xs
xsm
sm
md
lg

ไทยได้ดุลการค้าประเทศคู่เจรจาเอฟทีเอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน-เอฟทีเอช่วยเพิ่มยอดการค้าไทย เผย 11 เดือนแรกปี 2550 การส่งออกไทยกับคู่เจรจาเอฟทีเอเพิ่มขึ้นทุกประเทศ และเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าทั้งหมด ยกเว้นจีน “ชุติมา”แนะผู้ส่งออกใช้เอฟทีเอเป็นแต้มต่อในการบุกเจาะตลาด

นางสาวชุติมา บุญยประภัศร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลสรุปการค้าระหว่างประเทศของไทยกับประเทศที่ได้ทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ในช่วง 11 เดือนของปี 2550 ที่ผ่านมา ว่า ผลจากเอฟทีเอทำให้การค้าของไทยกับประเทศคู่เจรจามีอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น สินค้าหลายๆ รายการมีการส่งออกได้มากขึ้น จากการที่อัตราภาษีนำเข้าลดลง ที่สำคัญ การค้ากับหลายประเทศ ไทยยังเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า และมีแนวโน้มจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องต่อไป

โดยในส่วนของเอฟทีเอไทย-จีน การส่งออกมีการขยายตัวมาก มีมูลค่าการส่งออกรวม 13,398.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 26.4% การนำเข้าก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน มีมูลค่า 14,858.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.3% โดยไทยเป็นฝ่ายขาดดุลการค้า 1,460.6 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่การขาดดุลลดลงจากระยะเดียวกันของปีก่อนที่ขาดดุล 1,749.0 ล้านเหรียญสหรัฐ

เอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย ไทยส่งออกมูลค่า 5,266.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 33.3% การนำเข้ามีมูลค่า 3,456.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 10.1% โดยไทยเกินดุลการค้า 1,810.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เกิดดุลเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนที่เกินดุล 812.2 ล้านเหรียญสหรัฐ

เอฟทีเอไทย-อินเดีย ไทยส่งออกมูลค่า 2,455.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 50% การนำเข้ามีมูลค่า 1,908.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 30.6% โดยไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้า 547.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ระยะเดียวกันของปีก่อนเกินดุล 175.3 ล้านเหรียญสหรัฐ

เอฟทีเอไทย-นิวซีแลนด์ ไทยส่งออกมูลค่า 568.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22.7% การนำเข้ามีมูลค่า345.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 28.3% โดยไทยเกินดุลการค้า 223.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ระยะเดียวกันของปีก่อนเกินดุล 194.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

เอฟทีเอไทย-เปรู ไทยส่งออกมูลค่า 98.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 83.6% การนำเข้ามีมูลค่า 85.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 25.8% โดยไทยเกินดุลการค้า 12.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนขาดดุล 14.6 ล้านเหรียญสหรัฐ

“การทำเอฟทีเอ ทำให้ไทยส่งออกได้มากขึ้น เพราะอัตราภาษีนำเข้าลดลง ทำให้สินค้าไทยแข่งได้ดีเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งอื่นๆ ที่ไม่ได้ทำเอฟทีเอ ขณะที่การนำเข้าก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน แต่สินค้านำเข้าส่วนใหญ่ เป็นการนำเข้าวัตถุดิบ และเครื่องจักร ซึ่งนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเพื่อการส่งออก จะมีการนำเข้าสินค้าสำเร็จรูปบ้าง แต่ก็ไม่มาก โดยเอฟทีเอส่วนใหญ่ ยกเว้นจีน ไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้าทั้งหมด”นางสาวชุติมากล่าว

นางสาวชุติมากล่าวว่า ในปีนี้ เอฟทีเอยังจะเป็นแต้มต่อให้กับผู้ส่งออกของไทยที่จะสามารถใช้ประโยชน์ในการผลักดันการส่งออกให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งใช้เอฟทีเอให้เป็นประโยชน์ในการนำเข้าสินค้าราคาถูก ซึ่งในการทำการค้า ผู้ส่งออกไทยควรจะมีการศึกษาให้ดีว่าประเทศที่ตนจะส่งออกไปนั้น มีการทำเอฟทีเอหรือไม่ หากมีก็ควรจะศึกษาและใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ เพราะจะทำให้ต้นทุนสินค้าของไทยถูกลง และแข่งขันได้ดีขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น