กสทช.เบรกประมูล สั่งสำนักงานรื้อเกณฑ์ใหม่ ปรับใหญ่กันผูกขาด เคลียร์ปมราคาต่ำ จับตาคลื่น 3500 MHz ร่วมวงชิงเดือด ปักหมุดวันประมูลไม่เกินเดือน พ.ค.68 ยันโปร่งใส-เน้นประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด
เมื่อวันที่ 18 มี.ค.68 ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กสทช. มีมติให้สำนักงาน กสทช. กลับไปจัดทำรายละเอียดและเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่าน 850 MHz 1500 MHz 1800 MHz 2100 MHz 2300 MHz และ 26 MHz เนื่องจากยังมีหลายประเด็นที่ละเอียดอ่อนและยังไม่ชัดเจน เช่น การแบ่งกลุ่มคลื่นความถี่ ราคาเริ่มต้นการประมูล งวดการชำระเงิน รวมถึงประเด็นผลประโยชน์สาธารณะและการคุ้มครองผู้บริโภค
"ยืนยันว่าการปรับแผนการประมูลคลื่นความถี่ใหม่ ไม่ได้เกิดขึ้นจากการที่สภาองค์กรของผู้บริโภคเข้ายื่นหนังสือขอให้ชะลอการประมูล แต่เป็นเพราะต้องการดำเนินการด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และจำเป็นต้องคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของทั้งภาครัฐและประชาชนเป็นหลัก จึงสั่งให้ สำนักงาน กสทช. นำข้อสรุปกลับมาเสนอภายใน 7 วัน หากสามารถสรุปแนวทางได้ภายในเดือน เม.ย.68 จะทำให้การประมูลสามารถเดินหน้าตามกรอบเดิมในวันที่ 17-18 พ.ค.68 หรือช้าจากนั้นไม่เกิน 2 สัปดาห์ แต่หากยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน อาจส่งผลให้การประมูลล่าช้าออกไปโดยไม่มีกำหนด" ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ กล่าว
"ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนเกี่ยวกับการนำคลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz เข้าร่วมประมูลครั้งนี้ด้วย เพราะการใช้งานการใช้คลื่น 3500 MHz ยังคงมีความละเอียดอ่อน และจำเป็นต้องเห็นแผนดิจิทัลทีวีหลังสิ้นสุดใบอนุญาตในปี 2572 เพื่อประกอบการพิจารณา"
ขณะที่ พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการกระจายเสียง ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านคลื่นความถี่และมาตรฐานทางเทคนิค แสดงความคิดเห็นในที่ประชุม กสทช. ว่า ประเด็นที่ สำนักงาน กสทช. ต้องกลับไปจัดทำรายละเอียดและเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะเพิ่มเติม ได้แก่ 1.การจัดกลุ่มประมูลคลื่นใหม่ เดิมเสนอแบ่งคลื่นความถี่ 6 ย่าน ออกเป็น 3 กลุ่ม ประมูลทีละรอบ แต่หลังจากการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะล่าสุด กลับมีข้อเสนอให้แบ่งเป็น 4 กลุ่ม และเปิดประมูลพร้อมกัน ซึ่งล่าสุด ที่ประชุม กสทช. วันนี้ มีการเสนอแนวทางประมูลแบบรอบต่อรอบ โดยเริ่มจากคลื่นความถี่ย่าน 850 MHz ไปจนถึงคลื่นความถี่ย่าน 26 GHz เพื่อความโปร่งใสและเป็นธรรม
2.การช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง หลังสภาองค์กรของผู้บริโภคแสดงความกังวลว่า ตลาดโทรคมนาคมอาจเหลือผู้ให้บริการหลักเพียง 2 ราย ที่ประชุมจึงสั่งให้กำหนดมาตรการช่วยเหลือที่ชัดเจน ทั้งด้านราคาค่าบริการและโปรโมชั่นเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เพื่อป้องกันปัญหาการแข่งขันที่ลดลงและราคาแพงขึ้น 3.เงื่อนไขการจ่ายค่าใบอนุญาตใหม่ เดิมกำหนดจ่ายค่าใบอนุญาต 50% ในปีแรก และที่เหลือแบ่งจ่ายปีที่ 3 และปีที่ 4 อีกครั้งละ 25% แต่เพื่อส่งเสริมการแข่งขันและดึงดูดผู้เล่นรายใหม่ กสทช.เสนอให้สิทธิพิเศษผ่อนชำระค่าใบอนุญาต 10 ปี ปีละ 10% สำหรับผู้ประกอบการรายใหม่
4.พิจารณานำคลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz เข้าประมูลเพิ่มเติม เนื่องจากคลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz ซึ่งปัจจุบันใช้งานสำหรับกิจการโทรทัศน์จะสิ้นสุดใบอนุญาตในปี 2572 กสทช.จึงเตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็นทั้งจากผู้ประกอบการโทรคมนาคมและผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล เพื่อตัดสินใจว่าจะนำคลื่นจำนวน 100 MHz มาจัดประมูลหรือไม่ และ 5.ปรับราคาเริ่มต้นใบอนุญาตให้เหมาะสม สำนักงาน กสทช. ต้องไปคำนวณราคาใหม่ ด้วยราคาคลื่นความถี่ย่าน 2100 MHz ที่ตั้งไว้ 3,391 ล้านบาท และคลื่นความถี่ย่าน 2300 MHz ที่ 1,675 ล้านบาท ถูกมองว่าต่ำเกินไป ไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและราคาที่เคยประมูลได้ในอดีต
นอกจากนี้ ที่ประชุม กสทช. ยังมีมติเร่งรัดให้บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เร่งส่งแผนเยียวยาลูกค้าที่ยังคงใช้งานคลื่นความถี่ 850 MHz, 1800 MHz และ 2300 MHz มาให้พิจารณาโดยเร็วที่สุด ก่อนคลื่นถี่ย่านดังกล่าวจะหมดอายุลงในวันที่ 3 ส.ค.68