เอเอฟพี - ประธานาธิบดีเปอร์เวซ มูร์ชาร์ราฟ แห่งปากีสถาน ยอมรับเป็นครั้งแรกว่า เบนาซีร์ บุตโต ผู้นำฝ่ายค้าน อาจถูกมือปืนยิงจนเสียชีวิต ทางพรรคของบุตโตจึงออกมาย้ำว่า การยอมรับเช่นนี้ยิ่งแสดงถึงความจำเป็นที่จะต้องให้องค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น)เข้ามาช่วยสืบสวน
มูชาร์ราฟให้สัมภาษณ์กับรายการ "60 Minutes" ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสของสหรัฐฯ โดยยอมรับเป็นครั้งแรกว่า บุตโตอาจถูกยิงเสียชีวิต
การยอมรับของมูชาร์ราฟนั้นขัดแย้งกับที่กระทรวงมหาดไทยระบุว่า มือปืนยิงไม่โดนบุตโต และเธอเสียชีวิตเพราะศีรษะกระแทกกับช่องหลังคารถ
ทางรายการถามมูชาร์ราฟว่า บุตโตอาจถูกยิงใช่หรือไม่ เขาตอบว่า "ใช่ แน่นอน ใช่ ก็มีความเป็นไปได้"
กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาชนปากีสถาน(พีพีพี)ของบุตโต ยิ่งโกรธแค้นต่อการพูดกลับลำเช่นนี้
"รัฐบาลเปลี่ยนจุดยืนตลอด และนั่นเป็นสิ่งย้ำให้เห็นถึงข้อกังขาและความน่าสงสัย และยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือที่พรรคพีพีพีจะเรียกร้องให้ยูเอ็นเข้ามาสืบสวนอย่างมีอิสระ" ฟาร์ฮาตุลเลาะห์ บาบาร์ โฆษกพรรคพีพีพีกล่าวกับเอเอฟพี
มูชาร์ราฟได้เชิญทีมสกอตแลนด์ยาร์ดจากอังกฤษเข้ามาช่วยสืบสวนการสังหารบุตโต แต่ไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องของพรรคพีพีพีให้ยูเอ็นเข้ามาช่วยหาความจริง
บรรดาผู้ช่วยในพรรคที่อยู่กับบุตโตตอนเกิดเหตุ ยืนยันว่า บุตโตเสียชีวิตเพราะโดนยิงเข้าที่ศีรษะ และวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ได้เผยให้เห็นภาพมือปืนยิงกระสุนจากระยะใกล้จำนวนหลายนัดไปที่บุตโต ตอนที่เธอยืนโผล่จากหลังคารถโบกมือให้กลุ่มผู้สนับสนุน หลังจากกล่าวปราศรัยหาเสียงเสร็จ
อย่างไรก็ตาม ไม่มีภาพใดที่แสดงชัดเจนว่า บุตโตถูกยิง แม้จะมีมุมหนึ่งที่ดูเหมือนว่า ผ้าคลุมศีรษะของเธอหลุดออก และไม่กี่วินาทีหลังจากมือปืนลั่นไก มือระเบิดฆ่าตัวตายก็ปลดชนวนระเบิดบริเวณใกล้ๆกับรถของบุตโต
จาเวด ชีมา โฆษกกระทรวงมหาดไทย ออกมายอมรับว่า การลอบสังหารบุตโตนั้นมีอยู่หลายทฤษฎี
"อะไรก็ตามที่ท่านประธานาธิบดีพูดไป มันคงต้องเป็นเรื่องถูก ผมไม่สามารถให้รายละเอียดเพิ่มเติมได้" ชีมากล่าวกับเอเอฟพี
"ตอนนี้กำลังมีการสืบสวนอยู่ และเมื่อมีการสรุปผล เราจะเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนได้รับทราบ"
ทั้งนี้ มูชาร์ราฟกล่าวว่า การเสียชีวิตของบุตโตนั้นต้องโทษตัวเธอเองที่ขึ้นไปยืนบนรถเช่นนั้น
"การที่เธอยืนขึ้นอยู่นอกตัวรถ ผมคิดว่ามันเป็นความผิดของเธอคนเดียว ไม่ใช่ความผิดของคนอื่น เธอเป็นผู้รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น" มูชาร์ราฟกล่าวกับซีบีเอส
อนึ่ง หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า ทำเนียบขาวกำลังพิจารณาเห็นชอบให้กองกำลังทหารอเมริกันเข้าไปปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มตอลิบานและอัลกออิดะห์ในปากีสถาน
ด้านพลตรีวาฮีด อาร์ชาด โฆษกกองทัพปากีสถานตอบโต้ด้วยความโกรธเคืองต่อข่าวดังกล่าว
"มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลสหรัฐฯ แต่มันเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลปากีสถานต่อประเทศของตัวเอง" เขากล่าว
มูชาร์ราฟให้สัมภาษณ์กับรายการ "60 Minutes" ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสของสหรัฐฯ โดยยอมรับเป็นครั้งแรกว่า บุตโตอาจถูกยิงเสียชีวิต
การยอมรับของมูชาร์ราฟนั้นขัดแย้งกับที่กระทรวงมหาดไทยระบุว่า มือปืนยิงไม่โดนบุตโต และเธอเสียชีวิตเพราะศีรษะกระแทกกับช่องหลังคารถ
ทางรายการถามมูชาร์ราฟว่า บุตโตอาจถูกยิงใช่หรือไม่ เขาตอบว่า "ใช่ แน่นอน ใช่ ก็มีความเป็นไปได้"
กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาชนปากีสถาน(พีพีพี)ของบุตโต ยิ่งโกรธแค้นต่อการพูดกลับลำเช่นนี้
"รัฐบาลเปลี่ยนจุดยืนตลอด และนั่นเป็นสิ่งย้ำให้เห็นถึงข้อกังขาและความน่าสงสัย และยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือที่พรรคพีพีพีจะเรียกร้องให้ยูเอ็นเข้ามาสืบสวนอย่างมีอิสระ" ฟาร์ฮาตุลเลาะห์ บาบาร์ โฆษกพรรคพีพีพีกล่าวกับเอเอฟพี
มูชาร์ราฟได้เชิญทีมสกอตแลนด์ยาร์ดจากอังกฤษเข้ามาช่วยสืบสวนการสังหารบุตโต แต่ไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องของพรรคพีพีพีให้ยูเอ็นเข้ามาช่วยหาความจริง
บรรดาผู้ช่วยในพรรคที่อยู่กับบุตโตตอนเกิดเหตุ ยืนยันว่า บุตโตเสียชีวิตเพราะโดนยิงเข้าที่ศีรษะ และวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ได้เผยให้เห็นภาพมือปืนยิงกระสุนจากระยะใกล้จำนวนหลายนัดไปที่บุตโต ตอนที่เธอยืนโผล่จากหลังคารถโบกมือให้กลุ่มผู้สนับสนุน หลังจากกล่าวปราศรัยหาเสียงเสร็จ
อย่างไรก็ตาม ไม่มีภาพใดที่แสดงชัดเจนว่า บุตโตถูกยิง แม้จะมีมุมหนึ่งที่ดูเหมือนว่า ผ้าคลุมศีรษะของเธอหลุดออก และไม่กี่วินาทีหลังจากมือปืนลั่นไก มือระเบิดฆ่าตัวตายก็ปลดชนวนระเบิดบริเวณใกล้ๆกับรถของบุตโต
จาเวด ชีมา โฆษกกระทรวงมหาดไทย ออกมายอมรับว่า การลอบสังหารบุตโตนั้นมีอยู่หลายทฤษฎี
"อะไรก็ตามที่ท่านประธานาธิบดีพูดไป มันคงต้องเป็นเรื่องถูก ผมไม่สามารถให้รายละเอียดเพิ่มเติมได้" ชีมากล่าวกับเอเอฟพี
"ตอนนี้กำลังมีการสืบสวนอยู่ และเมื่อมีการสรุปผล เราจะเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนได้รับทราบ"
ทั้งนี้ มูชาร์ราฟกล่าวว่า การเสียชีวิตของบุตโตนั้นต้องโทษตัวเธอเองที่ขึ้นไปยืนบนรถเช่นนั้น
"การที่เธอยืนขึ้นอยู่นอกตัวรถ ผมคิดว่ามันเป็นความผิดของเธอคนเดียว ไม่ใช่ความผิดของคนอื่น เธอเป็นผู้รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น" มูชาร์ราฟกล่าวกับซีบีเอส
อนึ่ง หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า ทำเนียบขาวกำลังพิจารณาเห็นชอบให้กองกำลังทหารอเมริกันเข้าไปปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มตอลิบานและอัลกออิดะห์ในปากีสถาน
ด้านพลตรีวาฮีด อาร์ชาด โฆษกกองทัพปากีสถานตอบโต้ด้วยความโกรธเคืองต่อข่าวดังกล่าว
"มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลสหรัฐฯ แต่มันเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลปากีสถานต่อประเทศของตัวเอง" เขากล่าว