xs
xsm
sm
md
lg

Microsoft ประกาศเริ่มยุคใหม่พีซี ด้วย ‘Copilot+ PC’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไมโครซอฟท์ (Microsoft) มองการนำ AI Copilot เข้าไปผสมผสานกับการใช้งานบนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของพีซีในอนาคตอันใกล้ พร้อมประเดิมความร่วมมือกับ Qualcomm นำชิป Snapdragon X ซีรีส์ มาใช้งานบน Surface และแล็ปท็อปจากพันธมิตร Acer ASUS Dell HP Lenovo และ Samsung

ยูซุฟ เมห์ดี รองประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ ไมโครซอฟท์ กล่าวว่า เรามาถึงจุดเปลี่ยนที่พีซีจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรม AI และเชื่อว่าประสบการณ์ AI ที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทั้งระบบคลาวด์และดีไวซ์ทำงานผสานกับเป็นหนึ่งเดียว

สำหรับ Copilot+ PC เป็นเครื่องพีซี Windows ที่เร็วที่สุด ชาญฉลาดที่สุดเท่าที่เคยมีมาด้วยชิปรุ่นใหม่ Snapdragon X Series และ Snapdragon X Plus โดยจะมอบความคุ้มค่าสูงสุดในการใช้พลังงานด้วยระดับประสิทธิภาพเฉลี่ยต่อวัตต์ที่เหนือกว่า จากชิป Qualcomm Oryon CPU ที่ติดตั้งมาในตัว ชิปในตระกูล Snapdragon X มอบประสิทธิภาพระดับ 45 TOPS จากชิป NPU ที่ติดตั้งมาในตัวแบบออลอินวัน

“Copilot+ PC จะช่วยให้คุณทำสิ่งที่ไม่สามารถทำได้บนพีซีเครื่องอื่น ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาและจดจำทุกสิ่งที่คุณเคยเห็นบนเครื่อง ด้วย “Recall” สร้างและปรับแต่งรูปภาพ AI แบบเรียลไทม์ได้โดยตรงบนอุปกรณ์โดยใช้ “Cocreator” และก้าวข้ามข้อจำกัดด้านภาษาด้วย “Live Captions” ที่สามารถแปลเสียงกว่า 40 ภาษาเป็นภาษาอังกฤษได้ทันที”

ที่สำคัญคือความสามารถใหม่ๆ ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นบนดีไวซ์รุ่นใหม่ที่บาง เบา และสวยสะดุดตา ทั้งจากตระกูล Surface ของไมโครซอฟท์ และพันธมิตร OEM อย่าง Acer, ASUS, Dell, HP, Lenovo และ Samsung ที่จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน ในราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 36,000 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

“ตลอดปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการสร้างสรรค์นวัตกรรม AI ใหม่ๆ มากมายบนคลาวด์ และ Copilot ช่วยให้เราได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดฝันว่าจะเป็นไปได้ ในวันนี้ เราพร้อมแล้วที่จะเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยนวัตกรรม AI ที่ทำงานบนดีไวซ์”


ไฮไลต์สำคัญของพีซีที่ใช้งานชิปใหม่นี้จะมอบประสิทธิภาพที่สูงกว่า MacBook Air รุ่น 15” ถึง 58% ในการใช้งานแอปพลิเคชันแบบหลายเธรดอย่างต่อเนื่อง โดยที่แบตเตอรี่ยังพร้อมรองรับการใช้งานได้นานตลอดทั้งวัน ขณะเดียวกัน ยังสามารถเล่นวิดีโอจากในเครื่องได้ต่อเนื่องนานถึง 22 ชั่วโมง และเปิดดูเว็บไซต์ต่างๆ ได้ต่อเนื่องถึง 15 ชั่วโมง ทำได้นานกว่า MacBook Air รุ่น 15” ถึง 20%

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวชิปจะทำงานบนสถาปัตยกรรม Arm64 แต่โปรแกรม และแอปพลิเคชันชั้นนำจะรองรับการทำงานแบบเนทีฟ ไม่ว่าจะเป็น Microsoft 365 รวมถึง Chrome, Spotify, Zoom, WhatsApp, Blender, Affinity Suite, DaVinci Resolve และอื่นๆ อีกมาก โดยยังมีแอปอื่นๆ เช่น Slack ที่จะออกมาเพิ่มเติมอีกในปีนี้


ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่เปิดตัวออกมาพร้อมกับ Copilot+ PC คือ Surface Pro และ Surface Laptop รุ่นใหม่ ที่นับเป็น Copilot+ PC รุ่นแรกจาก Surface โดย Surface Laptop มีหน้าจอ 2 ขนาด คือ 13.8 นิ้ว และ 15 นิ้ว ขอบจอบาง หน้าจอสัมผัส กล้องที่เพิ่มประสิทธิภาพด้วย AI ระบบเสียงระดับพรีเมียม และทัชแพดแบบ haptic มีให้เลือก 4 สี แบตเตอรี่ใช้งานได้ 22 ชั่วโมง และ 20 ชั่วโมงตามลำดับ

Surface Pro
ขณะที่ Surface Pro มากับหน้าจอ OLED แบบ HDR ทำงานร่วมกับคีย์บอร์ดใหม่ Surface Pro Flex เป็นคีย์บอร์ดทูอินวันรุ่นแรกที่ใช้งานได้ทั้งขณะเชื่อมติดกับตัวเครื่องและในแบบไร้สาย มีช่องเก็บปากกา Surface Slim Pen และทัชแพดแบบ haptic

ส่วนแล็ปท็อปจากพันธมิตรที่จะทยอยเปิดตัวหลังจากนี้ มีทั้ง Acer Swift 14 AI, ASUS Vivobook S 15, Dell XPS 13, Inspiron 14 Plus, Inspiron 14, Latitude 7455 และ Latitude 5455, HP OmniBook X AI PC และ EliteBook Ultra G1q AI PC

Surface Laptop
ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์ยังร่วมมือใกล้ชิดกับทั้ง Intel และ AMD เริ่มจากชิปในตระกูล Lunar Lake และ Strix ที่จะมีการนำ NPU มาใช้งาน และมีแผนที่จะเปิดตัวดีไวซ์ Copilot+ PC เพิ่มเติมในอนาคต โดยเฉพาะพีซีรุ่นใหม่ที่ใช้ชิปประมวลผลคู่กับกราฟิก NVIDIA GeForce RTX และ AMD Radeon


กำลังโหลดความคิดเห็น