xs
xsm
sm
md
lg

ทุนจีนปักหลักศึก AIoT ไทย Dahua Technology ขอชิง 1.6 พันล้านบาทปีนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ต้าหัว เทคโนโลยี (Dahua Technology) เจ้าพ่อโซลูชันกล้องวงจรปิดพลัง AI สัญชาติจีนปักหลักบุกตลาดไทยเต็มตัว ล่าสุดทุ่มทุน 35 ล้านบาทปั้นโชว์รูมใหม่ที่ประเทศไทยด้วยขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดการณ์รายได้ในไทยปี 2024 โตต่อเนื่อง 1,600 ล้านบาท สะท้อนภาพใหญ่ตลาดเอไอโอที (AIoT) ที่เป็นโซลูชันผสมระหว่างเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กับอินเทอร์เน็ต ออฟ ติง กำลังบูมในประเทศไทย

นายหยู ฉีจวิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ด้าหัว เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูง จึงมีการลงทุนต่อเนื่องตลอด 8 ปีที่เข้ามาตั้งสำนักงานในไทย โดยล่าสุดมีการย้ายสำนักงานมายังอาคารใหม่ และมีการจัดอบรมเพื่อส่งต่อทักษะทั้งการฝึกสอนพนักงาน รวมถึงการสาธิตเทคโนโลยี เบื้องต้นยังไม่มีแผนลงทุนตั้งโรงงานผลิตในไทย แต่แย้มว่ามีโอกาสเกิดขึ้นหลังจากมีการตั้งโรงงานที่เวียดนามและอินเดียมาแล้ว

หยูระบุว่าต้าหัวประเทศไทยมีการเติบโตทุกปี เช่นเดียวกับรายได้จากทั่วโลกที่เติบโตทุกปีจนอยู่ที่ระดับ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดในกว่า 180 ประเทศ และในอาเซียนมีการตั้งสำนักงานแทบทุกตลาด ทั้งลาว เกาหลี ญี่ปุ่น

หยู ฉีจวิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ด้าหัว เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด  กับระบบกล้อง AI สำหรับใช้ในระบบตรวจคนเข้าอาคาร
ปัญญาประดิษฐ์แห่งสรรพสิ่ง หรือ AI of Everything คือการนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (Al) และระบบอินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง (IoT) ไปควบคุมระบบต่างๆ ให้ทำงานได้อย่างอัจฉริยะ ตัวอย่างเช่น การนำเซ็นเซอร์ไปติดที่กล้องวงจรปิดให้ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์เพื่อตรวจว่าผู้เดินทางเข้าอาคารเป็นหญิงหรือชาย สูงอายุหรือเป็นเด็ก อารมณ์ดีหรือกำลังบูดบึ้ง มีอาการตัวร้อนเป็นไข้หรือไม่

ต้าหัวไม่ปฏิเสธว่ากระแส AI ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักวงกว้างนั้นเป็นปัจจัยบวกที่เสริมให้ธุรกิจแข็งแกร่งขึ้น โดยบริษัทมุ่งมั่นเป็นผู้ผลิตโซลูชัน AI เป็นหลัก บนจุดเด่นเรื่องคุณภาพสินค้าและบริการ ซึ่งนอกจากกล้องวงจรปิด บริษัทยังมีสินค้ากลุ่มหน้าจอมอนิเตอร์ ซึ่งถูกจัดอันดับเป็น 1 ใน Top 5 ของตลาด ขณะเดียวกัน ก็มีสินค้ากลุ่มหน่วยความจำ คอมพิวเตอร์พกพา ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย

เมื่อถามถึงเป้าหมายปี 2024 ต้าหัวคาดว่าจะทำรายได้ในประเทศไทยราว 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,600 ล้านบาท ผลจากการที่บริษัทมีสินค้าหลากหลาย ทั้งระบบกล้องสำหรับติดตามโซลูชันพลังงาน เช่น ระบบชาร์จไฟฟ้า กล้องติดระบบโซลาร์เซลล์ นอกจากนี้ยังมีระบบอาคารอัจฉริยะ ทั้งกล้องอ่านทะเบียนรถ ระบบอ่านบัตรเข้าออกอาคาร ประตูตรวจจับโลหะขณะเข้าอาคาร ระบบกล้องดิจิทัลจับความเร็วรถ รวมถึงอีกหลายโซลูชันที่ถูกนำไปใช้แล้วในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เช่น ระบบกล้องวงจรปิดบนถนนสาธารณะในพื้นที่ภาคใต้ หรือระบบกล้องเพื่อการบริหารสัญญาณไฟจราจรที่มีการติดตั้งที่ถนนรางน้ำ โดยบางโครงการมีมูลค่าราว 20 ล้านบาท

กล้องวงจรปิดของ Dahua สามารถทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์และเซนเซอร์ บนระบบ AIoT อัจริยะ

กล้องวงจรปิดของ Dahua สามารถทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์และเซ็นเซอร์ บนระบบ AIoT อัจริยะ

โซลูชันด้านพลังงานของ Dahua

โซลูชันของ Dahua ถูกใช้ในระบบจราจร

ระบบกล้อง AI สำหรับถนน สามารถติดเซนเซอร์เพื่อจัดการไฟจราจร และปกป้องสิ่งแวดล้อมได้

ระบบกล้อง AI สำหรับธุรกิจค้าปลีกที่สามารถนับสินค้าในชั้นวางโดยไม่ต้องใช้แรงงานคน
หนึ่งในสินค้าน่าสนใจของต้าหัว คือโดรนที่ออกแบบให้ติดกล้องวงจรปิดพลัง AI ลงไปได้ รวมถึงระบบกล้อง AI สำหรับธุรกิจค้าปลีกที่สามารถนับสินค้าในชั้นวาง เพื่อให้ร้านค้าจัดการสินค้าคงคลังได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีกล่องบรรจุกล้องวงจรปิดที่เคลื่อนที่ได้ โดยสามารถนำมาวางไว้ที่หน้ารถบรรทุกเพื่อตรวจจับพฤติกรรมคนขับรถ รวมถึงสามารถปรับใช้กับระบบป้องกันอุบัติเหตุจากการควงกะของผู้ขับรถ ระบบจะเตือนเมื่อพบผู้ขับที่ขับเกินจำนวนชั่วโมงที่กำหนด ยังมีระบบกล้องเคลื่อนที่ที่ติดตั้งบนรถ บขส. มากกว่า 3,000 คัน และกล้องติดรถนักเรียนที่ลดโอกาสการการลืมเด็กบนรถ เพราะมีโซลูชันนับจำนวนคนขึ้นลงจากรถ

ต้าหัวยังไม่มีนโยบายขายตรงสินค้า แต่จับคู่กับ 4 ตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ของไทย ซึ่ง 2 รายในนั้นคือซินเน็ค และเอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น

ปัจจุบัน ต้าหัวตั้งสำนักงาน 2 สาขาในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่และกรุงเทพฯ โดย 70% เป็นพนักงานไทย และมีคนไทยทำงานในระดับผู้บริหาร ตัวธุรกิจหลักแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ กลุ่มชาแนลหรือช่องทางจำหน่ายที่สร้างรายได้มากที่สุด (60%) รองลงมาเป็นกลุ่มโปรเจกต์ที่ต้องร่วมงานกับบริษัทผู้วางระบบในโครงการหรือเอสไอ (20%) และกลุ่มสินค้าอื่นที่เป็นธุรกิจใหม่ (20%)

โดรนที่ออกแบบให้ติดกล้องวงจรปิดพลัง AI ลงไปได้


สำหรับการลงทุนตั้งโชว์รูมเพื่อให้พันธมิตรได้สัมผัสโซลูชันอย่างใกล้ชิดครั้งนี้ มีพื้นที่ 260 ตารางเมตร และเป็นโชว์รูมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุดเด่นของโชว์รูมคือการจัดแสดงโซลูชัน AIoT ขั้นสูง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มุ่งหวังส่งเสริมให้เกิดสังคมที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น และปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ ภายในมีการจัดแสดงโซลูชันสำหรับเมืองอัจฉริยะ พลังงานอัจฉริยะ อาคารอัจฉริยะ ที่จอดรถและการจราจรอัจฉริยะ โทรศัพท์มือถืออัจฉริยะ การค้าปลีกอัจฉริยะ และการธนาคารอัจฉริยะ

โซลูชันหลักอย่างเมืองอัจฉริยะนั้นจะเป็นระบบกล้องที่โฟกัสกับการเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยของเมืองและการบังคับใช้กฎหมาย ขณะที่โซลูชันการจราจรอัจฉริยะ จะเน้นการลดอุบัติเหตุด้วยการติดกล้องเพื่อตรวจสอบการละเมิดกฎจราจรต่างๆ ด้านโซลูชันอาคารอัจฉริยะจะใช้การจดจำใบหน้า เพื่อจัดการความหนาแน่น และแนะนำที่จอดรถได้

  ปัจจุบัน ต้าหัวมีพนักงานมากกว่า 23,000 คนทั่วโลก โดยมากกว่า 50% อยู่ในแผนกการวิจัยและพัฒนา
สิ่งที่เจ้าพ่อแดนมังกรมองว่าเป็นความท้าทายในการทำตลาดโซลูชัน AIoT ไทย คือเรื่องการเข้าถึงกลุ่มตลาดในประเทศไทยที่ยังอาจผูกกับเทคโนโลยีเดิม ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทต้องจัดเวทีฝึกสอนหลายร้อยครั้ง และต้องลงพื้นที่ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน ต้าหัวมีพนักงานมากกว่า 23,000 คนทั่วโลก โดยมากกว่า 50% อยู่ในแผนกการวิจัยและพัฒนา บริษัทย้ำว่ามีการลงทุนประมาณ 10% ของรายได้จากการขายประจำปีในการวิจัยและพัฒนา ขณะนี้ได้ดำเนินการผ่านสถาบันวิจัยหลัก 5 แห่ง มีเครือข่ายทั่วโลกโดยมีสำนักงานมากกว่า 200 แห่งในจีนและ 69 แห่งทั่วโลก ทำให้โซลูชันของ Dahua ถูกใช้ในหลายภาคส่วน ตั้งแต่การขนส่ง การผลิต การศึกษา การค้าปลีก ธนาคาร พลังงาน และการปกป้องสิ่งแวดล้อม

ที่สุดแล้ว โชว์รูมนี้แสดงถึงการลงทุนครั้งสำคัญของ Dahua Technology ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาโซลูชัน AIoT สำหรับเมืองอัจฉริยะและอุตสาหกรรม ซึ่งจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในตลาดมากยิ่งขึ้นในอนาคต




กำลังโหลดความคิดเห็น