ในยุคที่ความคิดสร้างสรรค์กลายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างเรื่องราว จนก่อให้เกิดการสร้างรายได้ และนำพาให้ธุรกิจเติบโต อินสตาแกรม (Instagram) หรือ IG กลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางของอีคอมเมิร์ซที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยปลดล็อกการเติบโต พร้อมกับขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล
ชวดี วงศ์พยัต ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจในตลาดขนาดกลาง ของ Meta ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ผู้คนทั่วโลกเข้ามาใช้งานอินสตาแกรมในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งการเก็บบันทึกความทรงจำ ใช้เป็นช่องทางการสื่อสาร รวมถึงในภาคธุรกิจที่เลือกใช้เป็นช่องทางสำหรับการทำธุรกิจ
ที่ผ่านมา มีธุรกิจ SMEs ที่เริ่มมาจากการใช้อินสตาแกรมสร้างการเติบโต โดยข้อมูลจากบริษัทวิจัยอิปซอสส์ ชี้ให้เห็นว่ากว่า 82% ของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ยอมรับว่าอินสตาแกรมช่วยให้ทำตามเป้าหมายของธุรกิจ และ 74% ระบุว่าอินสตาแกรมช่วยให้ธุรกิจเติบโต
การเติบโตในอินสตาแกรมเกิดขึ้นทั้งจากการที่ผู้ประกอบการสร้างสรรค์คอนเทนต์ในลักษณะที่ผู้บริโภคชื่นชอบเพื่อบ่งบอกเรื่องราวของแบรนด์ ทำให้ผู้ใช้งานเข้าถึงสินค้า และผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น (Discovery Commerce) รวมถึงการมีช่องทางอย่างการส่งข้อความหากัน (Direct Message) ทำให้แบรนด์สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้ง่าย
จากผลสำรวจยังพบว่า 52% ของ Gen Z เห็นด้วยว่าอินสตาแกรมเป็นตัวช่วยในการสร้างความสัมพันธ์และสร้างการสนทนากับแบรนด์ ในขณะที่ 45% ของคนไทยในกลุ่ม Gen Z ยินดีที่จะแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับความสนใจส่วนตัวของตัวเองกับธุรกิจผ่าน Instagram Direct
“ในยุคดิจิทัลนี้ผู้คนเชื่อมต่อกันมากขึ้น และการเชื่อมต่อออนไลน์กลายเป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน แบรนด์และธุรกิจต้องมองหาวิธีการในการสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมาย ในปัจจุบันอินสตาแกรมมีบทบาทเป็นเหมือนสะพานเชื่อมการซื้อขายที่ขับเคลื่อนด้วยความคิดสร้างสรรค์ หรือ Creative Commerce โอกาสที่ช่วยให้ธุรกิจไทยเติบโต”
อย่างไรก็ตาม ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ได้มีความตรงไปตรงมาเหมือนเมื่อก่อน การมีหน้าร้านเพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ แต่ต้องมีช่องทางดิจิทัลที่เข้ามาช่วยเล่าเรื่องราวของแบรนด์ พอมีแบรนด์ที่สร้างความแตกต่าง มีเรื่องราวที่น่าสนใจ ทำให้เกิดเป็นวัฒนธรรม สร้างไวรัล และคอมมูนิตีทำให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วม เกิดความผูกพันกับแบรนด์ และครีเอเตอร์
“อินสตาแกรมเข้ามาช่วยสร้างการเติบโตได้ผ่านการใช้ความคิดสร้างสรรค์ มีความต้องการที่จะสร้างการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ ผลักดันให้เกิดการเติบโตทางธุรกิจ รวมถึงมีบทบาทสำคัญในทุกกระบวนการตัดสินใจซื้อ”
ที่สำคัญ จากข้อมูลก่อนหน้านี้พบว่าผู้บริโภคชาวไทยรุ่นใหม่มีแนวโน้มซื้อสินค้าบนอินสตาแกรมมากกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ ถึง 2 เท่า ไม่ได้มีความต้องการใช้งานเพื่อค้นพบสินค้าใหม่ๆ เพียงอย่างเดียว แต่มีความต้องการซื้อด้วย และที่สำคัญคือการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะกลายเป็นกำลังซื้อหลักในอนาคต ซึ่ง Gen Z กว่า 48% ระบุว่าอินสตาแกรมทำให้รู้จักแบรนด์ และร้านค้าใหม่ๆ
ไม่ใช่แค่เฉพาะตลาดในประเทศไทยเท่านั้นเพราะอินสตาแกรมยังสามารถขยายการเติบโตไปยังต่างประเทศได้อีกด้วย เพราะจากผลสำรวจพบว่า ธุรกิจส่งออกผ่านช่องทางดิจิทัลมีโอกาสเติบโตถึง 280% ใน 5 ปีข้างหน้า กระตุ้นให้การสร้างสรรค์เรื่องราว และคอนเทนต์ของแบรนด์ไม่ได้จำกัดเฉพาะภาษาไทยเพียงอย่างเดียว
***Reels เพิ่มระยะเวลาใช้งานบนแพลตฟอร์ม
ขณะเดียวกัน การเพิ่มเครื่องมือใหม่ๆ ของอินสตาแกรมเข้ามาอย่างฟีเจอร์วิดีโอสั้น Reels ทั้งบนอินสตาแกรมและเฟซบุ๊กช่วยกระตุ้นให้ผู้คนใช้งานแพลตฟอร์มของ Meta มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญ Reels มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในแง่ของการเพิ่มระยะเวลาใช้งานอินสตาแกรมเพิ่มขึ้น 40%
“จากผู้ใช้งาน Meta กว่า 3.9 พันล้านคน หรือเทียบเป็นครึ่งหนึ่งของประชากรโลก มีการใช้งาน Reels ราว 2 แสนล้านครั้งในแต่ละวัน โดย 2 ใน 3 ไม่ได้เพียงแค่รับชม แต่ยังมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าที่ทำตลาดผ่านครีเอทีฟคอนเทนต์เหล่านั้นด้วย”
โดยจากรายงาน Instagram Thailand Gen Z พบว่าคน Gen Z ชื่นชอบดนตรี เกมและการแสดงความคิดเห็น ส่วนคอนเทนต์ยอดนิยมบน Reels จากกลุ่มคน Gen Z ชาวไทยส่วนมากมีเนื้อหาเกี่ยวกับวันหยุดและการเดินทาง Dance Challenge คลิปเบื้องหลัง การใช้ฟิลเตอร์ต่างๆ มีม และแมว
แสดงให้เห็นว่า Instagram Reels ไม่ได้ถูกใช้งานเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ในมุมของผู้ประกอบการธุรกิจยังเป็นโอกาสในการเข้าถึง ทำให้ลูกค้าสนใจ และยังสามารถเปลี่ยนความสนุกมาเป็นคำสั่งซื้อได้
นอกจากนี้ อินสตาแกรมยังมีการเพิ่มฟีเจอร์ และแอปพลิเคชันใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้ง Threads ที่สร้างสถิติผู้ใช้งานเกือบ 100 ล้านรายไม่กี่เดือนหลังจากเปิดตัว รวมถึงช่องทางสื่อสารที่สามารถส่งข้อความหาผู้ติดตามจำนวนมากอย่าง Instagram Broadcast Channels รวมถึงการนำ AI มาช่วยในการคิดค้นแคปชันในตัวจัดการโฆษณา และเปิดโอกาสสร้างรายได้เพิ่มเติมสำหรับครีเอเตอร์ที่สมัครใช้งาน Meta Verified และช่วยเพิ่มการเข้าถึงของผู้ใช้งานด้วย
พร้อมกันนี้ อินสตาแกรมยังเปิดช่องทางให้แบรนด์ และครีเอเตอร์สามารถสร้างธุรกิจร่วมกันได้ผ่าน Branded Content และ Partnership Ads ในขณะที่ครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามจะเปิดให้ผู้ใช้ Subscribe เพื่อเข้าถึงเนื้อหาเอ็กซ์คลูซีฟ รวมถึงฟีเจอร์อย่าง Instagram Gifts ให้ส่งของขวัญให้ครีเอเตอร์ที่ชื่นชอบได้แล้วในไทย
ปัจจุบัน อินสตาแกรมมีผู้ใช้งาน 2 พันล้านคนทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z ที่กลายเป็นว่า อินสตาแกรมกลายเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยปลดล็อกการเติบโตทางธุรกิจ โดยเฉพาะการสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่เลือกใช้อินสตาแกรมมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล
