xs
xsm
sm
md
lg

AI จีนเรียนภาษาไทย! รู้จัก DTLM กับเป้าหมายเป็นโมเดล Thai LLM ที่เก่งที่สุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ส่องผลงานดีทีจีโอ (DTGO) บริษัทแม่แบรนด์อสังหาฯ แมกโนเลียฯ จับมือผู้พัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ชั้นนำจากจีน เปิดตัว AI ใหม่ “DTLM” ในฐานะโมเดล LLM ที่จัดเต็ม 3 ภาษาครบไทย-จีน-อังกฤษ เผยจุดแข็งแสดงผลภาษาไทยใกล้เคียงมนุษย์สุดแม่นยำ วางเป้าหมายเป็นโมเดล Thai LLM ที่เก่งที่สุด

ผู้พัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ชั้นนำจากจีนที่เป็นพันธมิตรกับดีทีจีโอมีชื่อว่า "เซนส์ไทม์" (SenseTime) ขณะที่ดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด นั้นเป็นบริษัทแม่ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น) โดยทั้งคู่ได้ร่วมกันพัฒนา DTLM (DTGO Language Model) ในรูปโมเดลภาษาขนาดใหญ่เทคโนโลยี AI หรือ Large Language Model (LLM) เพื่อเตรียมเปิดให้ภาคธุรกิจสามารถใช้ AI ให้บริการได้อย่างเหมาะสม

กิตติคุณ โพธิวนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีทีจีโอ และหลิน ต๋าหัว ผู้ร่วมก่อตั้ง SenseTime
ความเก่งของ DTLM อยู่ที่การเป็น AI ที่ถูกตั้งเป้าให้เป็นโมเดล Global Class Thai LLM ที่ตอบคำถามภาษาไทยได้อย่างละเอียดแม่นยำ โดยหวังให้เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในบรรดา LLM ภาษาไทย

***สอบได้ที่ 1

นายกิตติคุณ โพธิวนากุล ประธานเจ้าหน้าที่งานเทคโนโลยี บริษัท ดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า DTLM เป็น AI ที่พัฒนาขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับ SenseTime การตั้งเป้าให้เป็นโมเดล Global Class Thai LLM จึงต้องมีความสามารถในการตอบคำถามภาษาไทยได้อย่างละเอียดแม่นยำ และมีประสิทธิภาพสูงที่สุดในบรรดา LLM ภาษาไทยในปัจจุบัน จากผลการทดสอบมาตรฐาน MMLU โดยการเป็นโมเดล LLM ที่เก่งสามภาษา ไทย-จีน-อังกฤษของ DTLM จะทำให้ DTLM พร้อมตอบโจทย์การใช้งานของภาคธุรกิจที่หลากหลาย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ลูกค้าองค์กร และคำนึงถึงการรักษาข้อมูลองค์กรในการใช้ AI ด้วย

“เราจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ โลกแห่งเทคโนโลยีเดินหน้ารวดเร็ว เราจะต้องพัฒนาให้ทันการพัฒนาของอุตสาหกรรมเช่นกัน ในอนาคตอันใกล้นี้ โมเดล DTLM จะสามารถรองรับการใช้งานสำหรับบุคคลทั่วไปด้วย”

นอกจากความสามารถในการเชื่อมโยงฐานข้อมูลไทยกับภาษาอังกฤษ และจีน และเป็นโมเดลแรกของโลกที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงทั้งสามภาษาหลัก จุดแข็งของ DTLM ยังอยู่ที่การพัฒนาด้วยเทคโนโลยี Machine Learning ที่ไม่ได้อาศัยการแปลเพียงอย่างเดียว ทำให้สามารถอ่าน ถาม และตอบโต้ได้อย่างเป็นธรรมชาติและรวดเร็วแบบ Real-Time

แฟ้มภาพ SenseTime ขณะสาธิต SenseNova Edge-side Large Model เกี่ยวกับการขยายภาพที่การประชุมในเซี่ยงไฮ้ เมื่อเมษายน 2567

แฟ้มภาพ ดร.ซู หลี่ ประธานคณะกรรมการและซีอีโอของ SenseTime ขณะเล่าความก้าวหน้าของ SenseNova 5.0 Large Model
เพื่อทำตลาดอย่างเต็มที่ DTGO ได้ก่อตั้งบริษัทลูกชื่อ "ควินน์โนวา คอร์ปอเรชั่น" (Quinnnova Corporation) เพื่อรุกเข้าสู่ธุรกิจที่ปรึกษาด้าน IT เป็นผู้พัฒนา DTLM ให้เป็น AI Application Solutions แบบครบวงจร โดยควินน์โนวาเน้นให้ความสำคัญไปที่การพัฒนา ต่อยอดนวัตกรรม AI อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับอีโคซิสเต็มของ AI ในประเทศไทยให้มีศักยภาพสูงขึ้นอีกระดับ

***B2B โมเดลหลัก

กิตติคุณกล่าวว่า ในระยะแรก DTLM จะเน้นกลุ่มลูกค้าองค์กรหรือ B2B เนื่องจากมีจุดเด่นด้านการจัดการต้นทุนการใช้งานที่คุ้มค่าสำหรับองค์กร และมีระบบความปลอดภัย แบบปิด ช่วยป้องกันข้อมูลรั่วไหล องค์กรต่างๆ สามารถนำ DTLM ไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ทั้งเพื่อใช้งานร่วมกับการพัฒนาภายในองค์กรและการใช้งานภายนอกองค์กร

"DTGO ก่อตั้งบริษัทลูก ควินน์โนวา ขึ้นมารุกธุรกิจเต็มตัวเนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพการพัฒนาด้าน IoT และ AI รวมถึงโอกาสที่จะต่อยอดออกไปเป็นหนึ่งในกิจการที่มีศักยภาพสูงในอนาคต อีกทั้งการใช้งาน AI อย่างชาญฉลาดจะช่วยสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้มนุษย์และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นภารกิจหลักของ DTGO"


DTGO ยืนยันฐานะของตัวเองในวันนี้ว่าเป็นบริษัทลงทุนในกิจการต่างๆ ร่วมกับการทำกิจกรรมสร้างคุณประโยชน์แก่สังคม โดยมี MQDC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำเป็นธุรกิจหลัก ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมชั้นนำมาให้ในทุกๆส่วนในการพัฒนาโครงการ รวมถึงกิจการอื่นๆ ในเครือ DTGO

ด้านศาสตราจารย์หลิน ต๋าหัว ผู้ร่วมก่อตั้ง SenseTime กล่าวว่า ในอนาคตทั้ง 2 บริษัทจะร่วมกันสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งาน AI ฟีเจอร์ใหม่ของลูกค้าทั้งชาวไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประสิทธิภาพสูง ราคาดี และเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน


กำลังโหลดความคิดเห็น