ร่วมผลักดันเทคโนโลยีที่คนไทยพัฒนา ‘Green IO’ บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติไทย ที่ได้รับการลงทุนจากโครงการ CSR ของผู้ผลิตชิประดับโลก Qualcomm ในการพัฒนาอุปกรณ์ที่มีความสามารถของ AI ประมวลผลในตัวเครื่อง หวังต่อยอดสร้างอีโคซิสเตมส์ AI on Device ในประเทศไทย
ชารอน อลาลอฟ (Sharon Alalouf) ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ควอลคอมม์ ซีดีเอ็มเอ เทคโนโลยี เอเชีย-แปซิฟิก จำกัด ให้ข้อมูลว่า จากโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีในไทยทั้งการมีเครือข่าย 5G ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงนโยบายในการผลักดันไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล ทำให้ควอลคอมม์เห็นถึงโอกาสสำคัญในการทำงานร่วมกับบริษัทในไทย เพื่อขยายการใช้งานให้ครอบคลุมมากขึ้นในประเทศไทย
โดย Green IO นับเป็นหนึ่งในโครงการ Wireless Reach ที่ Qualcomm ลงทุนภายใต้ความตั้งใจที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการเทคโนโลยีภายใต้แนวคิด “Tech for Good” ในการนำนวัตกรรมไปใช้งานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก ซึ่งที่ผ่านมามีการสนับสนุนไปแล้วกว่า 150 โครงการ ใน 75 ประเทศทั่วโลก
“การทำงานร่วมกับบริษัทสัญชาติไทยที่เข้าใจความต้องการ บริบทสังคม และวัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นสิ่งสำคัญที่ควอลคอมม์ให้ความสำคัญ ผ่านมาเข้าไปร่วมสนับสนุนเงินลงทุนระดับ 2 แสนเหรียญให้แก่โครงการที่จะสร้างประโยชน์ให้สังคม”
ประเดิมโปรเจกต์แรกด้วยการพัฒนาเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศ PM2.5 ที่สามารถปรับแต่งให้ใช้งานได้ตามความต้องการ พร้อมบริจาค 200 เครื่องให้กับกรุงเทพมหานคร และเชียงใหม่ เพื่อแก้ปัญหามลพิษในพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวสูง
อิทธิชัย ภูมิศิริวิไล กรรมการผู้จัดการ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท กรีนไอโอ จำกัด กล่าวว่า ทางกรีนไอโอได้รับเงินทุนสนับสนุนจากโครงการ Qualcomm Wireless Reach มาเพื่อพัฒนาเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศ PM2.5 ซึ่งออกแบบและผลิตโดยคนไทยทั้งหมด
“เครื่องตรวจวัดเหล่านี้ถูกนำไปติดตั้งในพื้นที่อ่อนไหว เช่น โรงเรียนในสังกัด กทม. กว่า 50 แห่ง, โรงพยาบาลและสถานพยาบาลของสำนักการแพทย์และสำนักอนามัย เพื่อให้บุคลากรและประชาชนสามารถเฝ้าระวังคุณภาพอากาศได้แบบเรียลไทม์”
เครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศของ Green IO ไม่เพียงแค่วัดค่า PM2.5 และ PM10 เท่านั้น แต่ยังสามารถตรวจวัดพารามิเตอร์อื่น ๆ ที่สำคัญ ทั้งคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพื่อวัดความหนาแน่นของประชากรในพื้นที่ วัดอุณหภูมิและความชื้น และสารระเหยอินทรีย์ (TVOC)ที่อาจก่อให้เกิดมะเร็ง
ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งผ่านเครือข่าย 4G โดยใช้ชิปเซตของควอลคอมม์ขึ้นสู่ระบบคลาวด์ รวมถึงแสดงผลผ่านหน้าจอของเครื่องที่เปลี่ยนสีตามค่าฝุ่น รวมถึงมีแดชบอร์ดบนเว็บไซต์สำหรับให้หน่วยงานที่ติดตั้งใช้ติดตามและดูรายงานย้อนหลังได้
เป้าหมายสร้าง Ecosystem “AI on Device” ในประเทศไทย
ความร่วมมือครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น Green IO และควอลคอมม์ที่มีเป้าหมายที่ใหญ่กว่านั้น คือการสร้างระบบนิเวศสำหรับ "AI on Device" ในประเทศไทย เพื่อให้นักพัฒนาชาวไทย รวมถึงนักศึกษาที่สนใจสามารถเข้าถึงเครื่องมือประมวลผล AI เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาต่อยอดในอนาคต
นายอิทธิชัย ระบุว่า ปัจจุบันเทคโนโลยี AI ที่ใช้กันส่วนใหญ่ในปัจจุบันต้องส่งข้อมูลไปประมวลผลบนคลาวด์ ซึ่งใช้พลังงานมหาศาล และอาจมีประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล แต่ AI on Device (Edge AI) คือการนำโมเดล AI ที่ผ่านการเทรนแล้ว มาประมวลผลบนอุปกรณ์ขนาดเล็กได้โดยตรง ทำให้ ประหยัดพลังงาน, มีความหน่วงต่ำ (Low Latency) และรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ได้ดีกว่า
“เครื่องวัดฝุ่นเป็นเพียงหนึ่งแอปพลิเคชัน ในอนาคตเราต้องการขับเคลื่อนให้นักพัฒนาชาวไทยเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ทั้งการพัฒนา AI Education Kit ที่เป็นบอร์ดสำหรับพัฒนา AI on Device เพื่อให้นักศึกษาและนักพัฒนาสามารถสร้างสรรค์โซลูชันใหม่ๆ ได้เอง ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์ การเงิน หรือคอมพิวเตอร์วิชั่น โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าทั้งหมด”
ทั้งนี้ เป้าหมายหลักของ Green IO คือการสร้าง Community ของนักพัฒนาในไทยให้แข็งแกร่ง เพราะเมื่อมีผู้เล่นในตลาดมากขึ้น จะเกิดการสร้างสรรค์โมเดลธุรกิจและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์บริบทของประเทศไทยได้ดียิ่งขึ้น และเป็นการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลจากฐานความรู้ภายในประเทศอย่างยั่งยืน