดเจนหลังวันที่ 20 แต่จุดหนึ่งที่ 2 กลุ่มมีความเป็นห่วง คือ การเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดนครราชสีมาจำนวน 2 ที่นั่งอาจจะไม่ได้รับเลือกเข้ามา เพราะผลการเลือกตั้งในจังหวัดบุรีรัมย์ที่ออกมาแม้ว่าจะมีการเจราจาของร้องกันระหว่างทั้งสองพรรคแล้ว แต่พรรคพลังประชาชนกับไปเทคะแนนไปให้กับมัชณิชมาประชาธิปไตย
ผู้สื่อข่าวถามว่าดูแนวโน้มผู้ที่จะมาเป็นรัฐบาลคิดว่าจะทำให้บ้านเมืองสงบสุขหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นว่าใครจะมาเป็นคณะรัฐมนตรีบ้าง ซึ่งเป็นเพียงข่าวลือทราบเพียงว่ามีกี่พรรคประกาศร่วมรัฐบาล ให้คนเหล่านั้นมีเวลาทำงานพิสูจน์ตัวเองคิดว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดี
ผมมีความหวังว่าบ้านเมืองของเรานั้นน่าจะมีโอกาสเจริญก้าวหน้าต่อไป ถ้าพวกเราช่วยกันและร่วมมืออย่างที่กล่าวไปแล้ว ไม่ปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้น โดยไม่มีส่วนร่วม เราก็จะสูญเสียโอกาสนั้น
ส่วนที่นายสมัครออกมาระบุว่ามีขบวนการขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้เป็นนายสมัคร ฉะนั้นไม่ทราบว่าอะไรเป็นมือสะอาด มือสกปรก
เตือนรัฐทหารภักดีต่อผู้บังคับบัญชา
พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.สส.) สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวว่าอยากจะฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ว่ากองทัพจะปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด ที่สำคัญคือเราจะสนับสนุนราชบัลลังก์ รวมถึงโครงการพระราชดำริให้สุดความสามารถ ทั้งนี้กองทัพจะต้องตอบสนองนโยบายของรัฐบาล และอยากให้ผู้นำซึ่งจะเป็นท่านใดก็แล้ว แต่ต้องมีความเข้าใจกองทัพว่า ทหารวันนี้เรามีวินัยมีความจงรักภักดีต่อผู้บังคับบัญชาอยู่แล้ว ซึ่งกองทัพถือว่าปกครองง่ายที่สุด ถ้าผู้บังคับบัญชาระดับสูงสุด มีความเข้าใจ มีความจริงในทหาร มีความรัก ตายแทนผู้บังคับบัญชาได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นขอให้ช่วยดูแลกองทัพ และกำลังเหล่านี้ให้ดีด้วย
ส่วนจะฝากรัฐบาลในฐานะที่อาสาเข้ามาบริหารประเทศนั้น พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า กองทัพเป็นตัวแปรสำคัญในบ้านเมือง ทางรัฐบาลมีความเข้าใจและดูแล อย่างที่ตนพูดว่าทหารดูแลง่ายที่สุดอยู่แล้ว มีความจริงใจต่อกันง่ายมากจะทำให้เกิดความสมานฉันท์ในทุกฝ่าย เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าทหารเป็นตัวแปรสำคัญหมายถึงอะไร พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ทหารจะเข้าไปช่วยเหลือประชาชน ทหารมีกำลังพลมากพอสมควร และมียุทโธปกรณ์ ทหารมีวินัยได้รับการฝึกมาอย่างดี ถ้าถูกใช้ไปตามนโยบายรัฐบาลไปในทางที่ดี จัดการให้มีระบบที่มีอยู่แล้ว รวมถึงตัวบุคคล put the rigth man on the job มันก็จะมีความเข้มแข็งที่จะทำตามนโยบายของรัฐบาลได้ ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชาติบ้านเมือง
ถ้ารัฐบาลไม่มีคุณภาพก็อาจจะใช้กองทัพไปในทางที่ผิดซึ่งจะเกิดโทษมหันต์ ดังนั้นรัฐบาลจะต้องมีคุณธรรมในการใช้งานในการมอบภารกิจต่าง ๆ ให้กับทหาร
แนะคิดให้รอบคอบตั้งใครเป็นรมว.กห.
สำหรับกระแสข่าวที่ว่าคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ี โทรศัพท์พูดคุยกับ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ถือเป็นหนทางนำไปสู่ความสมานฉันท์หรือไม่นั้น พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ขอพูด เพราะไม่ทราบอะไร แต่แนวทางทั่วไปถือเป็นสิ่งที่ดีที่มีการพูดคุยกัน เพื่อนำไปสู่สิ่งที่ดีก็ดี
ส่วนตำแหน่ง รมว.กลาโหมคน กองทัพจำเป็นจะต้องเสนอแนะหรือไม่ ว่าจะต้องเป็นทหาร หรือพลเรือน พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า อยู่ที่รัฐบาลจะต้องมีความเข้าใจว่า ควรจะทำอย่างไรที่เหมาะสม เพราะบางจุดก็ละเอียดอ่อน บางจุดปกติอาจจะไม่ละเอียดอ่อน แต่เวลาเช่นนี้อาจจะต้องละเอียดอ่อน ซึ่งตำแหน่ง รมว.กลาโหม น่าจะเป็นจุดที่ละเอียดอ่อนพอสมควรในเวลาเช่นนี้ ดังนั้นรัฐบาลจะต้องคิดให้รอบคอบ
ส่วนที่เพื่อน ตท.6 ผลักดันให้ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ. ไปดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม คนใหม่นั้น พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า รัฐบาลก็จะต้องพิจารณาห้รอบคอบ เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเห็นว่าเหมาะสมหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน และ พล.อ.ประวิตร ก็เคยเป็น ผบ.ทบ. คนที่เป็น ผบ.ทบ.ได้รับการคัดเลือกมาแล้วอย่างถูกต้องตามขั้นตอนต่าง ๆ ตนเชื่อว่าความสามารถไม่ต้องห่วงศักยภาพมีแน่นอน
ผมว่าทุกคนตอนนึ้คงจะต้องมุ่งหวังบุคลิกของคนที่มองอะไรส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อส่วนตัว หรือมีอารมณ์มากๆ คงไม่ใช่ ต้องระมัดระวังที่จะไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ต้องมีความสร้างสรรค์ และมุ่งมั่นในการทำงาน
ปัดแม้วส่งสัญญาณตั้งนายกฯ
นายนพดล ปัทมะ รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน และที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์หนุนนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนเป็นนายกรัฐมนตรีว่า ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณ แต่เป็นการพูดตามหลักการว่าหัวหน้าพรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต้องเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนการแถลงข่าวยืนยันการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงรับทราบจากข่าวทางอินเตอร์เน็ตแล้ว
ส่วนที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ไม่ยืนยันจะสนับสนุนนายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาสุดท้ายคงสนับสนุน ตนไม่อยากให้มองเป็นการต่อรอง แต่ให้คิดว่าเป็นการมาทำงานร่วมกันมากกว่า ส่วนโควตารัฐมนตรีนั้น ต้องจัดสรรตามสัดส่วนส.ส.ของแต่ละพรรคอยู่แล้ว ในวันนี้ทางพรรคจะส่งหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการ ไปถึงทุกพรรค เพื่อเป็นการให้เกียรติ และหลังจากนั้นต้องมีการพูดคุยถึงวาระการทำงาน
นายนพดล ยืนยันว่า ในวันที่ 19 ม.ค.ก็จะมีการประกาศตั้งรัฐบาลร่วม 6 พรรคแน่นอน ซึ่งพรรคพลังประชาชนพร้อมที่จะปรับตัวเพื่อให้เป็นสถาบันทางการเมือง ส่วนการที่น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา รองหัวหน้าพรรค ระบุต้องจำใจเข้าร่วมรัฐบาลเพราะไม่มีทางเลือกนั้น ไม่ขอวิจารณ์ เพราะเป็นมติของพรรคชาติไทยซึ่งไม่ควรที่จะก้าวล่วง
พปช.วางกรอบเวลาเลือกตั้งนายกฯ
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงการพิจารณา บุคคลที่จะมาเป็นประธานสภา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมว่า ต้องรอเวลาที่เหมาะสมแล้วค่อยหารือ โดยต้องรอการเปิดประชุมสภาฯวันที่ 21ม.ค.จากนั้นวันที่ 23ม.ค.จึงจะเลือกประธานสภาฯแล้ววันที่25ม.ค.เลือกนายกรัฐมนตรี จากนั้นจึงจะมีการเลือกครม.และแถลงนโยบายรัฐบาล
ส่วนข่าวที่ว่า พรรคเตรียมบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีสำรองไว้แล้วนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้มีข่าวปล่อยเยอะ ยืนยันแกนนำพรรคไม่เคยพูดเรื่องนี้ เมื่อถามว่า การเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น พรรครอคำตอบจากต่างประเทศใช่หรือไม่ นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า เรื่องที่ถามนั้นไม่ใช่ปัจจัย เพราะบุคคลที่จะตัดสินใจเลือกนายกรัฐมนตรีคือกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาล
นพ.สุรพงษ์ ปฎิเสธข่าวที่ว่ามีแกนนำพรรคบางคนไปหารือกับพรรคประชาธิปัตย์เพื่อตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดยยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ แต่การที่นักการเมืมองจะพบและคุยกันเป็นเรื่องธรรมดา
ล๊อคคลัง-คมนาคม-พาณิชย์-ท่องเที่ยว
ส่วนที่มีข่าวว่า จะทาบทามคนนอกมาเป็นรัฐมนตรีครึ่งหนึ่ง นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า พรรคจะดูแลกระทรวงสำคัญๆ อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงท่องเที่ยวฯ โดยพรรคจะสรรหาบุคลากรให้มาทำงานเป็นทีมให้ดีที่สุด โดยบุคคลเหล่านั้นมาช่วยงานพรรคแต่ไม่เคยเป็นข่าว แต่ระดับวงในพรรคนั้นรู้กันอยู่
พรรคจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ประชาชนมั่นใจ เพราะ 6 เดือนจากนี้ไป ต้องแก้ไขปัญหาค่าใช้จ่ายภาครัฐ การลงทุนเมกะโปรเจกต์ การกระตุ้นการท่องเที่ยวและการทำให้ประชาชนมีรายได้อย่างเร่งด่วน สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยการกระตุ้นเศรษฐกิจ ฉะนั้นรายชื่อต่างๆ ที่เป็นข่าวในช่วงนี้อาจมาจากคนที่ไม่รู้จริง
กุเทพกำชับชท.ต้องหนุนสมัคร
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า การที่พรรคชาติไทย และพรรคเพื่อแผ่นดินแถลงว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนนั้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะทำให้การเมืองชัดเจน ส่วนกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ยังไม่ตอบรับว่าจะสนับสนุนนายสมัคร สึนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี นั้น ทราบว่ นายบรรหารกล่าวว่า ให้เป็นหน้าที่ของพรรคแกนนำ เพราะฉะนั้นพรรคจึงมองว่า หากพรรคพลังประชาชนเสนอใครพรรคร่วมก็จะต้องเห็นด้วย โดยเฉพาะตำแหน่งประธานสภาฯ และนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นตำแหน่งที่สำคัญ พรรคแกนนำจะต้องเป็นผู้กำหนด และพรรคร่วมก็ต้องสนับสนุน 2ตำแหน่งนี้ไม่ใช่ตำแหน่งที่จะต่อรองได้
อวยชัยจะนำภาคปชช.ทิ้งชาติไทย
นายอวยชัย วะทา อดีตผู้สมัครส.ส.แบบสัดส่วน พรรคชาติไทย กล่าวว่ารู้สึกรับไม่ได้กับการประกาศเจตนารมณ์เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนของ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย โดยสัปดาห์หน้าจะเรียกประชุมเครือข่ายภาคประชาชนที่ จ.ขอนแก่น เพื่อหารือถึงเรื่องการลาออกจาก พรรคชาติไทย โดยสหพันธ์สหกรณ์ภาคเกษตรอีสานและองค์กรภาคประชาชนทั้งหมด ที่เคยสนับสนุนพรรคชาติไทย จะขอยุติบทบาทตรงนี้ เพราะเหตุผลของนายบรรหาร ไม่ใช่เหตุผลที่ต้องการทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง แต่เป็นเพียงสูตรสำเร็จของพรรคที่อยากเข้าร่วมรัฐบาลเท่านั้น
ตอนนี้ไม่อยากให้ประชานคาดหวังกับนักการเมืองเหล่านี้ ประชนต้องพึ่งตนเอง ตอนนี้มันชัดเจนแยกขั้วระหว่างเทพกับมาร แต่ไม่ได้หมายความว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นเทพ แต่ประชาชนคือเทพ แต่เทพต้องแย่ในวันนี้ คนที่ใกล้ชิด นายบรรหาร คงดูกระแสสังคมว่าจะรุนแรงแค่ไหน หากรุนแรง เชื่อว่าคงมีการถอยหลังกันบ้าง แต่สำหรับตัวนายบรรหารคงไม่ฟังกระแสสังคม
นายอวยชัยกล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่ไม่เกินสิ้นปีนี้ โดยเฉพาะ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรี จะทำให้การเมือง ถูกแทรกแซงอย่างหนักจากกลุ่มอำนาจเก่า ความสมานฉันท์ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน การเป็นรัฐบาลหลายพรรค จะมีการแย่งชิงผลประโยชน์ ขอให้ประชาชนเฝ้าจับตาโครงการต่างๆ ที่จะไปสู่รากหญ้า เพราะจะมีเม็ดเงินจากตรงนี้มาก และนักการเมือง ต่างเฝ้าตะครุบอยู่ ที่นายบรรหารถูกถามเรื่องผู้มีพระคุณแล้วบอกว่า เรื่องการเมือง ให้ลืมๆไปบ้าง ก็อยากบอกกับเด็กรุ่นหลังเหมือนกันว่า ให้ลืมนักการเมืองรุ่นเก่าให้หมด ประเทศชาติจะได้เจริญมากกว่านี้
ชูวิทย์บุกชท.ถล่มบรรหาร
วานนี้ (18 ม.ค.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวบริเวณหน้าที่ทำการพรรค โดยนำรูปนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ขนาดเท่าตัวจริงวางไว้บนเก้าอี้ พร้อมนำโปสเตอร์ข้อความ โจมตีต่างๆ โดยระบุว่าจะนำข้อความไปขึ้นคัดเอาท์ขนาดใหญ่ 3 รูปแบบติดไว้ที่บริเวณทางขึ้นทางด่วนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มักกะสัน และบางนา
นายชูวิทย์ หันไปกล่าวกับรูปของนายบรรหารว่า รู้สึกอึดอัดใจ ไม่อยากจะมา แต่ที่ต้องมาเพราะสังคมเรียกร้อง ท่านสอนอยู่เสมอว่าเป็นนักการเมืองต้องพูดอะไรให้ออกได้สองทางอยู่เสมอ ถ้าออกทางเดียวจะไม่มีทางไป ซึ่งตรงข้ามกับสโลแกนของพรรคที่ตั้งไว้ แต่ท่านทำตรงข้ามมาตลอด และการแถลงข่าวเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนก็ปากสั่น ลิ้นคับ น้ำตาคลอ ถ้าชาติไทยไม่เข้าร่วม บ้านเมืองก็จะไปไม่ได้ วันนี้ท่านวัยใกล้ 80 ปีแล้วยังต้องการอะไรอีก นายกฯก็เคยเป็นมาแล้ว คนที่ตั้งฉายาให้เป็นหลงจู๊เขามองเห็นว่าแตกต่างกับคำว่า เถ้าแก่อย่างไร เพราะคุณบัติของหลงจู๊คือเอาประโยชน์ต่อหน้าเฉพาะตน ไม่มีวิสัยทัศน์ คับแคบ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว
เคยอ่านประวัติท่านบอกว่าเคยเป็นช่างตัดเสื้อ เมียขายขนม เป็นนายกฯ รัฐมนตรีก็เป็นมาแล้ว วันนี้ท่านยังต้องการอะไรในชีวิตอีก วัยอย่างท่านถือว่า เป็นผู้อาวุโสที่จะต้องยกย่องบูชา ะฉะนั้นให้ระวังที่ไปร่วมกับพรรคพลังประชาชน ท่านจะจบชีวิตทางการเมือง
นายชูวิทย์ยังระบุว่าในวันแถลงข่าวร่วมรัฐบาลทั้ง 6 พรรคที่โรงแรมสุโขทัย เวลา 14.00 น.จะเดินทางไปป่วน โดยอาจนำอาหารที่ทำจากปลาไหลในงานด้วย
หนูนาเตรียมฟ้องชูวิทย์
ขณะที่ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวเตือนนายชูวิทย์ ว่า ให้พึงสังวรณ์ว่ามีกฎหมายหมิ่นประมาทอยู่ ดังนั้นจะพูดจาอะไรก็ให้ระวังไว้ให้ดี สำหรับคนนี้ในการแสดงความคิดเห็นไม่เคยเข้าหูตน แต่ความเห็นที่มีคุณค่า ก็พร้อมที่จะยอมรับ ซึ่งขณะนี้กำลังให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาอยู่ อาจจะมีการดำเนินการฟ้องรเอาผิดในข้อหาหมิ่นประมาทได้
รับอึดอัดชท.ต้องเข้าร่วมรัฐบาลกับพปช.
น.ส.กัญจนา กล่าวว่า สำหรับการวิพากษ์วิจารณ์พรรคชาติไทยในการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนนั้น ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็รู้สึกอึดอัดใจพอสมควร แต่ด้วยเหตุผลรอบด้าน และด้วยภาวะแวดล้อม เราต้องคำนึงถึง ซึ่งคุณพ่อ (นายบรรหาร ศิลปอาชา) ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านกระบวนการทางความคิดมามาก ท่านคงคิดพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ด้วยเหตุผลรอบด้านเราไม่มีทางเลือก ถึงจะไม่ได้อยากร่วมรัฐบาลและได้มีการพูดกับพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด แต่ด้วยคะแนนเสียงที่ออกมาอย่างนี้ ถึงอย่างไรพรรคประชาธิปัตย์ก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่จะทำให้ประเทศเดินต่อไปไม่ได้ ถ้าเราไม่เข้าร่วมรัฐบาล พรรคพลังประชาชนก็จัดตั้งรัฐบาลด้วยเสียงปริ่มๆ และคนที่เป็นรัฐบาลก็จะเกิดความชะงักงันทางการเมืองทำให้บางทีก็เลือกทางเดินอย่างที่ใจนึกไม่ได้ โดยเฉพาะที่ไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่งคือ การแบ่งแยกทางความคิดอย่างชัดเจน ระหว่างคนเมืองกับคนในชนบท เป็นเรื่องที่ไม่ดีเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความรู้สึกลำบากใจในการที่จะเลือกนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีหรือๆไม่ น.ส.กัญจนา กล่าวว่า เมื่อกติกาเป็นอย่างนั้น เราก็ต้องเคารพ เมื่อเราอยู่ภายในระบอบประชาธิปไตย ถึงแม้รัฐธรรมนูญจะเปิดอิสระให้เลือกนายกฯ แต่เมื่ออยู่ภายใต้พรรคการเมือง เราก็ต้องเคารพมติพรรค ความรู้สึกส่วนตัวต้องเก็บเอาไว้
ไม่รับตำแหน่งรมต.แน่นอน
การที่คุณพ่อว่าพร้อมเข้าร่วมรัฐบาล แต่เรื่องการโหวตนายกฯ ให้อยู่ที่มติของ ที่ประชุม ก็ถือว่าเป็นการพูดไปตามขั้นตอน แต่สุดท้ายก็ต้องเป็นไปตามกติกา
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการพูดคุยถึงความอึดอัดใจกับคุณพ่อหรือไม่ น.ส.กัญจนา กล่าวว่า ก็สะท้อนกันและกันอยู่ตลอด ตนเองก็ไม่ชอบที่จะถูกเรียกว่าพรรคปลาไหล แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่ทำใจ จะเรียกก็เรียกไป ไม่ขอเถียง
ดิฉันรับรองว่าจะไม่มีชื่อ กัญจนา เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้แน่นอน แต่ไม่เกี่ยวกับพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำ แต่เกี่ยวกับวิสัยของดิฉันแล้วไม่ชอบตำแหน่ง ที่รับตำแหน้งแต่ละครั้งด้วยเหตุบางประการ ซึ่งดิฉันได้แจ้งให้คุณพ่อทราบแล้ว
พผ.อ้างจำเป็นต้องร่วมรัฐบาล
นายจิรายุ วสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นทราบว่า พรรคได้รับการจัดสรร เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการ 2 กระทรวง รัฐมนตรีช่วย 2 กระทรวง และรองนายกฯ 1 ตำแหน่ง แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นกระทรวงใดบ้าง และใครจะอยู่ในตำแหน่งใด โดยพรรคได้มอบหมายให้นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรค เป็นผู้ตัดสินใจและเจรจากับพรรคพลังประชาชนเพียงผู้เดียว ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องตกลงกันแล้วนำกลับมาหารือภายในพรรค ทั้งนี้เห็นว่า พรรคมีเหตุผลชอบธรรมที่จะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตามการเข้ามาดูแลปัญหาภาคใต้อาจไม่จำเป็นต้องเข้าไปเป็นรัฐมนตรีในกระทรวงก็ได้ เพราะตำแหน่งหน้าที่อื่นก็สามารถดูแลแก้ไขปัญหาภาคใต้ได้เช่นกัน
ส่วนที่มีข่าวว่าตนจะได้เป็น รมช.คลังนั้น ยืนยันว่าพรรคยังไม่ได้หารือกัน เพราะยังไม่ชัดเจนว่าจะได้กระทรวงใด แต่หากเสนอตำแหน่ง รมช.คลังให้ตนก็พร้อมเพราะมีความรู้ความสามารถอยู่แล้ว และทำงานมาโดยตรงอย่างต่อเนื่อง
รายงานข่าวแจ้งว่าพรรคเพื่อแผ่นดินเสนอขอตำแหน่ง รองนายกรัฐมนรี , รมว.พลังงาน รมช.คลัง รมช.มหาดไทย ส่วนอีกตำแหน่งเป็น รมว.กระทรวงเกรด บี หรือ รมช.กระทรวงเกรดเอ โดยเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงพลังงาน จะมอบให้นายสุวิทย์ ไปดูแล เพราะจะให้ไปพลักดันนโยบายของพรรคที่ได้ประกาศในการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะกองทุนหมู่บ้าน ส่วนเก้าอี้ รมช. คลังจะมอบหมายให้ นายจิรายุ วสุรัตน์ เข้ามาดูแล รมช. มหาดไทย อาจจะมอบหมายให้ นพ.แวมาหฮาดี แวดาโอะ ส.ส.นราธิวาส เพราะเป็นคนในพื้นที่ และรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด
กลุ่มสุชาติ-ไพโรจน์สายตรงพปช.ขอเก้าอี้
อย่างไรก็ทั้งนี้แหล่งข่าวในกลุ่มบ้านริมน้ำของ นายสุชาติ ตันเจริญ และกลุ่มของว่าที่ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี ที่มีสัดส่วนส.ส.มากที่สุดในพรรคถึง 10 คน ยอมรับว่าได้ต่อสายตรงไปพรรคพลังประชาชน เพื่อเจราจา เก้าอี้ รมช.เกษตรฯ โดยได้รับการตอบตกลงมาแล้ว อย่างไรก็ตามหากการเลือกตั้งซ่อมทั้งสองกลุ่มได้รับส.ส.เพิ่มขึ้นอาจจะขยับเก้าอี้เป็นถึง รมว.เกษตรฯ หรืออาจจะเป็นเก้าอี้ รมว.ในกระทรวงอื่น พร้อมทั้งเก้าอี้รองประธานสภาฯ ด้วย ทั้งนี้คงจะต้องรอความชัดเจนหลังวันที่ 20 แต่จุดหนึ่งที่ 2 กลุ่มมีความเป็นห่วง คือ การเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดนครราชสีมาจำนวน 2 ที่นั่งอาจจะไม่ได้รับเลือกเข้ามา เพราะผลการเลือกตั้งในจังหวัดบุรีรัมย์ที่ออกมาแม้ว่าจะมีการเจราจาของร้องกันระหว่างทั้งสองพรรคแล้ว แต่พรรคพลังประชาชนกับไปเทคะแนนไปให้กับมัชณิชมาประชาธิปไตย