xs
xsm
sm
md
lg

สมเด็จพระเทพฯ รับเป็นองค์ธุระ จัดหากระดาษทองย่นแต่งพระเมรุ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ รับเป็นองค์ธุระในการจัดหากระดาษทองย่นติดผนังพระเมรุมาศ และให้ประดับสัตว์หิมพานต์ 3 คู่เชิงพระเมรุ ด้านแม่ชีศันสนีย์ปลาบปลื้มใจที่คนไทยยกย่องสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ให้เป็นครูในการบำเพ็ญประโยชน์ ขณะที่หุ่นละครเล็กโจหลุยส์เตรียมจัดแสดงในเดือนกุมภาพันธ์นี้ พร้อมนำรายได้ทั้งหมดเข้ามูลนิธิในพระอุปถัมภ์

วานนี้ (11 ม.ค.) เวลา 07.08 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงประกอบพิธีถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และวัดจักรวรรดิราชาวาส จำนวน 8 รูป ในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระราชทานพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

จากนั้นเวลา 10.35 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จฯ ทรงบำเพ็ญพระกุศลถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรมที่สวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยพระพิธีธรรมจากวัดราชสิทธาราม และวัดสระเกศ

ช่วงค่ำ เวลา 19.05 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมายัง พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสดับพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยมีพระสงฆ์จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และวัดจักรวรรดิราชาวาส เป็นผู้สวดพระพิธีธรรม

ทั้งนี้ หลังจากที่ สำนักพระราชวังได้เปิดโอกาสให้คณะบุคคลเข้าร่วมฟังพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ วานนี้ (11 ม.ค.) ได้มีคณะบุคคลขอเข้าร่วม 6 คณะ คือ โรงเรียนวรนารีเฉลิม จ.สงขลา, วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กทม., ธนาคารไทยพาณิชย์, ประธานบริษัท อะควาเรียม ไทยเฟรนด์ชิพ จำกัด และสำนักงานตุลาการ

**“พระเทพฯ” ทรงรับเป็นองค์ธุระ
จัดหากระดาษทองย่นตกแต่งพระเมรุ


น.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น ศิลปินแห่งชาติ อดีตอธิบดีกรมศิลปากร หัวหน้าทีมออกแบบพระเมรุ ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กล่าวถึงความคืบหน้าการสร้างพระเมรุ พระโกศไม้จันทน์ และบูรณะพระมหาพิชัยราชรถ ตามที่รัฐบาลได้มอบหมายให้กรมศิลปากรเป็นผู้รับผิดชอบว่า ขณะนี้นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร ได้ระดมคณะทำงาน และผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดของกรมศิลปากร รวมทั้งข้าราชการเกษียณที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ ประมาณ 100 คน โดยจะเริ่มดำเนินการในการเขียนแบบอย่างละเอียดในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ได้ประสานงานไปยังกรุงเทพมหานคร เพื่อกั้นรั้วล้อมรอบสนามหลวงทางทิศใต้ ซึ่งจะใช้เป็นพื้นที่ก่อสร้างพระเมรุ ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลา 1 เดือนในการเขียนแบบ

ในส่วนของแบบพระเมรุนั้น จะแตกต่างจากในสมัยของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในส่วนของโครงสร้างจะใช้เหล็กทั้งหมด โดยจะไม่ใช้วิธีการเจาะเสาเข็ม แต่จะใช้วิธีโบราณราชประเพณี คือการใช้แระรองก้นเสาไม่ให้ทรุด ซึ่งเป็นการใช้ในแบบเดียวกับสมเด็จย่า โดยใช้เป็นแระคอนกรีต เพื่อรองรับโครงสร้างพระเมรุมาศทั้งหมด ไม่ใช้แระไม้ เหมือนในสมัยพระนางเจ้ารำไพพรรณี

สำหรับกระดาษทองย่น ที่ต้องใช้ติดผนังของพระเมรุนั้น ในประเทศไทยไม่มีการผลิตแล้ว ขณะนี้ จึงได้กราบบังคมทูลฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีว่า ทางกรมศิลปากรไม่มีกระดาษเพียงพอที่จะใช้ตกแต่งพระเมรุ และได้ทูลเกล้าฯ ถวายตัวอย่างกระดาษทองย่นให้ทอดพระเนตรแล้ว สมเด็จพระเทพฯ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นองค์ธุระในการจัดหากระดาษทองย่นในการตกแต่งพระเมรุ โดยทรงได้ประสานไปยังสถานทูตไทยประจำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน เพื่อจัดหากระดาษทองย่นมาใช้ในการนี้

**ประดับสัตว์หิมพานต์ 3 คู่เชิงพระเมรุ

คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม กล่าวภายหลังเฝ้ารับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในงานเทิดพระเกียรติพระบิดาแห่งการอนุรักษ์มรดกไทย “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับการอนุรักษ์มรดกไทย” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงทอดพระเนตรสัตว์หิมพานต์ที่นำมาปั้นโชว์จัดแสดงในงาน และทรงมีพระกระแสรับสั่งว่า ควรจะมีสัตว์หิมพานต์ 3 คู่ ประดับอยู่ที่บันไดชั้นล่างเชิงพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ซึ่งตนได้มอบหมายให้สำนักช่างสิบหมู่นำไปจัดทำตามพระราชดำริแล้ว

น.อ. อาวุธ เงินชูกลิ่น กล่าวเสริมว่า ในเรื่องของสัตว์หิมพานต์ตามจินตนาการ ตามธรรมเนียมของพระเมรุ ที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 จะมีสัตว์หิมพานต์ เช่น หัวเป็นสิงห์ หางเป็นมังกร หรือเอารูปยักษ์มาปนกับสิงห์ วานร ครุฑ นาค บางตัวนำ 3 ชนิดมารวมอยู่ในตัวเดียวก็มี ถือเป็นสัตว์หิมพานต์ นำมาประดับที่เชิงบันไดพระเมรุที่เป็นเสมือนเขาพระสุเมรุ จะส่งเสด็จสู่เทวาลัยสถานบรรพต ทั้งนี้ จะได้ให้ทางสำนักช่างสิบหมู่ปั้นขึ้นมา 3 คู่มาประดับไว้ตรงที่บันไดใหญ่ 3 ทางชั้นล่างของพระเมรุ ส่วนบันไดขึ้นไป จะประดับรูปปั้นเทวดา

ส่วนจัดสร้างพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯว่า ตามธรรมเนียมราชประเพณีไทยโบราณมา ต้องมีทำพิธีบวงสรวงขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทาง ในครั้งนี้เช่นกัน จะทำพิธีลงเสาเอกพระเมรุ ช่างกรมศิลปากรที่เกี่ยวข้องจะได้ทำพิธีบวงสรวงบอกกล่าวและเพื่อเป็นมงคลแก่ช่างด้วย คาดว่าจะใช้ตามปฎิทินหลวงกำหนดฤกษ์วันธงชัย หรือวันอธิบดีเป็นฤกษ์มงคลปีนี้ หรือประมาณเดือน ก.พ.นี้

ด้านนายธนชัย สุวรรณวัฒนะ ผอ.สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ช่างสิบหมู่ ที่มีอยู่เกือบ 200 คน เตรียมความพร้อมไว้ เมื่อแบบแปลนพระเมรุเสร็จเรียบร้อยอย่างเป็นทางการ สำหรับงานช่างปูนปั้นสัตว์หิมพานต์และเทวดาคงจะใช้งานช่างเพชรบุรี ที่มีประสบการณ์ครั้งพระเมรุมาศ ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มาร่วมงานสร้างพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ

**เหล่าพสกนิกรร่วมถวายสักการะพระศพ

วานนี้ (11 ม.ค.) เวลา 08.15 น. หลังจากที่ สำนักพระราชวัง เปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ มีประชาชนทั่วทุกสารทิศ รวมถึงผู้มีชื่อเสียงในสังคม เดินทางมาร่วมสักการะ อาทิ พญ. นลินี ไพบูลย์, นายธนินท์ เจียรวนนท์, พล.ต.ต. สุวิระ ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการกองบัญชาการศึกษา ได้นำคณะผู้แทนจากสถาบันพัฒนาข้าราชการตำรวจ และผู้แทนข้าราชการตำรวจ ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร ผู้กำกับการรุ่นที่ 60 จำนวน 40 นาย เข้ากราบสักการะพระศพ และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ พล.ต.ต. สุวิระ กล่าวว่า ทางสถาบันจะนำผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร ผกก. รุ่นที่ 60 จำนวน 161 นายร่วมนุ่งขาวห่มขาว ถืออุโบสถศีล ปฏิบัติธรรมเป็นเวลา 4 วัน 3 คืน ณ วัดเขาวัง อ. เมือง จ.ราชบุรี

แม่ชี ศันสนีย์ เสถียรสุต กล่าวหลังถวายสักการะพระศพว่า พระองค์จากไปเพียงแค่พระวรกาย แต่คุณความดีของพระองค์ยังจารึกอยู่ในจิตใจของคนไทย ส่วนตนเองรู้สึกดีใจที่ขณะนี้ประชาชนทุกคนมีพระองค์เป็น "ครู" ในการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อผู้อื่น

ด้าน ศ.แคทรีน มูลเลอร์ จากมหาวิทยาลัยเบนเลอร์ มลรัฐเท็กซัส เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา เพื่อถวายสักการะและไว้ความอาลัยถวายแด่ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาททูลเกล้าฯ ถวายเงินแด่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย เนื่องในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา พร้อมทูลเกล้าฯ ถวายเงินแด่ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังมี คุณตาบัว สุวาท อายุ 81 ปี กับคุณยายเสมอ อายุ 71 ปี มาจาก อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 51 และได้เดินทางมายังศาลาสหทัยสมาคม แต่มีประชาชนมารออยู่เป็นจำนวนมาก จึงอยู่เพียงส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ จากนั้นจึงกลับมาใหม่ในวันที่ 11 ม.ค. ตั้งแต่เวลา 11.00 น. และได้เข้าไปกราบพระศพในเวลา 13.00 น. โดยคุณตาบัว กล่าวว่า เสียใจที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ ปกติตนเองมีโอกาสเห็นพระองค์ท่านปฏิบัติพระกรณียกิจ ผ่านทางโทรทัศน์เท่านั้น ได้ทราบข่าวว่าพระองค์ท่านสิ้นพระชนม์ก็ใจหาย ที่ต้องสูญเสียเจ้านายที่ทำงานเพื่อประชาชนชาวไทย สำหรับรูปพระโกศที่ได้รับแจกในวันนี้ จะนำกลับไปใส่กรอบรูปบูชาที่บ้านที่จ.อุทัยธานี

คุณยายพริ้ง เซ็งเจริญ อายุ 93 ปี ชาว จ. นนทบุรี เป็นอีกผู้หนึ่งที่เดินทางมาร่วมถวายสักการะพระศพตั้งแต่เวลา 08.30 น. คุณยายเล่าว่า เคยมีโอกาสถวายสักการะพระศพสมเด็จย่ามาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้ก็ตั้งใจที่จะมากราบพระศพของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เช่นกัน เพราะอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตก็ได้

**หุ่นละครเล็กโจ หลุยส์ เตรียมจัดแสดง ก.พ.นี้

นาย พิสูตร ยังเขียวสด ประธานคณะนาฎยศาลาหุ่นละครเล็ก ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กล่าวหลังจากถวายสักการะพระศพ ว่า ด้วยสำนึกในพระกรุณาธิคุณของพระองค์ที่สนพระทัยทางด้านศิลปะมาตลอด พระองค์เคยมีรับสั่งกับพวกเราทุกคนว่า "ขอให้ทุกคนร่วมทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม อย่าหยุดพัฒนาตนเอง แล้วอย่าคิดว่าตนเองเป็นที่หนึ่ง จงให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมเอาไว้"

ทั้งนี้ ในเดือนก.พ.นี้ ทางนาฎยศาลาหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ ได้ร่วมกับวงดุริยางค์ในพระอุปถัมภ์ จัดการแสดงหุ่นละครเล็กตอน กำเนิดพระคเณศ ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยเปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรี 2 รอบ ภายในวันงานจะนำของที่ระลึก อาทิ พระพิฆเณศให้เช่าบูชา โดยรายได้ทั้งหมดจะนำเข้ามูลนิธิในพระอุปถัมภ์ต่อไป

**มูลนิธิกลุ่มแสงทียนสักการะพระศพ

มูลนิธิกลุ่มแสงเทียน วัดบางไส้ไก่ นำโดย พระมหาสมัย จินฺตโฆสโก กรรมการเลขานุการมูลนิธิกลุ่มแสงเทียน เป็นผู้นำคณะนักเรียนและพี่เลี้ยงในมูลนิธิจำนวน 100 คน มาร่วมสักการะพระศพ พร้อมกันนี้พระมหาสมัยยังได้กล่าวถึงความรู้สึกว่า "อาตมานำคณะนักเรียนมาถวายสักการะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะสำนึกในพระกรุณาธิคุณที่พระองค์เคยประทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 200,000 บาท ให้กับมูลนิธิฯ เมื่อปี 2532 ด้วยมีพระเมตตาและทรงช่วยเหลือเด็กกำพร้า เด็กยากจนและเด็กด้อยโอกาสในสังคมให้ได้รับการศึกษา นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงอนุเคราะห์มูลนิธิอย่างต่อเนื่อง และในวันอาทิตย์นี้ทางมูลนิธิจะนำเด็กอีกจำนวน 120 คนมาถวายสักการะพระศพอีกครั้ง      

**กลุ่มลาวโซ่งจากเพชรบุรีร่วมถวายสักการะ

ช่วงเช้าของวานนี้ (11 ม.ค.) ได้มีกลุ่มลาวโซ่ง จำนวน 30 คน จากจ"เพชรบุรี เดินทางมาสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดย สุมลฑา ตันตรัตนพงศ์ ตัวแทนกลุ่มลาวโซ่ง กล่าวว่า ตนเอง และชุมชนเดินทางมาในครั้งนี้เพราะสำนึกในพระกรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ด้วยความที่เป็นพยาบาลอาสาสมัครหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ จึงเคยมีโอกาสเข้าเฝ้าถึง 2 ครั้ง และแต่ละครั้ง รู้สึกประทับใจมากในพระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ที่ทรงเป็นกันเองต่อทุกคน และทุกครั้งก็จะทรงตรัสถามพวกเราว่า “เหนื่อยไหม” คำพูดนี้ทำให้เราทุกคนหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง และที่สำคัญของคือ พระองค์ท่านทรงใส่พระทัยในสุขภาพอนามัยของประชาชนมาก ทำให้เราซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ การนำแพทย์และพยาบาลอาสาฯ มาช่วยเหลือประชาชนในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งพระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์เหล่านี้ ตนได้ยึดเป็นแบบอย่างในการทำงานมาตลอด และจะสานต่อปณิธานของพระองค์ท่านต่อไป

**เด็กๆ มูลนิธิเด็กอ่อนฯ ร่วมร้องเพลงถวาย

นางศีลดา รังสิกรรพูม ผจก.มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ นำเด็กๆ ในมูลนิธิ 200 คน มาร่วมกราบสักการะพระศพ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์มูลนิธิมากว่า 24 ปี ที่ผ่านมา พระองค์ได้ประทานเงินกองทุนของสมเด็จย่า และทรัพย์ส่วนพระองค์ (ทุน กว.) จำนวนปีละ 5 แสนบาท เพื่อนำไปใช้เป็นค่าอาหารและนมของเด็กๆ โดยพระองค์จะทรงมีรับสั่งว่า เราต้องฝึกเด็กให้เป็นคนดี พ่อแม่ต้องเลี้ยงดูลูกให้ดี ทั้งสติปัญญา จิตใจ คุณธรรมและจริยธรรม พร้อมกันนี้ อาจารย์และเด็กๆ ยังได้ร่วมร้องเพลงประจำมูลนิธิฯ ณ บริเวณทางออกของพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ซึ่งตั้งใจแต่งขึ้นเพื่อร้องถวายพระองค์ แต่ยังไม่ทันมีโอกาสได้ร้องถวาย วันนี้จึงพาเด็กๆ มาร้องบทเพลงดังกล่าวมอบถวายแด่พระองค์

**ทรงงานอย่างหนัก แม้ทรงพระประชวร

ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ผู้ถวายงานด้านการสงคมสงเคราะห์ กล่าวว่า ตนมีโอกาสได้ถวายงานให้กับมูลนิธิต่างๆ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์อยู่หลายมูลนิธิ ทุกครั้งที่ถวายงานจะทรงตรวจทานให้ทุกครั้ง หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นจะทรงรับสั่งอย่างตรงไปตรงมา ที่สำคัญ พระองค์ทรงโปรดความเรียบง่ายเป็นที่สุด และแม้ว่าจะทรงพระประชวร แต่ก็ทรงงานอย่างหนัก ในทุกๆ มูลนิธิและทุกๆ กองทุนที่ทรงอุปถัมภ์ไว้ โดยมีรับสั่งให้คนใกล้ชิด ติดตามรายงานอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของศิริราชมูลนิธิที่พระองค์ทรงเป็นองค์ประธาน ดูแลด้านการเงินบริจาคของประชาชน ก็ทรงรับสั่งให้นำมาใช้ตามความจำเป็นในเรื่องของการดูแลคนไข้

สรุปยอดผู้ที่เข้ากราบสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ในเวลา 16.00 น. มีจำนวน 22,690 คน พวงมาลา 69 พวง
กำลังโหลดความคิดเห็น