รมช.พาณิชย์ พร้อมทบทวนความตกลงเอฟทีเอของไทยกับประเทศต่างๆ โดยพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์มากที่สุด ขณะเดียวกันจะจัดตั้งหน่วยงานกลาง ให้คำปรึกษาการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ รวมทั้งดึงทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมให้ข้อมูล
วันนี้(9 เม.ย.) นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงนโยบายการเจรจาการค้าระหว่างประเทศและทิศทางการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ในอนาคตว่า จะให้มีการทบทวนความตกลงเอฟทีเอกับประเทศต่างๆ เพื่อพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอให้เกิดกับประเทศไทยมากที่สุด โดยจะหารือกับกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดจากความตกลงเอฟทีเอ และผลักดันให้ภาคเอกชนออกไปเจาะตลาดสินค้าที่ไทยมีศักยภาพ
นอกจากนี้ รัฐบาลจะเพิ่มการประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอให้มากขึ้น โดยเน้นกระจายให้ลงลึกถึงประชาชนระดับรากหญ้า เพราะขณะนี้เกษตรกรส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจและมองเห็นแต่สินค้าต่างชาติส่งเข้ามาขายในประเทศไทยจนทำให้เกษตรกรในประเทศเดือดร้อน
ล่าสุด รัฐบาลเตรียมจัดตั้งหน่วยงานรองรับการดำเนินงานตามความตกลงเอฟทีเอเพื่อทำหน้าที่ให้คำแนะนำวิธีการใช้ประโยชน์ ติดตามผล/แก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอเพื่อเป็นหน่วยงานกลาง หรือเป็น one stop service for FTA ให้กับผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้ส่งออกและเกษตรกร ในการขอคำปรึกษาเพื่อใช้ประโยชน์จากความตกลง
ขณะเดียวกันภาครัฐจะเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการเจรจาการค้า เนื่องจากการเปิดตลาดการค้ามีผลทั้งด้านบวกและด้านลบต่อทุกภาคส่วน โดยจะเน้นเรื่องการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการให้ข้อมูล ข้อคิดเห็นต่าง ๆ เน้นการทำประชาพิจารณ์ให้ทั่วถึงทุกระดับ เช่น รัฐสภา กลุ่มผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้นำกลุ่มเกษตรกร/เกษตรกร กลุ่มองค์กรอิสระ นักวิชาการ และสถาบันการศึกษา
วันนี้(9 เม.ย.) นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงนโยบายการเจรจาการค้าระหว่างประเทศและทิศทางการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ในอนาคตว่า จะให้มีการทบทวนความตกลงเอฟทีเอกับประเทศต่างๆ เพื่อพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอให้เกิดกับประเทศไทยมากที่สุด โดยจะหารือกับกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดจากความตกลงเอฟทีเอ และผลักดันให้ภาคเอกชนออกไปเจาะตลาดสินค้าที่ไทยมีศักยภาพ
นอกจากนี้ รัฐบาลจะเพิ่มการประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอให้มากขึ้น โดยเน้นกระจายให้ลงลึกถึงประชาชนระดับรากหญ้า เพราะขณะนี้เกษตรกรส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจและมองเห็นแต่สินค้าต่างชาติส่งเข้ามาขายในประเทศไทยจนทำให้เกษตรกรในประเทศเดือดร้อน
ล่าสุด รัฐบาลเตรียมจัดตั้งหน่วยงานรองรับการดำเนินงานตามความตกลงเอฟทีเอเพื่อทำหน้าที่ให้คำแนะนำวิธีการใช้ประโยชน์ ติดตามผล/แก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอเพื่อเป็นหน่วยงานกลาง หรือเป็น one stop service for FTA ให้กับผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้ส่งออกและเกษตรกร ในการขอคำปรึกษาเพื่อใช้ประโยชน์จากความตกลง
ขณะเดียวกันภาครัฐจะเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการเจรจาการค้า เนื่องจากการเปิดตลาดการค้ามีผลทั้งด้านบวกและด้านลบต่อทุกภาคส่วน โดยจะเน้นเรื่องการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการให้ข้อมูล ข้อคิดเห็นต่าง ๆ เน้นการทำประชาพิจารณ์ให้ทั่วถึงทุกระดับ เช่น รัฐสภา กลุ่มผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้นำกลุ่มเกษตรกร/เกษตรกร กลุ่มองค์กรอิสระ นักวิชาการ และสถาบันการศึกษา
