ผู้จัดการรายวัน - นายลือชา ศุกรเสพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจรายย่อย ธนาคารทหาร ไทย จำกัด (มหาชน)หรือ TMB เปิดเผยว่า ในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายจะเพิ่มยอดบัตรเครดิตในปีนี้อีก 70,000 บัตร จากปัจจุบันที่มีฐานบัตรอยู่ประมาณ 200,000 บัตร ส่งผลให้สิ้นปีนี้มียอดบัตรทั้งสิ้น 270,000 บัตร ซึ่งการเพิ่มขึ้นในระดับดังกล่าวถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนบัตรในระบบ หรือคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 1%เท่านั้น เนื่องจากแนวทางของธนาคารจะไม่เน้นปริมาณบัตร แต่จะเน้นที่ประโยชน์ในการใช้จ่ายได้ในชีวิตประจำวันมากกว่า
สำหรับในปีนี้ธนาคารจะทยอยออกแคมเปญใหม่ๆ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยล่าสุดที่ได้เริ่มทำเมื่อไตรมาส 4 ปีที่แล้ว คือการให้ลูกค้าบัตรเครดิตนำคะแนน หรือ POINT ที่สะสมได้ มาแลกซื้อสินค้าในแคตตาล็อกของ 7-11ได้ทันทีในสาขาใกล้บ้าน ซึ่งยังไม่มีผู้ประกอบการบัตรเครดิตรายอื่นที่ให้ความสะดวกได้มากขนาดนี้ ในขณะที่คะแนนสำหรับการรูดบัตรเครดิต ในการเติมน้ำมัน ธนาคารให้ถึง 3 POINT ขณะที่ธนาคารอื่นให้ประมาณ 1-2 POINT
"สิ้นปีที่แล้วยอดเอ็นพีแอลจากธุรกิจบัตรเครดิตไม่เกิน 2% แม้ว่า แม้ลูกค้าจะต้องผ่อนชำระเพิ่มเป็น 20% ของวงเงินที่ใช้จ่ายก็ไม่กระทบกับลูกค้ามากนัก และในปีนี้ ธนาคารก็ตั้งเป้าหมายจะคุมสัดส่วนเอ็นพีแอลไม่ให้เกิน 2% เช่นเดียวกัน ส่วนในปีนี้แนวโน้มบัตรเครดิตยังคงสามารถเติบโตต่อไปได้ เพราะปีนี้ภาพการเมืองเริ่มชัดเจนมากขึ้น มีรัฐบาลที่ได้มาจากการเลือกตั้ง จากปีที่แล้วเป็นรัฐบาลชั่วคราว ประกอบกับรายได้ของประชาชนที่เพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่ทำบัตรเครดิตได้ ก็จะทำให้อัตราการเติบ โตยังคงมีอยู่"นายลือชากล่าว
สำหรับในปีนี้ธนาคารจะทยอยออกแคมเปญใหม่ๆ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยล่าสุดที่ได้เริ่มทำเมื่อไตรมาส 4 ปีที่แล้ว คือการให้ลูกค้าบัตรเครดิตนำคะแนน หรือ POINT ที่สะสมได้ มาแลกซื้อสินค้าในแคตตาล็อกของ 7-11ได้ทันทีในสาขาใกล้บ้าน ซึ่งยังไม่มีผู้ประกอบการบัตรเครดิตรายอื่นที่ให้ความสะดวกได้มากขนาดนี้ ในขณะที่คะแนนสำหรับการรูดบัตรเครดิต ในการเติมน้ำมัน ธนาคารให้ถึง 3 POINT ขณะที่ธนาคารอื่นให้ประมาณ 1-2 POINT
"สิ้นปีที่แล้วยอดเอ็นพีแอลจากธุรกิจบัตรเครดิตไม่เกิน 2% แม้ว่า แม้ลูกค้าจะต้องผ่อนชำระเพิ่มเป็น 20% ของวงเงินที่ใช้จ่ายก็ไม่กระทบกับลูกค้ามากนัก และในปีนี้ ธนาคารก็ตั้งเป้าหมายจะคุมสัดส่วนเอ็นพีแอลไม่ให้เกิน 2% เช่นเดียวกัน ส่วนในปีนี้แนวโน้มบัตรเครดิตยังคงสามารถเติบโตต่อไปได้ เพราะปีนี้ภาพการเมืองเริ่มชัดเจนมากขึ้น มีรัฐบาลที่ได้มาจากการเลือกตั้ง จากปีที่แล้วเป็นรัฐบาลชั่วคราว ประกอบกับรายได้ของประชาชนที่เพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่ทำบัตรเครดิตได้ ก็จะทำให้อัตราการเติบ โตยังคงมีอยู่"นายลือชากล่าว