xs
xsm
sm
md
lg

จับตาการแข่งขันผู้ผลิตชิปในยุค ‘AI PC’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังจากที่ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ประกาศเริ่มยุคใหม่ของคอมพิวเตอร์พีซี ด้วยยุคของ ‘Copilot+ PC’ พร้อมกับการรองรับหน่วยประมวลผลจาก Qualcomm ที่พัฒนาบนสถาปัตยกรรม Arm ให้ใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows) ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ทำให้การแข่งขันในกลุ่มยักษ์ใหญ่ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะหน่วยประมวลผลคอมพิวเตอร์พีซีที่แต่เดิมทั้ง อินเทล (Intel) และเอเอ็มดี (AMD) ครองตลาดส่วนใหญ่อยู่เริ่มมีการสั่นคลอน ไม่นับรวมกับก่อนหน้านี้ที่แอปเปิล (Apple) นำหน้าไปใช้ชิปที่ผลิตเองอย่าง Apple Silicon

แน่นอนว่าเมื่อเกิดการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้น ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นเสมอ โดยเฉพาะในเรื่องของการเข้าถึงเทคโนโลยีที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ภายใต้การผลักดันของบรรดาผู้ผลิตชิป ไม่ว่าจะเป็น Intel AMD Qualcomm และ Apple

ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ ผู้บริโภคชาวไทยจะเริ่มได้เห็นการนำเข้าสินค้ายุคใหม่ของ Microsoft ด้วยโน้ตบุ๊กที่ผ่านมาตรฐานรองรับ ‘Copilot+ PC’ เข้าสู่ตลาด โดยในช่วงแรกจะเป็นรุ่นที่ใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon X Elite ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปลายปี 2023 ที่ผ่านมา

ก่อนเริ่มส่งมอบให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์นำไปใช้งาน และทยอยนำเข้ามาทำตลาดในไทย จากแบรนด์หลักๆ อย่างเอซุส (ASUS) เอเซอร์ (Acer) เดลล์ (Dell) เอชพี (HP) และเลอโนโว (Lenovo)

ก่อนความเคลื่อนไหวล่าสุดของทั้ง Intel และ AMD ที่ใช้พื้นที่การจัดงานแสดงสินค้าไอทีอย่าง Computex 2024 ที่ไต้หวัน ในการนำเสนอหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ที่จะมาชนกับ Qualcomm ที่จะเริ่มเห็นสินค้าออกสู่ตลาดในช่วงไตรมาส 3


ยุคของหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ที่ Intel ให้คำจำกัดความว่า AI PC จะเป็นการประกอบชิปที่มีรายละเอียดยิปย่อยแตกต่างจากเดิม โดยมีส่วนสำคัญ 3 ส่วนหลัก คือ ชิปประมวลผลหลัก (CPU) ชิปกราฟิก (GPU) และหน่วยเร่งความเร็ว AI (NPU) เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่จะแข่งขันกันเฉพาะ CPU และ GPU

โดยที่ผ่านมาทั้ง Intel และ AMD ได้เริ่มมีผลิตภัณฑ์ AI PC ที่ใช้ชิปเซ็ตอย่าง Intel Core Ultra และ Ryzen AI เข้าสู่ตลาดแล้ว เพียงแต่เป็นชิปที่ออกมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2024 ซึ่งในเวลานั้นความเร็วในการประมวลผล NPU ของทั้ง 2 เจ้า ยังไม่เพียงพอกับขั้นต่ำในการใช้งาน Copilot+ PC ของทาง Microsoft

ในขณะที่ Qualcomm Snapdragon X Elite ให้ความเร็วในการประมวลผลของ NPU ระดับ 45 TOPS หรือรองรับการประมวลผลกว่า 45 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที ทำให้เมื่อรวมกับการประมวลผลของ CPU และ GPU ที่ประหยัดพลังงาน สามารถนำเสนอแล็บท็อปที่ใช้งานได้ต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 20 ชั่วโมง จนชนะเกมแรกในยุคของ AI PC ไป

*** Intel ย้ำจุดแข็ง รันได้ทุกแอป

เมื่อเกมแรกทั้ง Intel และ AMD มีความเพลี่ยงพล้ำให้คู่แข่งจากฟากฝั่งที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm อย่าง Qualcomm ที่ปัจจุบันพัฒนาการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ล้ำหน้ากว่า แม้ว่าในมุมของการพัฒนายังตามแผนที่วางไว้ทุกอย่าง ทำให้ในเกมที่ 2 หลังจากที่ยักษ์ใหญ่มีการเปิดตัวชิปรุ่นใหม่ออกมาชน ในชื่อรหัส Intel Lunar Lake และ AMD Zen5 บนสถาปัตยกรรม x86 จะทำให้การแข่งขันของ Copilot+ PC สนุกมากขึ้น


มิเชล จอนสตัน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจไคลเอนท์ คอมพิวติ้ง อินเทล ให้ข้อมูลว่า สิ่งที่ทำให้ Intel มั่นใจว่า Copilot+ PC ที่ทำงานร่วมกับไมโครซอฟท์ เหนือกว่าคู่แข่งคือการที่รองรับการทำงานกับโปรแกรมต่างๆ ทั้งหมด ไม่ใช่เน้นนำเสนอเฉพาะแอป หรือโปรแกรมที่เพิ่งรองรับการทำงานเท่านั้น

“ความสามารถของสถาปัตยกรรม x86 บน Lunar Lake จะเปลี่ยนความคิดในการทำงานของ AI PC ไปอีกขั้น และมั่นใจว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมา Intel จะยังรักษาผู้นำทั้งในแง่ของประสิทธิภาพการประมวลผลของ CPU GPU และที่สำคัญคือ NPU ที่ให้พลังในการประมวลผลมากกว่า 48 TOPS”

ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา Intel ได้จัดส่งชิปประมวลผล Intel Core Ultra รุ่นที่ 1 ผ่านแล็ปท็อปของบรรดาผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ไปแล้วกว่า 8 ล้านเครื่อง และเชื่อว่าจะมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องไปอีกในอนาคต


พร้อมกันนี้ Intel ยังให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับคลื่นการเปลี่ยนแปลงของ AI ที่ปัจจุบันเริ่มขึ้นแล้ว และหลายคนกำลังอยู่ในคลื่นลูกแรก คือ คลื่นของแมชชีนเลิร์นนิ่ง ที่คอมพิวเตอร์จะเริ่มเรียนรู้ผู้ใช้ และนำเสนอสิ่งที่ตอบโจทย์การใช้งาน

คลื่นลูกที่ 2 ที่เริ่มเห็นชัดเจนขึ้นคือการมาของ Generative AI อย่าง Copilot ที่จะเข้ามาช่วยให้การทำงานหลายๆ ส่วนดีขึ้น ผู้ใช้สามารถสั่งงาน หรือสอบถามข้อมูลต่างๆ ได้ทันที และที่น่าจับตาในอนาคตคือคลื่นลูกที่ 3 หรือ AI Agent ที่ผู้ช่วย AI จะเริ่มมีความเชี่ยวชาญ ส่งผลต่อรูปแบบการทำงานของพีซีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต


แน่นอนว่า เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงก็ย่อมตามมากับสิ่งที่ผู้ใช้งานกังวล ทำให้ Intel มั่นใจว่า AI PC จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ใน 3 ส่วนสำคัญคือ ความเป็นส่วนตัว (Privacy) ความปลอดภัยของข้อมูล (Security) และความรวดเร็วในการใช้งาน (Low Latency) โดยเฉพาะบน Intel Core Ultra รุ่นใหม่นี้

เนื่องจากเมื่อมีการใส่ NPU เข้ามาในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล จากเดิมที่การประมวลผลจะเกิดขึ้นจากการส่งข้อมูลผ่านคลาวด์ไปประมวลผลกลับมา ก็จะกลายเป็นการทำงานในพีซีที่ประมวลผลได้ทันที ซึ่งผู้ใช้สามารถควบคุมความปลอดภัยได้อย่างเต็มที่


เบื้องต้น Intel Core Ultra รุ่นใหม่ของ Intel ในชื่อรหัส Lunar Lake จะเริ่มทยอยออกสู่ตลาดในช่วงไตรมาส 3 นี้ จากจุดเด่นในเรื่องของประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น 40% โดยใช้พลังงานเท่าเดิม รวมถึงการประมวลผล AI ที่เร็วขึ้น 3 เท่าจากรุ่นก่อนหน้า และคาดการณ์ว่าภายในปี 2027 คอมพิวเตอร์กว่า 60% ที่ถูกจำหน่ายออกไปจะเป็น AI PC

*** ‘AMD Ryzen AI’ แรงสุดที่ 50 TOPS

การเปิดตัวชิปประมวลผล AI รุ่นใหม่ของ AMD กลับมาเรียกความเชื่อมั่นที่ทำให้การแข่งขันสนุกขึ้นอีกครั้ง จาก Ryzen AI 300 ซีรีส์ หรือ Ryzen AI รุ่นที่ 3 ที่จะทยอยออกสู่ตลาดในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ จากผู้ผลิตอย่าง ASUS และ MSI ที่เริ่มนำชิปไปใช้ในการผลิตเครื่องรุ่นใหม่และจะทยอยวางจำหน่ายในช่วงกรกฎาคมนี้

ความสามารถของ Ryzen AI รุ่นที่ 3 ซึ่งพัฒนาขึ้นมาบนสถาปัตยกรรม Zen5 ที่ประกอบด้วยชิปกราฟิก AMD RDNA 3.5 และชิปเร่งความเร็ว AI AMD XDNA 2 ช่วยให้ Ryzen AI 300 ซีรีส์ สามารถประมวลผล AI ได้สูงสุดที่ 50 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที (50 TOPS) เหนือกว่าทั้ง Snapdragon X Elite และ Intel Core Ultra รุ่นที่ 2


ลิซ่า ซู ประธาน และซีอีโอ เอเอ็มดี ย้ำว่า ช่วงเวลานี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ AMD จากการที่โลกของ AI มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และช่วยผลักดันความต้องการชิปประมวลผลที่มีประสิทธิภาพเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หลังจากนี้ คงต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวในฝั่งของ Apple ที่จะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมของชิป Apple M4 ที่นำมาใช้ในเครื่อง MacBook หลังจากที่เปิดตัวใช้งานบน iPad Pro ไปแล้ว ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ส่วนในมุมของผู้บริโภค มั่นใจได้เลยว่าการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ในช่วงปลายปีนี้ หลังจากที่ Copilot+ PC เริ่มทยอยเข้าสู่ตลาด จะทำให้การใช้งานพีซีสนุก มีความคุ้มค่าในระยะยาว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น