xs
xsm
sm
md
lg

หัวเว่ยขอเร็ว-แรงขึ้น 10 เท่า AI ชงปีทอง "5G แอดวานซ์" (Cyber Weekend)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เดวิด หวัง กรรมการบริหารและประธานคณะกรรมการบริหารโครงสร้างพื้นฐาน ICT ของหัวเว่ย
จริงอยู่ที่ 5G เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารเคลื่อนที่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ขณะนี้มีบริการเครือข่าย 5G ประมาณ 320 แห่งทั่วโลก ครอบคลุมผู้ใช้ประมาณ 1.8 พันล้านคน คิดเป็นอัตราการเติบโตมากกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับสถิติที่ 4G เคยทำไว้ในช่วงเวลาเดียวกัน

แต่วันนี้ “5G ขั้นสูง” หรือ 5G แอดวานซ์ (5G Advanced) นั้นกำลังเริ่มเข้ามามีบทบาทหลังจากได้ผ่านการอนุมัติมาตรฐานอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 มิถุนายน 2024 ภาวะนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการทั่วโลก เพราะแนวโน้มที่บอกใบ้ว่าจะเป็นประตูมอบโอกาสมากมายในการสร้างรายได้สู่อุตสาหกรรมครั้งใหญ่

อิมแพกต์ของ 5G Advanced หรือ 5G-A นั้นกระจายไปทั่วทั้งระดับผู้บริโภค ระดับครัวเรือน และระดับธุรกิจ เห็นได้จากการที่หัวเว่ยเพิ่งเปิดตัวโครงการ 5G-A Pioneers Program ครั้งแรกในโลก ณ มหกรรมเทคโนโลยี Mobile World Congress Shanghai 2024 กลางนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยปี 2024 จะเป็นปีแรกของการให้บริการเครือข่าย 5G-A ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะได้รับอานิสงส์จากการที่ระบบ 3GPP Release-18 ถูกระงับการใช้งานอย่างเป็นทางการเรียบร้อย

***AI ดันความฮอต 5.5G

นายเดวิด หวัง กรรมการบริหารและประธานคณะกรรมการบริหารโครงสร้างพื้นฐาน ICT ของหัวเว่ย กล่าวที่งาน MWC Shanghai 2024 ว่า 5G-A คือตัวช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ด้วยการทำให้ธุรกิจขยายขอบเขตไปได้กว้างกว่าที่เคย สิ่งที่ผู้มีส่วนได้เสียในอุตสาหกรรมควรทำคือลุกขึ้นมาเร่งสร้างความแข็งแกร่งให้เทคโนโลยี 5G-A และสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนของ 5G โดยหัวเว่ยรอคอยที่จะทำงานร่วมกับผู้เล่นในอุตสาหกรรม เพื่อบ่มเพาะอีโคซิสเต็ม 5G-A ให้แข็งแกร่งได้เร็ว เพื่อพาโลกเข้าสู่ยุค 5.5G ที่จะยกระดับประสิทธิภาพเครือข่ายได้ถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับ 5G ดั้งเดิม


พลังของ 5.5G จะปูทางสู่ความเร็วดาวน์ลิงก์สูงสุด 10 กิกะบิต และความเร็วอัปลิงก์สูงสุด 1 กิกะบิต ขณะเดียวกัน ก็รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ได้ถึง 1 แสนล้านจุด ทั้งหมดนี้จะตอบสนองความต้องการด้านบริการที่หลากหลายมากขึ้น ตั้งแต่การใช้งานจอแสดงผล 3 มิติแบบไม่ต้องมีแว่นตา ระบบผู้ช่วยส่วนตัวเทคโนโลยี AI ระบบกล้องและไฟจราจรอัจฉริยะ รวมถึงระบบโรงงานที่จะเป็นระเบียบและผลิตได้มากขึ้นบนทุนที่ต่ำลง

หากมองในด้านแรก แรงกระเพื่อมใหญ่ที่สุดของ 5G-A ที่จะส่งถึงภาคผู้บริโภค (5GtoC) คือการตอบความท้าทายเรื่องความต้องการเชื่อมต่อข้อมูลปริมาณมหาศาลโดยความหน่วงต้องน้อยลง ความต้องการนี้เป็นผลจากการที่โลกออนไลน์เปลี่ยนจากการรับส่งเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น ทั้งข้อความ ภาพนิ่ง หรือวิดีโอ มาเป็นเนื้อหาที่สร้างโดย AI ซึ่งดันให้เกิดการรับส่งข้อมูลมากขึ้นหลายเท่าตัว นอกจากนี้ ผู้คนทั่วไปยังต้องการเครือข่ายข้อมูลที่เหนือกว่า 5G เพื่อโต้ตอบกับอุปกรณ์หลายรูปแบบที่เปิดใช้งาน AI รวมถึงการเพิ่มขึ้นของ “โทรศัพท์มือถือ AI” และอุปกรณ์สวมใส่ที่ต้องการเครือข่ายข้อมูลการสื่อสารเคลื่อนที่ที่ทรงพลัง

หากมองที่แรงกระเพื่อมต่อภาคครัวเรือน (5GtoH) 5G Advanced จะช่วยให้ลูกค้าบริการบอร์ดแบนด์ความเร็วสูงไร้สาย (FWA) ได้รับประสบการณ์เร็วแรงเหมือนไฟเบอร์ มีการคาดการณ์ว่าจะเป็นทางเลือกหลักสำหรับบรอดแบนด์ภายในบ้าน เบื้องต้น คาดว่า 70% ของผู้ให้บริการ 5G จะเดินหน้าให้บริการ 5G FWA เชิงพาณิชย์ภายใน 2 ปีจากนี้ หรือ 2026

เอริค จ้าว รองประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดโซลูชันไร้สายของหัวเว่ย
สำหรับแรงกระเพื่อมต่อภาคธุรกิจ (5GtoB) 5G Advanced จะสามารถจัดการกับความท้าทายในการปรับใช้ IoT ขององค์กรได้ ขณะเดียวกัน ก็ลดต้นทุนของเครือข่ายเทคโนโลยี REDCap หรือ Research Electronic Data Capture ซึ่งเป็นโปรแกรมการจัดการข้อมูลวิจัยในฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งหัวเว่ยย้ำว่า 5G Advanced จะลดต้นทุนลงได้กว่า 60% ขณะเดียวกันก็ช่วยเอื้อต่อการทำงานของเทคโนโลยี Passive-IoT ที่ครอบคลุมมากกว่า RFID ถึง 10 เท่า

***เครือข่ายเก่งขึ้นด้วย AI


นายเอริค จ้าว รองประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดโซลูชันไร้สายของหัวเว่ย เผยถึงแผนการนำ AI ยกระดับประสิทธิภาพเครือข่ายว่าจะมุ่งยกระดับการบ่มเพาะอีโคซิสเต็ม RAN Intelligent Agent ร่วมกับผู้ให้บริการเพื่อยกระดับขีดความสามารถของเครือข่าย ซึ่งในระยะแรกจะครอบคลุมวิศวกรภาคสนามจำนวน 1,000 คน และไซต์ 10,000 แห่งในมณฑลหางโจว นครกวางโจว กรุงเทพมหานคร นครจีนาน และนครเซินเจิ้นภายในระยะเวลาครึ่งปี คาดว่าภาคโทรคมนาคมจะได้เห็นความก้าวหน้าของเทคโนโลยี 5G-A หลังจากทุกภาคส่วนได้ทำงานร่วมกันตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา

“การนำ AI มาใช้ในเครือข่าย 5G-A จะเป็นบทพิสูจน์เรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย โดย RAN Intelligent Agent ยังมีฟังก์ชัน Copilots ที่รองรับแชตบอตในบทบาทต่างๆ และเอเยนต์ที่รองรับโซลูชันตามสถานการณ์แบบอัตโนมัติ”

ที่สุดแล้ว สิ่งที่หัวเว่ยต้องทำในวันที่มาตรฐาน 5G-A มีความพร้อมเต็มที่ รวมถึงเทคโนโลยี 5.5G ระบบนิเวศ และองค์ประกอบทางธุรกิจที่เตรียมสุกงอมในไม่ช้า คือการรอให้โอเปอเรเตอร์มีใบอนุญาต ซึ่งเมื่อโอเปอเรเตอร์ได้ไฟเขียวเมื่อใด เวลานั้นก็จะเป็นจุดเริ่มต้นปีทองของ 5G Advanced ที่เร็วและแรงขึ้นในที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น