xs
xsm
sm
md
lg

เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ช่วยลดการใช้ 'ไทเทเนียม' ใน Apple Watch รุ่นใหม่ลง 50%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



Apple นำเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ (3D Printing) มาใช้ในการผลิตตัวเรือนไทเทเนียมสำหรับ Apple Watch Ultra 3 และ Apple Watch Series 11 โดยใช้วัสดุผงไทเทเนียมรีไซเคิลเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพียงแนวคิดที่เพ้อฝัน

แนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ เริ่มต้นจากการตั้งคำถามที่ท้าทายว่า การพิมพ์ 3 มิติซึ่งเคยใช้เพียงสร้างต้นแบบ จะสามารถนำมาใช้ผลิตตัวเรือนโลหะนับล้านชิ้นที่ตรงตามมาตรฐานการออกแบบระดับสูงของ Apple ได้หรือไม่นั้น ได้กลายเป็นจริงแล้วในปีนี้

Kate Bergeron รองประธานฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ของ Apple กล่าวว่า เมื่อเราตั้งคำถามแล้ว เราก็เริ่มต้นทดสอบทันที เราต้องรวบรวมข้อมูลมากมายมหาศาลว่า เทคโนโลยีนี้จะสามารถสร้างคุณภาพในระดับสูงตามที่เราต้องการได้

กระบวนการผลิตใหม่นี้สอดคล้องกับเป้าหมาย Apple 2030 ที่มุ่งมั่นให้ผลิตภัณฑ์และซัพพลายเชนทั้งหมดมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในทศวรรษนี้ Sarah Chandler รองประธานฝ่ายสิ่งแวดล้อมและนวัตกรรมด้านซัพพลายเชนของ Apple ชี้ว่า การพิมพ์ 3 มิติเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพเป็นอย่างมากสำหรับประสิทธิภาพของวัสดุ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการก้าวไปสู่แผน Apple 2030

ขณะเดียวกันการพิมพ์ 3 มิติเป็นการใช้ กระบวนการเพิ่มเนื้อวัสดุ (Additive Manufacturing) ซึ่งชิ้นงานจะถูกสร้างทีละชั้น จนได้รูปทรงที่ใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์สุดท้าย ต่างจากการขึ้นรูปแบบดั้งเดิมที่ต้อง ลดเนื้อวัสดุ (Subtractive Manufacturing) โดยการเฉือนโลหะทิ้งเป็นจำนวนมาก

ผลจากการเปลี่ยนมาใช้กระบวนการนี้ ทำให้ตัวเรือนไทเทเนียมของ Apple Watch รุ่นใหม่สามารถใช้วัตถุดิบเพียงแค่ครึ่งเดียวของรุ่นก่อนหน้า


"การลดลง 50 เปอร์เซ็นต์นับเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ทำให้คุณได้นาฬิกาถึงสองเรือนโดยใช้วัสดุในปริมาณเดียวกับที่เคยใช้สำหรับเรือนเดียว" Chandler อธิบาย และคาดการณ์ว่า Apple จะสามารถประหยัดไทเทเนียมดิบได้มากกว่า 400 เมตริกตันในปีนี้เพียงปีเดียว

การผลิตตัวเรือน Apple Watch ไทเทเนียมเหล่านี้ดำเนินการโดยเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งติดตั้ง กัลวานอมิเตอร์ (Galvanometer) บรรจุเลเซอร์ 6 ชุดเพื่อสร้างชิ้นงานทีละชั้นมากกว่า 900 ครั้งจนเสร็จสมบูรณ์

ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงแต่ยกระดับความยั่งยืนให้กับ Apple Watch เท่านั้น แต่ยังขยายขอบเขตไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น พอร์ต USB-C บน iPhone Air รุ่นใหม่ ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยไทเทเนียมพิมพ์ 3 มิติ ทำให้ดีไซน์ที่ทนทานแต่บางอย่างเหลือเชื่อกลายเป็นความจริงได้


กำลังโหลดความคิดเห็น