SKY ICT เผยผลประกอบการครึ่งปีรายได้ 1,272 ล้าน กำไรสุทธิ 165 ล้าน โต 575% เตรียมต่อยอดความเชี่ยวชาญภายใต้การมุ่งสู่ Tech Company หลังมีแบ็กล็อก 2.3 หมื่นล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ เชื่อครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่องหลังเปิดประเทศทำรายได้จากโครงการเกี่ยวเนื่องกับสนามบินเติบโต วาง SAWASDEE by AOT ขึ้นแอปท่องเที่ยวในไทยคู่ใจนักเดินทาง
นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 (เม.ย.-มิ.ย.2565) บริษัทสามารถทำรายได้รวม 804 ล้านบาท ส่งผลให้ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2565 (ม.ค.-มิ.ย.2565) บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,272 ล้านบาท มีกำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือนอยู่ที่ 165 ล้านบาท เติบโต 575% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY%)
“SKY ยังคงเดินหน้าขยาย Tech Ecosystem ด้วยการผนึกความแข็งแกร่งกับพันธมิตรทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีและด้านความปลอดภัย เพื่อให้สกาย ไอซีทีเป็น Tech Company ที่มีศักยภาพโดดเด่น พร้อมรองรับทุกความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ซึ่งจะสร้างการเติบโตให้บริษัทอย่างก้าวกระโดด”
ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 2/2565 บริษัทมีงานที่รอส่งมอบตามสัญญาในอนาคตอยู่ทั้งสิ้นประมาณ 23,000 ล้านบาท โดยในครึ่งหลังปี 2565 คาดว่าจะมีรายได้จากงานที่รอส่งมอบโครงการภาครัฐหลายโครงการ เช่น ระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (Common Use Passenger Processing System : CUPPS) และโครงการการให้บริการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) รวมกับโครงการที่อยู่ในแผนงานที่จะเพิ่มรายได้ให้บริษัทอย่างต่อเนื่องจากสัญญาใหม่จะสร้างการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญให้บริษัทไม่ต่ำกว่า 20%
สำหรับสถานการณ์การดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากกระแสการท่องเที่ยวไทยที่กำลังกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังการเปิดประเทศ โดยข้อมูลจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ระบุว่า ช่วงครึ่งปีแรกมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นทุกเดือน และคาดว่าในไตรมาส 4/65 จะมีปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยสูงกว่า 1.6 แสนคนต่อวัน
ส่งผลให้โครงการต่างๆ ของสกาย ไอซีทีที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางทางอากาศและรับรู้รายได้ตามจำนวนผู้โดยสารขาเข้า ผู้โดยสารขาออก ผู้โดยสารผ่าน และผู้โดยสารเปลี่ยนลำ เช่น โครงการการให้บริการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) โครงการประมวลผลรายการข้อมูลสำหรับฐานข้อมูลการเดินทางของผู้โดยสาร (PNR) จะมีโอกาสรับรู้รายได้เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบปีก่อนหน้า
ขณะเดียวกัน บริษัทยังเดินหน้าตามแผน CONNECTING THAILAND เชื่อมต่อเทคโนโลยีทันสมัยเข้ากับการดำเนินชีวิตของผู้คน และเชื่อมต่อระบบนิเวศทางเทคโนโลยีของประเทศไทยให้พร้อมเดินหน้าสู่อนาคตอย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้บริษัทได้นำกลยุทธ์ Advanced Tech หรือการผสานหลากเทคโนโลยีมาทำงานร่วมกัน มาช่วยยกระดับการท่องเที่ยวประเทศไทยให้พร้อมรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวจำนวนมากในช่วงปลายปี ด้วยการผนึกกำลังครั้งใหญ่ร่วมกับพันธมิตรสัญชาติไทยจากหลากหลายธุรกิจ
ร่วมกันเสริมความแข็งแกร่งให้แอปพลิเคชัน “SAWASDEE by AOT” พร้อมสู่การเป็น Thai Travel Super App เพื่อนคู่ใจนักท่องเที่ยวที่มีฟีเจอร์สำคัญรองรับทุกความต้องการตลอดการเดินทาง ซึ่งเตรียมจะเปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการภายในเดือน ต.ค.นี้