อย.จวกเครื่องดื่มชูกำลังระเบิดสงครามโปรโมชัน หลังปี 50 คาราบาวแดง กระทิงแดง เอ็ม-150 แรงเยอร์ แห่ทำโปรโมชันสกัดผู้ดื่มหันดื่มเครื่องดื่มทดแทน หวังกระตุ้นตลาด 1.4 หมื่นล้านบาทโต ชี้ปีนี้ชูกำลังโตเกิน 5% รับอานิสงส์เกษตรกรกำลังซื้อพุ่ง โกยรายได้ปลูกพืชผลิตพลังงาน “คาราวบางแดง” อัดงบ 300 ล้านบาท รักษาการเติบโต 10% แชร์ 20-25%
นายกมลดิษฐ์ สมุทรโคจร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง เปิดเผยว่า แม้ว่าปีนี้กำลังการซื้อของผู้บริโภคจะลดลง แต่ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า 14,000 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเกิน 5% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีปัจจัยบวกด้านภาคการผลิตทางเกษตรกรรมมีกำลังการซื้อดีขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ปลูกพืชนำไปผลิตเป็นพลังงาน ทำให้คาดว่ากลุ่มเป้าหมายเกษตรกรจะเป็นฐานลูกค้าดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับกลุ่มก่อสร้างซึ่งถือว่าเป็นฐานลูกค้าหลักของเครื่องดื่มชูกำลัง ปีนี้คาดว่าปริมาณการดื่มคงไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก
สำหรับการแข่งขันตลาดเครื่องดื่มชูกำลังปีนี้มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการทำมิวสิกมาร์เกตติ้งในแต่ละพื้นที่ เพื่อช่วงชิงกำลังซื้อ ส่วนการทำโปรโมชันในปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการทุกค่าย ได้แก่ เอ็ม-150 ทำโปรโมชันแจกรถกระบะและของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย กระทิงแดงทำโปรโมชันแจกรถจักรยานยนต์ฟิโน่จำนวน 200 คัน ส่วนแรงเยอร์ทำโปรโมชันใต้ฝา ขณะที่คาราบาวแดงก็มีการทำโปรโมชันคล้ายคลึงกัน
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.ได้ส่งจดหมายเตือนถึงบรรดาผู้ประกอบการเครื่องดื่มชูกำลังเกี่ยวกับการจัดโปรโมชันของเครื่องดื่มชูกำลังทุกค่ายแล้ว
นายกมลดิษฐ์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของผู้ประกอบการเครื่องดื่มชูกำลังในการทำโปรโมชัน เนื่องจากเครื่องดื่มชูกำลังไม่ได้มีนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาสร้างสีสัน หรือกระตุ้นตลาดให้มีอัตราการเติบโตเช่นเดียวกับกลุ่มสินค้าอื่นๆ ดังนั้น วัตถุประสงค์การทำโปรโมชัน จึงเพื่อต้องการสร้างความเคลื่อนไหวและสีสัน รวมทั้งการกระตุ้นตลาดให้มีอัตราการเติบโตมากกว่า เนื่องจากการแข่งขันเครื่องดื่มมีความรุนแรงทั้งคู่แข่งทางตรง คือ เครื่องดื่มชูกำลัง และคู่แข่งทางอ้อมหรือสินค้าที่ดื่มทดแทนกันได้ อย่าง กาแฟกระป๋อง เครื่องดื่มเกลือแร่
“กลยุทธ์การทำโปรโมชันปีนี้ยังคาดคะเนไม่ได้ว่า ผู้ประกอบการแต่ละรายจะดำเนินการต่อหรือไม่อย่างใด แต่ทิศทางการแข่งขันในปีนี้หลักๆ คงหันมาสร้างแบรนด์มากกว่า เนื่องจากในปีที่ผ่านมาทุกรายหันมาดำเนินบีโลว์เดอะไลน์กันทั้งหมด ส่วนการทำอะโบฟเดอะไลน์หรือการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านโทรทัศน์ เพื่อตอกย้ำการรับรู้ กลับไม่ค่อยมีรายใดดำเนินการมากนัก ดังนั้น ปี 2551 จึงเป็นปีแห่งการสร้างความสมดุลมากกว่า”
สำหรับปีนี้บริษัทวางงบการตลาด 300 ล้านบาท แบ่งเป็น อะโบฟเดอะไลน์ 40% และบีโลว์เดอะไลน์ 60% โดยยังเน้นการทำมิวสิกมาร์เกตติ้งในคอนเซ็ปต์ส่งเสริมสังคมมากกว่าทำมิวสิกมาร์เก็ตติ้งเพื่อส่งเสริมการขายเหมือนคู่แข่ง ขณะที่การเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาคงต้องดูกระแสจากคู่แข่งก่อน เนื่องจากขณะนี้มีเพียงคาราบาวแดงเพียงรายเดียวที่มีการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งโฆษณาชุดปัจจุบันยังสอดคล้องกับสถานการณ์การเมืองไทยเป็นอย่างดี
นายกมลดิษฐ์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทยังเน้นการส่งออกเพิ่มขึ้น และมีความพร้อมตลอดเวลาในการผลิตเครื่องดื่มตัวใหม่ แต่ต้องขึ้นกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศด้วยว่ามีอัตราการเติบโตมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเครื่องดื่มที่บริษัทสนใจจะผลิตลงสู่ตลาดเป็นกลุ่มฟังก์ชันนัลดริงก์ เนื่องจากกระแสสุขภาพที่มาแรง ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น สำหรับผลประกอบการปีที่ผ่านมาคาราบาวแดง มีอัตราการเติบโต 10% ส่วนแบ่งตลาด 20-25% สำหรับปีนี้ตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 10%
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุด ทางคาราบาวแดงได้รุกตลาดน้ำดื่มบริสุทธ์ ด้วยการวางตลาดผลิตภัณฑ์น้ำดื่มแบรนด์ คาราบาวแดง ซึ่งถือเป็นการขยายไลน์ผลิตอีกครั้ง โดยมั่นใจว่าจะมีความเป็นไปได้ เพราะอยู่ในไลน์เครื่องดื่ม โดยอาศัยเครือข่ายการจัดจำหน่าย การขนส่งและแบรนด์ที่แข็งแกร่งอยู่แล้วเป็นฐานในการรุกตลาด
แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการเครื่องดื่มชูกำลังรายหนึ่ง กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการก็มีการติดต่อพูดคุยกันบ้าง สำหรับกรณีที่ อย.ได้ส่งจดหมายเตือนเรื่องการทำโปรโมชันนี้ โดยแต่ละรายมีความเห็นสอดคล้องกันว่า ช่วงนี้พวกเราควรจะชะลอ หรือเพลาๆ การทำโปรโมชันกันบ้าง เพราะว่า อย.กำลังเข้มงวดมากขึ้นในช่วงนี้
นายกมลดิษฐ์ สมุทรโคจร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง เปิดเผยว่า แม้ว่าปีนี้กำลังการซื้อของผู้บริโภคจะลดลง แต่ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า 14,000 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเกิน 5% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีปัจจัยบวกด้านภาคการผลิตทางเกษตรกรรมมีกำลังการซื้อดีขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ปลูกพืชนำไปผลิตเป็นพลังงาน ทำให้คาดว่ากลุ่มเป้าหมายเกษตรกรจะเป็นฐานลูกค้าดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับกลุ่มก่อสร้างซึ่งถือว่าเป็นฐานลูกค้าหลักของเครื่องดื่มชูกำลัง ปีนี้คาดว่าปริมาณการดื่มคงไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก
สำหรับการแข่งขันตลาดเครื่องดื่มชูกำลังปีนี้มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการทำมิวสิกมาร์เกตติ้งในแต่ละพื้นที่ เพื่อช่วงชิงกำลังซื้อ ส่วนการทำโปรโมชันในปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการทุกค่าย ได้แก่ เอ็ม-150 ทำโปรโมชันแจกรถกระบะและของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย กระทิงแดงทำโปรโมชันแจกรถจักรยานยนต์ฟิโน่จำนวน 200 คัน ส่วนแรงเยอร์ทำโปรโมชันใต้ฝา ขณะที่คาราบาวแดงก็มีการทำโปรโมชันคล้ายคลึงกัน
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.ได้ส่งจดหมายเตือนถึงบรรดาผู้ประกอบการเครื่องดื่มชูกำลังเกี่ยวกับการจัดโปรโมชันของเครื่องดื่มชูกำลังทุกค่ายแล้ว
นายกมลดิษฐ์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของผู้ประกอบการเครื่องดื่มชูกำลังในการทำโปรโมชัน เนื่องจากเครื่องดื่มชูกำลังไม่ได้มีนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาสร้างสีสัน หรือกระตุ้นตลาดให้มีอัตราการเติบโตเช่นเดียวกับกลุ่มสินค้าอื่นๆ ดังนั้น วัตถุประสงค์การทำโปรโมชัน จึงเพื่อต้องการสร้างความเคลื่อนไหวและสีสัน รวมทั้งการกระตุ้นตลาดให้มีอัตราการเติบโตมากกว่า เนื่องจากการแข่งขันเครื่องดื่มมีความรุนแรงทั้งคู่แข่งทางตรง คือ เครื่องดื่มชูกำลัง และคู่แข่งทางอ้อมหรือสินค้าที่ดื่มทดแทนกันได้ อย่าง กาแฟกระป๋อง เครื่องดื่มเกลือแร่
“กลยุทธ์การทำโปรโมชันปีนี้ยังคาดคะเนไม่ได้ว่า ผู้ประกอบการแต่ละรายจะดำเนินการต่อหรือไม่อย่างใด แต่ทิศทางการแข่งขันในปีนี้หลักๆ คงหันมาสร้างแบรนด์มากกว่า เนื่องจากในปีที่ผ่านมาทุกรายหันมาดำเนินบีโลว์เดอะไลน์กันทั้งหมด ส่วนการทำอะโบฟเดอะไลน์หรือการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านโทรทัศน์ เพื่อตอกย้ำการรับรู้ กลับไม่ค่อยมีรายใดดำเนินการมากนัก ดังนั้น ปี 2551 จึงเป็นปีแห่งการสร้างความสมดุลมากกว่า”
สำหรับปีนี้บริษัทวางงบการตลาด 300 ล้านบาท แบ่งเป็น อะโบฟเดอะไลน์ 40% และบีโลว์เดอะไลน์ 60% โดยยังเน้นการทำมิวสิกมาร์เกตติ้งในคอนเซ็ปต์ส่งเสริมสังคมมากกว่าทำมิวสิกมาร์เก็ตติ้งเพื่อส่งเสริมการขายเหมือนคู่แข่ง ขณะที่การเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาคงต้องดูกระแสจากคู่แข่งก่อน เนื่องจากขณะนี้มีเพียงคาราบาวแดงเพียงรายเดียวที่มีการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งโฆษณาชุดปัจจุบันยังสอดคล้องกับสถานการณ์การเมืองไทยเป็นอย่างดี
นายกมลดิษฐ์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทยังเน้นการส่งออกเพิ่มขึ้น และมีความพร้อมตลอดเวลาในการผลิตเครื่องดื่มตัวใหม่ แต่ต้องขึ้นกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศด้วยว่ามีอัตราการเติบโตมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเครื่องดื่มที่บริษัทสนใจจะผลิตลงสู่ตลาดเป็นกลุ่มฟังก์ชันนัลดริงก์ เนื่องจากกระแสสุขภาพที่มาแรง ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น สำหรับผลประกอบการปีที่ผ่านมาคาราบาวแดง มีอัตราการเติบโต 10% ส่วนแบ่งตลาด 20-25% สำหรับปีนี้ตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 10%
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุด ทางคาราบาวแดงได้รุกตลาดน้ำดื่มบริสุทธ์ ด้วยการวางตลาดผลิตภัณฑ์น้ำดื่มแบรนด์ คาราบาวแดง ซึ่งถือเป็นการขยายไลน์ผลิตอีกครั้ง โดยมั่นใจว่าจะมีความเป็นไปได้ เพราะอยู่ในไลน์เครื่องดื่ม โดยอาศัยเครือข่ายการจัดจำหน่าย การขนส่งและแบรนด์ที่แข็งแกร่งอยู่แล้วเป็นฐานในการรุกตลาด
แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการเครื่องดื่มชูกำลังรายหนึ่ง กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการก็มีการติดต่อพูดคุยกันบ้าง สำหรับกรณีที่ อย.ได้ส่งจดหมายเตือนเรื่องการทำโปรโมชันนี้ โดยแต่ละรายมีความเห็นสอดคล้องกันว่า ช่วงนี้พวกเราควรจะชะลอ หรือเพลาๆ การทำโปรโมชันกันบ้าง เพราะว่า อย.กำลังเข้มงวดมากขึ้นในช่วงนี้