สวัสดีปีใหม่ท่านผู้อ่านทุกท่าน ที่เป็นแฟน นสพ.ผู้จัดการ และคอลัมน์นี้ ซึ่ง “แสงแดด” เขียนคอลัมน์นี้มาได้ประมาณเกือบ 10 ปี แทบไม่เชื่อเหมือนกันว่า จะปักหลักเขียนคอลัมน์ “พระอาทิตย์สาดส่อง” มายาวนานขนาดนี้
หนึ่งปีผ่านไปเหมือนปีกบิน “แสงแดด” ยังจำได้เลยว่าปลายปี 2549 และเริ่มปี 2550 เพิ่งผ่านมาหยกๆ ยังจำแม่นเลยว่าไปทำอะไรมาบ้าง เผลอแผล็บเดียว ปี 2551 เดินเข้ามาประชิดตัวผ่านไปแล้วหนึ่งวัน!
“ปี 2550 : ปีกุน : ปีหมู” น่าจะเป็น ปีที่สามารถเรียกได้ว่า “ปีหมูเคี้ยวง่าย” ก็ได้ หรือไม่ก็ “หมูเขี้ยวตัน” แล้วแต่จะตีความ แต่ “แสงแดด” ต้องเรียกทั้งสองนัยก็แล้วกัน
“ปีหมูเคี้ยวง่าย” เพราะทุกอย่างดูเรียบง่าย ไม่ค่อยมีอะไรตื่นเต้นมากมายนัก พี่น้องประชาชนก็มีชีวิตที่เรียบง่ายไม่โลดโผนโอนทะยาน อาจจะฝืดเคืองบ้างไม่มากก็น้อย เนื่องด้วยสภาวะเศรษฐกิจ ตลอดจนสภาวะการลงทุนต่างๆ ไม่ค่อยขยับเคลื่อนไหวเท่าไหร่
ส่วนการเมืองนั้น ก็อาจจะ “คึกคัก-เคลื่อนไหว” บ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากได้รับ “รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ฉบับที่ 18” เท่านั้น ที่มีการร่างกันมายาวนานหลายเดือน แต่มาคึกคักเอาช่วงเมื่อปลายปี สัปดาห์ที่แล้วกับ “การเลือกตั้ง” ที่ “ลุ้น!” กันตัวโก่ง แล้วก็เป็นไปตามคาด ที่ “พรรคพลังประชาชน” ได้จำนวนที่นั่งสูงถึง 230 กว่า ตามผลการสำรวจ (Poll) ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่า “ประสบความสำเร็จ” อย่างมาก ที่ได้จำนวนที่นั่งส.ส.สูงถึง 160 กว่าๆ เกือบ 170 ที่นั่ง นับเป็นประวัติการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ทีเดียว!
ว่าไปแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ ควรจะต้องดีใจที่ได้จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สูงมากมายขนาดนี้ เพราะในอดีตสูงสุดก็ประมาณ 100 กว่าๆ แต่มักจะต่ำ 100 แทบทุกครั้ง
ที่น่าประทับใจสำหรับประชาธิปัตย์คือ หนึ่ง ได้จำนวนส.ส.มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ส่งสัญญาณว่าประชาชนส่วนหนึ่ง “เทใจ” ให้กับพรรค สอง ส.ส.แบบสัดส่วนได้มากถึง 33 ที่นั่ง เกือบครึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.แบบสัดส่วนทั้งหมด 80 คน และน้อยกว่า “พรรคพลังประชาชน” เพียงคนเดียว และสาม จำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตในกรุงเทพฯ ได้จำนวนสูงถึง 27 ที่นั่ง มากกว่าพรรคพลังประชาชนที่ได้เพียงแค่ 9 เรียกว่า “ชนะแบบขาดลอย!” ส่อนัยชัดเจนว่า “ชาวกรุงเทพฯ” ไม่เอา “ไทยรักไทย” เดิม หรือ “กระแสไทยรักไทย ตกลง!” โดยเฉพาะ พรรคประชาธิปัตย์กวาดเรียบในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน ตั้งแต่เขต 1-9 จากทั้งหมด 12 เขต
พรรคประชาธิปัตย์ควรจะ “ดีใจ” และ “ขอบคุณ” พี่น้องประชาชนทั่วทั้งประเทศที่ลงคะแนนเสียงให้มากมายเพียงนี้ ทั้งส.ส.แบบแบ่งเขต และแบบสัดส่วน โดยเฉพาะชาวกรุงเทพมหานคร
อย่างไรก็ตาม “พรรคประชาธิปัตย์” ไม่สมควรอย่างยิ่ง! ที่จะ “ตีปีก-เหิมเกริม” แต่ในทางกลับกันจะต้อง “กำหนดยุทธศาสตร์” ใหม่หมด ทั้งในกรณีของ “สไตล์การทำงาน-วิธีการคิด” ที่ต้องมุ่งสู่ “ความทันสมัย” มากกว่าเดิม ที่เน้น “อนุรักษนิยม (Conservative)” เกินไป!
“ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ” ตลอดจน “ทีมเศรษฐกิจ” ต้องแม่นยำและวางตัวบุคคลมากกว่าเดิม แต่ที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือ “การเมืองการตลาด” ที่ต้อง “กำหนดกิจกรรม” ที่ “สมัยใหม่” ทั้งนี้ มิใช่ “สร้างภาพ!” แต่ต้องเป็นกิจกรรมที่ประชาชน “จับต้อง-สัมผัสได้”
และสุดท้ายที่จะขอแนะนำพรรคประชาธิปัตย์ คือ ต้อง “ยึดครอง-ชนะใจ” กับพี่น้องประชาชนที่ “เลือก-เทคะแนนให้” โดยเฉพาะชาวกรุงเทพฯ ที่อยากให้โอกาสคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคให้บริหารชาติบ้านเมือง ประกอบกับต้องการล้ม ”ระบอบทักษิณ”
ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีโอกาสบริหารประเทศชาติ จะต้องปรับทั้ง “วิธี” และ “วิถี” ของ “การคิด-การบริหาร-การจัดการ” ใหม่หมด ภาษาอังกฤษคือ “วิธี : Method” และ “วิถี : Way” ซึ่งในอนาคตอันใกล้จะขอแนะนำนอกวงกับ “พรรคประชาธิปัตย์” กับกรณีของ “Method-Way”
“แสงแดด” ยังกรุ่นอยู่กับ “ควันหลง” ของผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา และขณะนี้ ก็น่าจะดูท่าทีออกแล้วว่า รัฐบาลหน้า พรรคไหนจะเป็นแกนนำ ทั้งๆ ที่ผลประกาศอย่างเป็นทางการยังไม่ได้กำหนดชัดเจน เนื่องด้วยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังคงต้องจัดให้มีการเลือกตั้งซ่อมอีกหลายพื้นที่ เพราะ “ใบเหลือง-ใบแดง” น่าจะเยอะ!
เอาล่ะ! “แสงแดด”ขออภัยท่านผู้อ่านที่เริ่มปีใหม่ก็วิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์การบ้านการเมืองหนักไปหน่อย จึงขอ“หักมุม” มาว่ากันถึงเรื่องปีใหม่กันน่าจะเหมาะสมกับบรรยากาศมากกว่า
ปิดยาวกันไปทั้งหมด 4 วัน แล้วก่อนปิดยาวเราก็มีการเลือกตั้งและหยุดชดเชยไปอีกหนึ่งวัน น่าจะมีหลายคนที่ฉวยโอกาสหยุดยาวมาตลอดสัปดาห์กว่าๆ และไม่สำคัญเท่ากับ“เหนื่อยล้า!” กับ“การลุ้น”ผลการเลือกตั้ง
ดังนั้น “หมูเคี้ยวง่าย!” อาจจะสงบเรียบร้อยของรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่กำลังจะ “โบกมือลา!” อีกเพียง 5-6 สัปดาห์เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ก็ต้องยอมรับว่า รัฐบาลชุดนี้ได้สร้างอะไรพอประมาณ โดยเฉพาะ “การปรับฐานการเมือง” ให้เข้าที่เข้าทาง แต่ที่แน่ๆ คือ “สร้างระบบคุณธรรมจริยธรรม” ให้เกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงประเด็นสำคัญนี้
“ปีหมูเขี้ยวตัน” ก็น่าจะเป็นในกรณีของ “เศรษฐกิจโลก” ที่ “ผันผวน” อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ราคาน้ำมัน” ที่เกือบไปแตะที่ระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อหนึ่งบาร์เรล จนชาวโลกทุกคนต้องจ่ายค่าน้ำมันแพงเพื่อการคมนาคมและด้านพลังงาน
การเมืองก็หมูเขี้ยวตัน เช่นเดียวกัน ที่เกิดการชิงไหวชิงพริบของบรรดาพรรคการเมืองที่ต่างขยับเคลื่อนไหวกันทุกพรรค และแน่นอนที่สุด “พรรคไทยรักไทย” เดิม ก็ยังคงเป็น “หมูเขี้ยวตัน” ที่ไล่ฟัดสนามการเมือง ทั้ง “กระแส-กระสุน” ที่คาดการณ์ไว้แล้วว่า น่าจะเป็นเช่นนั้น
สถานการณ์บ้านเมืองใน “ปีชวด : ปีหนู : ปี 2551” นี้ต้องขอบอกดังๆ เลยว่าจะ “จุ๊กจิ๊ก!” และ “วิ่งพล่าน” เหมือนหนูไม่มีผิด ที่จะ “ก่อกวน” สร้าง “ความรำคาญ-เบื่อหน่าย-เอือมระอา” ที่สุด แต่พี่น้องประชาชน และอาจเลยเถิดไปจนถึง “วิกฤตศรัทธา” กับ “นักการเมือง” อีกครั้งหนึ่ง จนถึงขั้นเลวร้าย มุ่งสู่ “วิกฤตศรัทธาประชาธิปไตย” ด้วยซ้ำ ซึ่ง “แสงแดด” ไม่พึงปรารถนาให้เป็นเช่นนั้น
สารพัด “โหราจารย์-หมอดู” ต่างออกมา “ดูดวงบ้านดวงเมือง” กันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า “อาจเลวร้ายกว่าปีหมู 2550” ที่เพิ่งผ่านพ้นไป
ทั้งฟังและอ่านคำทำนายของบรรดาหมอดูดังๆ แล้ว “แสงแดด” ก็ได้แต่ “ถอนหายใจ!” เพราะรู้สึก “หดหู่!” กับสารพัดสารพันปัญหาที่จะเกิดขึ้น แต่ยัง “ใจชื้น” ว่า “ไม่ถึงกับเดือดเป็นไฟ!” ที่ประชาชนไม่ถึงกับ “แตกแยกตีกัน!” เหมือนเมื่อปี 2549
อย่างไรก็ตาม “แสงแดด” ขอฟันธงเลยว่า “ปัญหาจากปัจจัยภายใน” จะรุมเร้า ไม่มีความสงบจากภาคการเมืองและส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในที่สุด จนพี่น้องประชาชนจะเดือดร้อน นอกเหนือจากนั้น “ปัญหาจากปัจจัยภายนอก” จะทำให้สภาพประเทศไทยเปราะบางมากยิ่งขึ้น จนถึง “ยุคข้าวยากหมากแพง!”
ปีใหม่ทั้งที มานั่งอ่านคำทำนายทายทัก สารพัดปัญหาทั้งภัยสังคม การเมือง เศรษฐกิจ ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ขอบอกตามตรงว่า “ไม่สบายใจ” ก็แล้วกัน
ดังนั้น ใครก็ตามแต่ที่คิดไม่ดีแก่ชาติบ้านเมืองก็ขอให้มีอันเป็นไป ใคร “หวังดี!” กับชาติบ้านเมือง ก็ขอให้ “โชคดี-ประสบความสำเร็จ” ตลอดปี 2551 ก็แล้วกัน!
หนึ่งปีผ่านไปเหมือนปีกบิน “แสงแดด” ยังจำได้เลยว่าปลายปี 2549 และเริ่มปี 2550 เพิ่งผ่านมาหยกๆ ยังจำแม่นเลยว่าไปทำอะไรมาบ้าง เผลอแผล็บเดียว ปี 2551 เดินเข้ามาประชิดตัวผ่านไปแล้วหนึ่งวัน!
“ปี 2550 : ปีกุน : ปีหมู” น่าจะเป็น ปีที่สามารถเรียกได้ว่า “ปีหมูเคี้ยวง่าย” ก็ได้ หรือไม่ก็ “หมูเขี้ยวตัน” แล้วแต่จะตีความ แต่ “แสงแดด” ต้องเรียกทั้งสองนัยก็แล้วกัน
“ปีหมูเคี้ยวง่าย” เพราะทุกอย่างดูเรียบง่าย ไม่ค่อยมีอะไรตื่นเต้นมากมายนัก พี่น้องประชาชนก็มีชีวิตที่เรียบง่ายไม่โลดโผนโอนทะยาน อาจจะฝืดเคืองบ้างไม่มากก็น้อย เนื่องด้วยสภาวะเศรษฐกิจ ตลอดจนสภาวะการลงทุนต่างๆ ไม่ค่อยขยับเคลื่อนไหวเท่าไหร่
ส่วนการเมืองนั้น ก็อาจจะ “คึกคัก-เคลื่อนไหว” บ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากได้รับ “รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ฉบับที่ 18” เท่านั้น ที่มีการร่างกันมายาวนานหลายเดือน แต่มาคึกคักเอาช่วงเมื่อปลายปี สัปดาห์ที่แล้วกับ “การเลือกตั้ง” ที่ “ลุ้น!” กันตัวโก่ง แล้วก็เป็นไปตามคาด ที่ “พรรคพลังประชาชน” ได้จำนวนที่นั่งสูงถึง 230 กว่า ตามผลการสำรวจ (Poll) ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่า “ประสบความสำเร็จ” อย่างมาก ที่ได้จำนวนที่นั่งส.ส.สูงถึง 160 กว่าๆ เกือบ 170 ที่นั่ง นับเป็นประวัติการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ทีเดียว!
ว่าไปแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ ควรจะต้องดีใจที่ได้จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สูงมากมายขนาดนี้ เพราะในอดีตสูงสุดก็ประมาณ 100 กว่าๆ แต่มักจะต่ำ 100 แทบทุกครั้ง
ที่น่าประทับใจสำหรับประชาธิปัตย์คือ หนึ่ง ได้จำนวนส.ส.มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ส่งสัญญาณว่าประชาชนส่วนหนึ่ง “เทใจ” ให้กับพรรค สอง ส.ส.แบบสัดส่วนได้มากถึง 33 ที่นั่ง เกือบครึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.แบบสัดส่วนทั้งหมด 80 คน และน้อยกว่า “พรรคพลังประชาชน” เพียงคนเดียว และสาม จำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตในกรุงเทพฯ ได้จำนวนสูงถึง 27 ที่นั่ง มากกว่าพรรคพลังประชาชนที่ได้เพียงแค่ 9 เรียกว่า “ชนะแบบขาดลอย!” ส่อนัยชัดเจนว่า “ชาวกรุงเทพฯ” ไม่เอา “ไทยรักไทย” เดิม หรือ “กระแสไทยรักไทย ตกลง!” โดยเฉพาะ พรรคประชาธิปัตย์กวาดเรียบในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน ตั้งแต่เขต 1-9 จากทั้งหมด 12 เขต
พรรคประชาธิปัตย์ควรจะ “ดีใจ” และ “ขอบคุณ” พี่น้องประชาชนทั่วทั้งประเทศที่ลงคะแนนเสียงให้มากมายเพียงนี้ ทั้งส.ส.แบบแบ่งเขต และแบบสัดส่วน โดยเฉพาะชาวกรุงเทพมหานคร
อย่างไรก็ตาม “พรรคประชาธิปัตย์” ไม่สมควรอย่างยิ่ง! ที่จะ “ตีปีก-เหิมเกริม” แต่ในทางกลับกันจะต้อง “กำหนดยุทธศาสตร์” ใหม่หมด ทั้งในกรณีของ “สไตล์การทำงาน-วิธีการคิด” ที่ต้องมุ่งสู่ “ความทันสมัย” มากกว่าเดิม ที่เน้น “อนุรักษนิยม (Conservative)” เกินไป!
“ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ” ตลอดจน “ทีมเศรษฐกิจ” ต้องแม่นยำและวางตัวบุคคลมากกว่าเดิม แต่ที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือ “การเมืองการตลาด” ที่ต้อง “กำหนดกิจกรรม” ที่ “สมัยใหม่” ทั้งนี้ มิใช่ “สร้างภาพ!” แต่ต้องเป็นกิจกรรมที่ประชาชน “จับต้อง-สัมผัสได้”
และสุดท้ายที่จะขอแนะนำพรรคประชาธิปัตย์ คือ ต้อง “ยึดครอง-ชนะใจ” กับพี่น้องประชาชนที่ “เลือก-เทคะแนนให้” โดยเฉพาะชาวกรุงเทพฯ ที่อยากให้โอกาสคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคให้บริหารชาติบ้านเมือง ประกอบกับต้องการล้ม ”ระบอบทักษิณ”
ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีโอกาสบริหารประเทศชาติ จะต้องปรับทั้ง “วิธี” และ “วิถี” ของ “การคิด-การบริหาร-การจัดการ” ใหม่หมด ภาษาอังกฤษคือ “วิธี : Method” และ “วิถี : Way” ซึ่งในอนาคตอันใกล้จะขอแนะนำนอกวงกับ “พรรคประชาธิปัตย์” กับกรณีของ “Method-Way”
“แสงแดด” ยังกรุ่นอยู่กับ “ควันหลง” ของผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา และขณะนี้ ก็น่าจะดูท่าทีออกแล้วว่า รัฐบาลหน้า พรรคไหนจะเป็นแกนนำ ทั้งๆ ที่ผลประกาศอย่างเป็นทางการยังไม่ได้กำหนดชัดเจน เนื่องด้วยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังคงต้องจัดให้มีการเลือกตั้งซ่อมอีกหลายพื้นที่ เพราะ “ใบเหลือง-ใบแดง” น่าจะเยอะ!
เอาล่ะ! “แสงแดด”ขออภัยท่านผู้อ่านที่เริ่มปีใหม่ก็วิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์การบ้านการเมืองหนักไปหน่อย จึงขอ“หักมุม” มาว่ากันถึงเรื่องปีใหม่กันน่าจะเหมาะสมกับบรรยากาศมากกว่า
ปิดยาวกันไปทั้งหมด 4 วัน แล้วก่อนปิดยาวเราก็มีการเลือกตั้งและหยุดชดเชยไปอีกหนึ่งวัน น่าจะมีหลายคนที่ฉวยโอกาสหยุดยาวมาตลอดสัปดาห์กว่าๆ และไม่สำคัญเท่ากับ“เหนื่อยล้า!” กับ“การลุ้น”ผลการเลือกตั้ง
ดังนั้น “หมูเคี้ยวง่าย!” อาจจะสงบเรียบร้อยของรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่กำลังจะ “โบกมือลา!” อีกเพียง 5-6 สัปดาห์เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ก็ต้องยอมรับว่า รัฐบาลชุดนี้ได้สร้างอะไรพอประมาณ โดยเฉพาะ “การปรับฐานการเมือง” ให้เข้าที่เข้าทาง แต่ที่แน่ๆ คือ “สร้างระบบคุณธรรมจริยธรรม” ให้เกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงประเด็นสำคัญนี้
“ปีหมูเขี้ยวตัน” ก็น่าจะเป็นในกรณีของ “เศรษฐกิจโลก” ที่ “ผันผวน” อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ราคาน้ำมัน” ที่เกือบไปแตะที่ระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อหนึ่งบาร์เรล จนชาวโลกทุกคนต้องจ่ายค่าน้ำมันแพงเพื่อการคมนาคมและด้านพลังงาน
การเมืองก็หมูเขี้ยวตัน เช่นเดียวกัน ที่เกิดการชิงไหวชิงพริบของบรรดาพรรคการเมืองที่ต่างขยับเคลื่อนไหวกันทุกพรรค และแน่นอนที่สุด “พรรคไทยรักไทย” เดิม ก็ยังคงเป็น “หมูเขี้ยวตัน” ที่ไล่ฟัดสนามการเมือง ทั้ง “กระแส-กระสุน” ที่คาดการณ์ไว้แล้วว่า น่าจะเป็นเช่นนั้น
สถานการณ์บ้านเมืองใน “ปีชวด : ปีหนู : ปี 2551” นี้ต้องขอบอกดังๆ เลยว่าจะ “จุ๊กจิ๊ก!” และ “วิ่งพล่าน” เหมือนหนูไม่มีผิด ที่จะ “ก่อกวน” สร้าง “ความรำคาญ-เบื่อหน่าย-เอือมระอา” ที่สุด แต่พี่น้องประชาชน และอาจเลยเถิดไปจนถึง “วิกฤตศรัทธา” กับ “นักการเมือง” อีกครั้งหนึ่ง จนถึงขั้นเลวร้าย มุ่งสู่ “วิกฤตศรัทธาประชาธิปไตย” ด้วยซ้ำ ซึ่ง “แสงแดด” ไม่พึงปรารถนาให้เป็นเช่นนั้น
สารพัด “โหราจารย์-หมอดู” ต่างออกมา “ดูดวงบ้านดวงเมือง” กันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า “อาจเลวร้ายกว่าปีหมู 2550” ที่เพิ่งผ่านพ้นไป
ทั้งฟังและอ่านคำทำนายของบรรดาหมอดูดังๆ แล้ว “แสงแดด” ก็ได้แต่ “ถอนหายใจ!” เพราะรู้สึก “หดหู่!” กับสารพัดสารพันปัญหาที่จะเกิดขึ้น แต่ยัง “ใจชื้น” ว่า “ไม่ถึงกับเดือดเป็นไฟ!” ที่ประชาชนไม่ถึงกับ “แตกแยกตีกัน!” เหมือนเมื่อปี 2549
อย่างไรก็ตาม “แสงแดด” ขอฟันธงเลยว่า “ปัญหาจากปัจจัยภายใน” จะรุมเร้า ไม่มีความสงบจากภาคการเมืองและส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในที่สุด จนพี่น้องประชาชนจะเดือดร้อน นอกเหนือจากนั้น “ปัญหาจากปัจจัยภายนอก” จะทำให้สภาพประเทศไทยเปราะบางมากยิ่งขึ้น จนถึง “ยุคข้าวยากหมากแพง!”
ปีใหม่ทั้งที มานั่งอ่านคำทำนายทายทัก สารพัดปัญหาทั้งภัยสังคม การเมือง เศรษฐกิจ ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ขอบอกตามตรงว่า “ไม่สบายใจ” ก็แล้วกัน
ดังนั้น ใครก็ตามแต่ที่คิดไม่ดีแก่ชาติบ้านเมืองก็ขอให้มีอันเป็นไป ใคร “หวังดี!” กับชาติบ้านเมือง ก็ขอให้ “โชคดี-ประสบความสำเร็จ” ตลอดปี 2551 ก็แล้วกัน!