ผู้จัดการรายวัน-ส่งออกข้าวไทยในปี 2550 ทะลุ 9.5 ล้านตัน มูลค่า 1.23 แสนล้านบาท มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนปีนี้ ตั้งเป้าส่งออกได้แค่ 8.7 ล้านตัน หลังปริมาณข้าวในประเทศมีไม่มาก นครหลวงค้าข้าว คว้าโควตาข้าวขาวส่งออกอียูสูงสุดกว่า 3 พันตัน ขณะที่ข้าวหัก เจียเม้งได้มากสุดถึง 1.6 หมื่นตัน ส่วนเพรซิเดนท์ชวด ทั้งที่เคยได้โควตาสูงสุด
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2550 ที่ผ่านมาไทยส่งออกข้าวได้ถึง 9.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.1 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 28% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่า 3,550 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 123,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% ถือว่ามูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะปริมาณความต้องการซื้อจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น ขณะที่อินเดีย และเวียดนาม หยุดส่งออกชั่วคราว ประกอบกับรัฐระบายข้าวในสต็อกเกือบ 3 ล้านตัน ทำให้ปริมาณข้าวในประเทศเพียงพอต่อความต้องการส่งออก
ส่วนในปี 2551 ได้ตั้งเป้าหมายส่งออกข้าวไว้ที่ 8.7-9 ล้านตัน แต่มีความเป็นไปได้ที่จะส่งออกได้ประมาณ 8.7 ล้านตัน เพราะปริมาณข้าวในประเทศมีไม่มาก โดยสต็อกข้าวรัฐเหลือเพียง 1.8 ล้านตันเท่านั้น ต่างจากปี 2550 ที่รัฐระบายข้าวในสต็อกถึง 3 ล้านตัน และมีข้าวเข้าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปี 2550/51 ประมาณ 50,000 ตันข้าวเปลือกเท่านั้น ทั้งที่จะสิ้นสุดโครงการในเดือนก.พ.นี้แล้ว ประกอบกับ เวียดนาม จะเริ่มส่งออกได้ประมาณเดือน ก.พ. ราคาคงจะต่ำกว่าไทย
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ราคาข้าวปีนี้จะสูงขึ้น โดย ข้าวขาวราคาส่งออกจะทะลุตันละ 400 เหรียญสหรัฐ จากปัจจุบันที่ตันละ 380 เหรียญ ส่วนข้าวหอมมะลิน่าจะใกล้เคียงตันละ 700 เหรียญ จากปัจจุบันประมาณตันละ 663 เหรียญ
รายงานจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2550 กรมการค้าต่างประเทศ ได้ออกประกาศเรื่อง ผลการจัดสรรปริมาณข้าวเพื่อการออกหนังสือรับรองการส่งออกไปสหภาพยุโรป (อียู) สำหรับปี 2551 โดยในส่วนของข้าวขาว 21,455 ตันนั้น ได้จัดสรรให้ผู้ส่งออก 110 ราย โดยบริษัท นครหลวงค้าข้าว ได้รับการจัดสรรมากที่สุดถึง 3,568 ตัน ลดลงจากปีก่อนที่ได้รับการจัดสรร 3,871 ตัน รองลงมาคือ บริษัท วุฒิชัยโปรดิวส์ 2,847 ตัน บริษัท ยูนิเวอร์แซลไรซ์ 2,094 ตัน บริษัท ไรส์แลนด์ฟูดส์ 1,494 ตัน บริษัท เอลล์บา บางกอก 1,343 ตัน บริษัท เอเชียโกลเด้นไรซ์ 1,142 ตัน ขณะที่บริษัทที่ได้รับการจัดสรรน้อยที่สุดเพียง 1 ตันเท่านั้นมีถึง 22 บริษัท
ส่วนข้าวหัก 52,000 ตัน บริษัทที่ได้รับการจัดสรรมากสุดคือ บริษัท เจียเม้ง 16,216 ตัน รองลงมาคือ บริษัท ชัยประสิทธิ์พืชผล 14,981 ตัน บริษัท ยูนิเวอร์แซลไรซ์ 11,596 ตัน บริษัท แคปปิตัลซีเรียลส์ 4,700 ตัน บริษัท วิริยะโรจน์ 3,028 ตัน บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด 832 ตัน ส่วนบริษัท เทพพาณิชย์ ได้รับจัดสรรน้อยที่สุด 81 ตัน อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ในปีนี้ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ไม่ได้รับการจัดสรรเลย ทั้งที่เคยมีประวัติการส่งออกข้าวไปอียู และเคยได้รับการจัดสรรสูงสุดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นเพราะ บริษัทติดคดียักยอกข้าวกับกรมการค้าต่างประเทศ
สำหรับหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการจัดสรรข้าวในปีนี้ ในส่วนของข้าวขาว จะจัดสรร 80% ให้กับผู้ส่งออกที่มีประวัติการส่งออกข้าวขาวไปอียูย้อนหลัง 3 ปี ส่วนอีก 20% จะจัดสรรให้ผู้ส่งออกที่ลงทะเบียนเป็นผู้ส่งออกข้าว
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2550 ที่ผ่านมาไทยส่งออกข้าวได้ถึง 9.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.1 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 28% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่า 3,550 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 123,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% ถือว่ามูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะปริมาณความต้องการซื้อจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น ขณะที่อินเดีย และเวียดนาม หยุดส่งออกชั่วคราว ประกอบกับรัฐระบายข้าวในสต็อกเกือบ 3 ล้านตัน ทำให้ปริมาณข้าวในประเทศเพียงพอต่อความต้องการส่งออก
ส่วนในปี 2551 ได้ตั้งเป้าหมายส่งออกข้าวไว้ที่ 8.7-9 ล้านตัน แต่มีความเป็นไปได้ที่จะส่งออกได้ประมาณ 8.7 ล้านตัน เพราะปริมาณข้าวในประเทศมีไม่มาก โดยสต็อกข้าวรัฐเหลือเพียง 1.8 ล้านตันเท่านั้น ต่างจากปี 2550 ที่รัฐระบายข้าวในสต็อกถึง 3 ล้านตัน และมีข้าวเข้าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปี 2550/51 ประมาณ 50,000 ตันข้าวเปลือกเท่านั้น ทั้งที่จะสิ้นสุดโครงการในเดือนก.พ.นี้แล้ว ประกอบกับ เวียดนาม จะเริ่มส่งออกได้ประมาณเดือน ก.พ. ราคาคงจะต่ำกว่าไทย
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ราคาข้าวปีนี้จะสูงขึ้น โดย ข้าวขาวราคาส่งออกจะทะลุตันละ 400 เหรียญสหรัฐ จากปัจจุบันที่ตันละ 380 เหรียญ ส่วนข้าวหอมมะลิน่าจะใกล้เคียงตันละ 700 เหรียญ จากปัจจุบันประมาณตันละ 663 เหรียญ
รายงานจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2550 กรมการค้าต่างประเทศ ได้ออกประกาศเรื่อง ผลการจัดสรรปริมาณข้าวเพื่อการออกหนังสือรับรองการส่งออกไปสหภาพยุโรป (อียู) สำหรับปี 2551 โดยในส่วนของข้าวขาว 21,455 ตันนั้น ได้จัดสรรให้ผู้ส่งออก 110 ราย โดยบริษัท นครหลวงค้าข้าว ได้รับการจัดสรรมากที่สุดถึง 3,568 ตัน ลดลงจากปีก่อนที่ได้รับการจัดสรร 3,871 ตัน รองลงมาคือ บริษัท วุฒิชัยโปรดิวส์ 2,847 ตัน บริษัท ยูนิเวอร์แซลไรซ์ 2,094 ตัน บริษัท ไรส์แลนด์ฟูดส์ 1,494 ตัน บริษัท เอลล์บา บางกอก 1,343 ตัน บริษัท เอเชียโกลเด้นไรซ์ 1,142 ตัน ขณะที่บริษัทที่ได้รับการจัดสรรน้อยที่สุดเพียง 1 ตันเท่านั้นมีถึง 22 บริษัท
ส่วนข้าวหัก 52,000 ตัน บริษัทที่ได้รับการจัดสรรมากสุดคือ บริษัท เจียเม้ง 16,216 ตัน รองลงมาคือ บริษัท ชัยประสิทธิ์พืชผล 14,981 ตัน บริษัท ยูนิเวอร์แซลไรซ์ 11,596 ตัน บริษัท แคปปิตัลซีเรียลส์ 4,700 ตัน บริษัท วิริยะโรจน์ 3,028 ตัน บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด 832 ตัน ส่วนบริษัท เทพพาณิชย์ ได้รับจัดสรรน้อยที่สุด 81 ตัน อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ในปีนี้ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ไม่ได้รับการจัดสรรเลย ทั้งที่เคยมีประวัติการส่งออกข้าวไปอียู และเคยได้รับการจัดสรรสูงสุดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นเพราะ บริษัทติดคดียักยอกข้าวกับกรมการค้าต่างประเทศ
สำหรับหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการจัดสรรข้าวในปีนี้ ในส่วนของข้าวขาว จะจัดสรร 80% ให้กับผู้ส่งออกที่มีประวัติการส่งออกข้าวขาวไปอียูย้อนหลัง 3 ปี ส่วนอีก 20% จะจัดสรรให้ผู้ส่งออกที่ลงทะเบียนเป็นผู้ส่งออกข้าว
