เอปสัน เผยวิสัยทัศน์ ผู้นำตลาด B2B ด้วยนวัตกรรมผสานความยั่งยืน ของ เทคโนโลยีการพิมพ์และโปรเจกเตอร์ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์รวมกว่า 22 รุ่น ครอบคลุมทั้งเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทซีรีส์ EcoTank และ WorkForce รวม 7 รุ่น และโปรเจกเตอร์สำหรับองค์กร และเลเซอร์โปรเจกเตอร์อีก 15 รุ่น ย้ำกลยุทธ์มุ่งเน้นนวัตกรรมที่ทรงประสิทธิภาพ คุ้มค่า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งนี้เป็นการยืนยันความสำเร็จของเอปสันในฐานะแบรนด์อันดับ 1 ของโลก ทั้งในกลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์แท็งค์ที่ครองแชมป์ยอดขายต่อเนื่อง 15 ปี ด้วยยอดขายสะสมทั่วโลกกว่า 100 ล้านเครื่อง และโปรเจกเตอร์ที่มียอดขายสูงสุดยาวนานตั้งแต่ปี 2544 ถึง 2567
สำหรับในประเทศไทย เอปสันยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งในกลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์แท็งค์ที่ 47% และโปรเจคเตอร์ที่ 51% สะท้อนถึงความไว้วางใจจากผู้บริโภคทุกระดับ
เพื่อรักษาความเป็นผู้นำ เอปสันได้วาง 3 กลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจ ครอบคลุมตั้งแต่ 1.ขยายตลาดเครื่องพิมพ์ Epson EcoTank ระดับ Mid-High เจาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ที่มองหาเครื่องพิมพ์ฟังก์ชันครบครันและต้นทุนต่ำ
2.ผลักดันการเปลี่ยนผ่านจากเลเซอร์สู่เทคโนโลยีอิงค์เจ็ท ชูจุดเด่นด้านการประหยัดพลังงานและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของเครื่องพิมพ์ตระกูล WorkForce เพื่อทดแทนเครื่องพิมพ์เลเซอร์แบบเดิม 3.เสริมความแข็งแกร่งตลาดโปรเจกเตอร์ เน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์ความสว่างสูง (High Brightness) สำหรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่และสภาวะแสงมาก
“ตลาดเครื่องพิมพ์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน โดยเครื่องพิมพ์อิงค์แท็งค์เติบโตจนมีสัดส่วนถึง 57% ของตลาดรวม และสูงถึง 80% ในกลุ่มอิงค์เจ็ททั้งหมด สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม SME ที่กว่า 72% ให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุน”
สำหรับ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท 7 รุ่นใหม่ ที่มาพร้อม เทคโนโลยี Heat-Free ซึ่งไม่ใช้ความร้อนในกระบวนการพิมพ์ ทำให้ประหยัดพลังงานได้ถึง 85% เมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ และลดการใช้วัสดุสิ้นเปลืองได้ 59%
ประกอบด้วย Epson EcoTank Series (3 รุ่น: L4360, L6370, L6390): เจาะตลาด Mid-High สำหรับ SME ที่ต้องการงานพิมพ์คุณภาพสูงและต้นทุนต่อแผ่นต่ำ พร้อมการรับประกันที่ยาวนานที่สุดในตลาดสูงสุดถึง 100,000 แผ่น
Epson WorkForce Pro Series (3 รุ่น: EM-C800, EM-C8100, EM-C8101): เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันสีขนาด A4 และ A3 ที่ออกแบบมาเพื่อทดแทนเครื่องพิมพ์เลเซอร์ในสำนักงาน รองรับงานพิมพ์ปริมาณมาก และมาพร้อมโซลูชันจัดการงานพิมพ์ Epson Solutions Suite เพื่อความปลอดภัยและความยืดหยุ่นในการทำงานแบบไฮบริด
Epson WorkForce Enterprise Series (1 รุ่น: AM-M5500): เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันขาว-ดำ ขนาด A3 สำหรับองค์กรที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในการพิมพ์เอกสารปริมาณมาก พร้อมฟังก์ชัน OCR แปลงเอกสารเป็นไฟล์ที่แก้ไขได้
ส่วนโปรเจกเตอร์พร้อม 15 รุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายตั้งแต่ห้องเรียน ห้องประชุม ไปจนถึงการใช้งานเฉพาะทาง มีทั้ง Smart Series (7 รุ่น) โปรเจกเตอร์ระดับเริ่มต้นถึงกลางที่ให้ความสว่างสูงสุด 4,100 ลูเมน ฉายภาพได้ใหญ่ถึง 300 นิ้ว คมชัดแม้ในห้องที่มีแสงสว่างมาก เหมาะสำหรับทดแทนจอทีวีขนาดใหญ่ที่มีราคาสูง พร้อมหลอดภาพอายุการใช้งานยาวนาน 12,000 ชั่วโมง
Laser Projector Series (8 รุ่น) โปรเจกเตอร์เลเซอร์ความสว่างสูง 6,000-8,000 ลูเมน พร้อมความละเอียดสูงสุดระดับ 4K Enhancement รองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Miracast และมีรุ่นพิเศษ EB-L690SE ที่ออกแบบมาสำหรับ Golf Simulator โดยเฉพาะ
"เอปสันไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด เรามุ่งมั่นที่จะยกระดับมาตรฐานเทคโนโลยีสำหรับองค์กรในอนาคต โดยเฉพาะโซลูชันสำหรับสำนักงานยุคใหม่ที่ต้องมีความยืดหยุ่น ประหยัดพลังงาน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม" นายยรรยง กล่าว