พะเยา -กลุ่มต้านห้างข้ามชาติเตรียมขยับทันทีที่ได้รัฐบาลใหม่ จ้องยื่นหนังสือลุ้น พ.ร.บ.ค้าปลีก หวังรักษาอาชีพให้คนไทยในท้องถิ่นทั่วประเทศ
นายชัยพร วงศ์สถาพรชัย ประธานชมรมพ่อค้าอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา กล่าวว่า ขณะนี้ผ่านพ้นการเลือกตั้ง ส.ส.ไปแล้ว แต่ยังอยู่ในห้วงเวลาระหว่างการฟอร์มรัฐบาลใหม่ โดยรอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กลาง ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัคร ที่ได้รับคะแนนสูงจากหลายจังหวัด จากนั้นจะสามารถร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้
ปรากฏว่าขณะนี้หลายพรรคการเมืองกำลังสร้างเงื่อนไขต่อรอง เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มตนเอง โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริงว่า หากรัฐบาลใหม่เกิดขึ้นล่าช้า ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่ ความเชื่อมั่นในสายตาของต่างประเทศ และที่สำคัญปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชน ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในแต่ละท้องถิ่นกำลังประสบอยู่จากการรุกของทุนต่างชาติยังคงค้างไม่ได้รับการแก้ไข
ดังนั้น ตนในฐานะผู้ประกอบการท้องถิ่นเชียงคำ ขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน เร่งหันหน้ามาจับมือกัน เพื่อสร้างความสมานฉันท์ในบ้านเมือง ช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบปัญหาหลาย ๆ ด้านให้ได้รับการคลี่คลายโดยเร็ว
หลังจากจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว ชมรมฯจะร่วมกันทำหนังสือเสนอถึงรัฐบาลใหม่ ขอให้เร่งพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ค้าปลีก เพื่อให้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ให้สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการ ในแต่ละท้องถิ่นไม่ถูกเอาเปรียบจากการรุกขยายสาขาของห้างสรรพสินค้า ที่มาจากทุนต่างชาติดังเช่นในขณะนี้ พร้อมกันนี้ พ.ร.บ.ค้าปลีก ฯ ยังจะช่วยทำให้อาชีพของคนไทยในท้องถิ่นต่าง ๆ คงอยู่ไม่ถูกกลืนในวงจรของเศรษฐกิจภายใต้ระบบทุนนิยมด้วย
นายชัยพร วงศ์สถาพรชัย ประธานชมรมพ่อค้าอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา กล่าวว่า ขณะนี้ผ่านพ้นการเลือกตั้ง ส.ส.ไปแล้ว แต่ยังอยู่ในห้วงเวลาระหว่างการฟอร์มรัฐบาลใหม่ โดยรอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กลาง ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัคร ที่ได้รับคะแนนสูงจากหลายจังหวัด จากนั้นจะสามารถร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้
ปรากฏว่าขณะนี้หลายพรรคการเมืองกำลังสร้างเงื่อนไขต่อรอง เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มตนเอง โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริงว่า หากรัฐบาลใหม่เกิดขึ้นล่าช้า ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่ ความเชื่อมั่นในสายตาของต่างประเทศ และที่สำคัญปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชน ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในแต่ละท้องถิ่นกำลังประสบอยู่จากการรุกของทุนต่างชาติยังคงค้างไม่ได้รับการแก้ไข
ดังนั้น ตนในฐานะผู้ประกอบการท้องถิ่นเชียงคำ ขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน เร่งหันหน้ามาจับมือกัน เพื่อสร้างความสมานฉันท์ในบ้านเมือง ช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบปัญหาหลาย ๆ ด้านให้ได้รับการคลี่คลายโดยเร็ว
หลังจากจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว ชมรมฯจะร่วมกันทำหนังสือเสนอถึงรัฐบาลใหม่ ขอให้เร่งพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ค้าปลีก เพื่อให้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ให้สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการ ในแต่ละท้องถิ่นไม่ถูกเอาเปรียบจากการรุกขยายสาขาของห้างสรรพสินค้า ที่มาจากทุนต่างชาติดังเช่นในขณะนี้ พร้อมกันนี้ พ.ร.บ.ค้าปลีก ฯ ยังจะช่วยทำให้อาชีพของคนไทยในท้องถิ่นต่าง ๆ คงอยู่ไม่ถูกกลืนในวงจรของเศรษฐกิจภายใต้ระบบทุนนิยมด้วย