เปิดเส้นทาง ‘กลุ่มทรู’ ปรับวัฒนธรรมองค์กร พร้อมดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเปลี่ยนผ่านรูปแบบการทำงาน ผลักดันบุคลากรพัฒนาทักษะดิจิทัล เพื่อต่อยอดสู่การตอบสนองความต้องการของลูกค้า พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิต เพื่อเปลี่ยนผ่าน True สู่ Telecom Tech Company ชั้นนำของภูมิภาค
ศรินทร์รา วงศ์ศุภลักษณ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวทางในการปรับวัฒนธรรมองค์กรของทรูว่า เราคำนึงถึงความหลากหลาย และความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเพศ วัย รุ่น และทักษะที่หลากหลายที่จะมาเติมเต็มในการนำความหลากหลายในแต่ละรุ่นมาเติมเต็มกัน และจะเปลี่ยนแปลงองค์กรไปข้างหน้าได้อย่างดีเยี่ยม
“ความท้าทายของทรู ที่มีพนักงานกว่าหมื่นคน โดยที่กว่า 70% อยู่ใน Gen Y ซึ่งอยู่กึ่งกลาง คอยเชื่อมต่อระหว่าง Gen X ที่มีสัดส่วนราว 20% และกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z ที่เริ่มมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 10% ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาฝ่าย HR เริ่มเห็นการเปลี่ยนของ Talent ที่เข้ามา และกลายเป็นชาเลนจ์หลักในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร”
จึงเป็นที่มาของโครงการอย่าง ‘True Next Gen’ ที่จะสร้างผู้นำรุ่นใหม่ มาช่วยขับเคลื่อนการทรานส์ฟอร์ม เนื่องจากมองว่าคนรุ่นใหม่จะเข้าช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่องค์กร ทั้งในด้านของการเพิ่มมุมมอง ความคิดสร้างสรรค์ การวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงการคิดเชิงวิเคราะห์ที่จะเปลี่ยนข้อมูลให้เป็นโอกาสทางธุรกิจ
ขณะเดียวกัน ความแตกต่างของเจเนอเรชัน จะช่วยให้เกิดไอเดียใหม่ๆ จากการนำประสบการณ์ของรุ่นพี่ในอุตสาหกรรมมาส่งเสริมผ่านสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่พร้อมส่งต่อองค์ความรู้ให้คนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิดของการมองว่าลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ที่คนรุ่นใหม่จะเข้าใจมุมมองการใช้งานดิจิทัล และความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน
“ทรูอยากได้ความรู้ความคิดอ่านของคนรุ่นใหม่ๆ ในขณะที่รุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ก็พร้อมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทำให้กลายเป็นว่าน้องๆ ที่เข้ามาทำงานจะเห็นว่าเวลาเข้ามาแล้วทรูไม่ได้เป็นคนแก่ แต่เป็นบริษัทที่โมเดิร์น”
***ชูโครงการ True Next Gen สู่การเป็นผู้นำแห่งอนาคต
พร้อมกันนี้ ทรูได้เตรียมความพร้อมในการยกระดับเส้นทางอาชีพผ่านประสบการณ์ตรงและการมอบหมายงานจริง ภายใต้โปรแกรม True Next Gen ที่จะมีให้เลือกเข้าร่วมทั้ง 1.Tech Talent และ 2.Business Talent โดยจะได้รับโอกาสในการทำงานใกล้ชิดกับผู้บริหารระดับสูง ได้รับการฝึกหมุนเวียนไปในทุกกลุ่มธุรกิจ ในบริษัทตลอดระยะเวลา 18 เดือน
ทั้งนี้ คุณสมบัติ และดีเอ็นเอสำคัญของ True Next Gen คือจะต้องมีความเป็นผู้นำและพร้อมผลักดันวิสัยทัศน์บริษัทในการก้าวสู่การเป็นผู้นำด้าน Telecom-Tech ของไทย มีอายุต่ำกว่า 28 ปีบริบูรณ์ หรือเทียบเท่า ใช้ภาษาอังกฤษได้คล่อง ผู้สมัครจะต้องผ่านการทำแบบประเมินออนไลน์ การสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว และเข้าร่วมกิจกรรมบูทแคมป์เพื่อคัดเลือกเข้าสู่โปรแกรม True Next Gen เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ จนถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้
อย่างไรก็ตาม ส่วนสำคัญที่ทำให้วัฒนธรรมองค์กรของทรูเปลี่ยนไป คือการนำเทคโนโลยี และออโตเมชันทั้งระบบคลาวด์ และ AI เข้ามาใช้งาน พร้อมกับการเพิ่มขีดความสามารถทางดิจิทัลของบุคลากรในองค์กร ซึ่งจะทำให้เกิดความเชี่ยวชาญของการทำงานในอนาคต (Future Workforce) ในยุคที่ AI เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานซ้ำๆ และคนจะเป็นผู้ที่ตัดสินใจ
ในแง่ของ Digital Workforce กลุ่มทรูมีเป้าหมายในการพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะดิจิทัลทั้งหมด 2,400 คนภายในปีนี้ และเป็น 5,000 คน ภายในปี 2026 พร้อมกับนำระบบ Automation เข้ามาใช้งาน 100% ภายในปี 2027 ครอบคลุมทั้ง True Shop ช่องทาง Call Center และฝ่ายขายทั่วประเทศ
*** ‘One’ แอปรวมช่องทางฝ่ายขาย และดูแลลูกค้า
เรวัฒน์ ตันกิตติกร (ซ้าย) Head of Channel Excellence ทรู คอร์ปอเรชั่น ให้ข้อมูลเสริมถึงการทำงานภายในของกลุ่มทรู ที่จากเดิมฝ่ายขาย และบริการจะมีแอปพลิเคชันที่ใช้ดูแลลูกค้าอยู่ทั้งหมด 9 แอป แต่ในอนาคตตั้งเป้าว่าจะรวมให้เหลือเพียง 1 แอป ที่เรียกว่า ‘One’ เท่านั้น
“การรวมแอปจะดีสำหรับการลงทุนของบริษัท ดีไซน์ให้เกิดความง่าย และเตรียมความพร้อมในการนำ AI เข้ามาช่วยให้พนักงานสามารถแนะนำบริการ หรือแพกเกจที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น”
โดยทางทรูคาดว่าการรวมแอปจะแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2025 เพราะจากเดิมแอปถูกพัฒนาขึ้นมาสำหรับในธุรกิจมือถือ ทำให้เมื่อมีการเพิ่มส่วนของทรูออนไลน์ ทรูวิชั่นส์ และอื่นๆ เข้ามา ทำให้ต้องทยอยรับฟังความต้องการของผู้ใช้เพื่อปรับปรุงแอปให้รองรับการใช้งานที่ดีที่สุด