xs
xsm
sm
md
lg

ไทยแถวหน้าตลาดโลก! ใช้เครื่องมือ Generative AI ทำงาน-พักผ่อนไม่แพ้ตะวันตก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การสำรวจล่าสุดพบผู้บริโภคไทยมากกว่า 1 ใน 3 เคยใช้เครื่องมือด้าน Generative AI เมื่อทำงานและพักผ่อน สัดส่วนนี้ใกล้เคียงกับตัวเลขในออสเตรเลีย และยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยรวมในกลุ่มตัวอย่าง 10,000 รายที่อาศัยในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เดนมาร์ก และเยอรมนี

แอนดรูว์ เมลล์ Client Partner ประจำภูมิภาคอาเซียน บริษัท ปับลิซีส เซเปียนท์ (Publicis Sapient) กล่าวว่า ปับลิซีส เซเปียนท์ได้ทำการสำรวจผู้บริโภคใน 7 ประเทศเพื่อค้นหาถึงมุมมองต่อ Generative AI และวิธีที่แบรนด์ต่างๆ สามารถใช้เทคโนโลยีใหม่นี้เพื่อให้ได้ประโยชน์และผลตอบแทนที่ดีที่สุดจากการลงทุนด้านประสบการณ์ของลูกค้า และพบว่าประเทศไทยสามารถเป็นผู้นำในการเปิดรับในการใช้เครื่องมือประเภท Generative AI

“เรารู้สึกตื่นเต้นถึงความเป็นไปได้ที่ Generative AI จะสามารถยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าได้อย่างแตกต่างมากมายหลายด้าน จากผลการสำรวจได้แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยสามารถเป็นผู้นำในการเปิดรับในการใช้เครื่องมือประเภท Generative AI ซึ่งทำให้เราหวังว่าจะได้ร่วมมือทำงานกับพันธมิตรและลูกค้าของเราเพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมเหล่านี้ และพัฒนาโซลูชันที่จะสามารถเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต เล่น และวิธีทำงานของพวกเรา”


ปับลิซีส เซเปียนท์ มองว่าวันนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการปฏิวัติทางดิจิทัลที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในรูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนด้วยการนำเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาใช้ ทั้งนี้ Generative AI (GenAI) ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่แหวกแนวที่สร้างความแตกต่างจากสิ่งที่เคยมีมาและกำลังได้รับความนิยมในทุกอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก ตั้งแต่การใช้งานด้วยการสั่งงานด้วยเสียง (Voice assistants) ไปจนถึงแพลตฟอร์มการจดจำใบหน้า (Facial recognition) และเครื่องมือสำหรับผู้บริโภคอื่นๆ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในแต่ละวันอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย

รายงานประจำปี Guide to Next ฉบับล่าสุดของปับลิซีส เซเปียนท์ เป็นรายงานที่ให้ภาพรวมและเทรนด์เกี่ยวกับดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันสำหรับธุรกิจ ครอบคลุมถึงรายงานด้าน Generative AI ซึ่งอ้างอิงจากการสำรวจผู้บริโภคมากกว่า 10,000 รายทั่วสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เดนมาร์ก เยอรมนี และประเทศไทย โดยผลสำรวจพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่กว่า (78%) เคยได้ยินเกี่ยวกับ GenAI ในขณะที่มีเพียง 30% ที่เคยใช้ GenAI อย่างไรก็ตาม จากกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยจำนวนทั้งหมด 2,061 รายนี้ พบว่าผู้บริโภคมากกว่าหนึ่งในสาม (35%) เคยมีประสบการณ์ใช้เครื่องมือประเภท GenAI ในเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยเป็นผู้นำตลาดโลกในแง่ของการใช้ GenAI ควบคู่ใกล้เคียงไปกับผู้บริโภคชาวออสเตรเลีย (38%)


การสำรวจในครั้งนี้พบข้อมูลเชิงลึกถึงความคาดหวังด้านประสบการณ์ GenAI ขององค์กร เช่น ความคาดหวังว่า Generative AI จะช่วยยกระดับประสบการณ์ในด้านต่างๆ โดยเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ใช้ GenAI (43%) ต้องการให้ผู้ประกอบการและแบรนด์ต่างๆ ใช้เทคโนโลยีใหม่นี้ในการปรับปรุงประสบการณ์โดยรวมของลูกค้า ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหวังของผู้บริโภคชาวไทยโดยทั่วไป โดยมากกว่า 1 ใน 2 (55%) คาดหวังว่า GenAI จะปรับปรุงประสบการณ์โดยรวมเมื่อลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ และ/หรือผลิตภัณฑ์และบริการขององค์กร

ทั้งนี้ จากผลการสำรวจนี้พบว่าองค์กรต่างๆ สามารถพัฒนากลยุทธ์ 3 ประการที่จะช่วย GenAI สร้างประโยชน์ให้ลูกค้าของตนเอง ประการแรก องค์กรควรมุ่งเน้นไปที่การวิจัยผลิตภัณฑ์และการค้นพบเพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ค้นหาที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นข้อตระหนักหลักสำหรับผู้เชี่ยวชาญและมือใหม่ของ GenAI

นอกจากนี้ AI ยังถูกโฟกัสให้เน้นไปที่การช่วยให้ผู้บริโภคค้นพบข้อเสนอที่ดีที่สุดท่ามกลางสถานการณ์ที่ค่าครองชีพและอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นนี้ และท้ายที่สุด การลงทุนในการบริการลูกค้าที่ขับเคลื่อนด้วย GenAI เพื่อเปิดให้ลูกค้าสามารถทำการเปลี่ยนหรือคืนสินค้าโดยอัตโนมัติได้อย่างราบรื่น

"ในขณะที่ GenAI จะสามารถนำไปใช้เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าได้หลากหลายวิธี แอปพลิเคชันด้านธุรกิจค้าปลีกถือว่ามีการใช้งานที่กว้างขวางมากที่สุด ในบรรดาผู้บริโภคทั่วโลกที่เคยใช้ GenAI นั้น พบว่าผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่ (97%) รู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่ GenAI จะนำมาพัฒนาประสบการณ์การชอปปิ้งของพวกเขาได้อย่างไรบ้าง" การสำรวจระบุ


ในภาพรวม ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้ใช้ GenAI โดยเฉลี่ยมากขึ้นแห่งหนึ่ง ย่อมจะทำให้การพัฒนา GenAI ส่งผลกระทบในมุมกว้างและมากยิ่งขึ้น โดย 86% ของผู้ใช้ GenAI ทั้งหมดในประเทศไทย (เทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 63%) รายงานว่า GenAI ส่งผลกระทบและสร้างความตื่นเต้นในประสบการณ์การชอปปิ้ง ดังนั้น องค์กรต่างๆ จึงควรพิจารณานำระบบช่วยแชตแบบสนทนา (Conversational chat assistant) ซึ่งเป็นการใช้งาน GenAI ที่กำลังได้รับความนิยมมาใช้งาน ทั้งนี้ เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ใช้ GenAI ทั่วโลก (45%) มีแนวโน้มอย่างมากหรือสูงมากที่จะใช้แอปพลิเคชันเทคโนโลยีการสนทนาสำหรับซื้อสินค้าและบริการด้านการเดินทางท่องเที่ยวและการพักผ่อน ผู้ใช้งาน GenAI ในประเทศไทยจำนวนถึง 63% ก็มีแนวโน้มที่จะทำเช่นนั้นเช่นกัน

ในอีกด้าน การสำรวจพบว่าจริยธรรมยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะนอกเหนือจากความกังวลทั่วไปเกี่ยวกับผลกระทบของ GenAI ต่อความมั่นคงในงานในอนาคตอันใกล้นี้ ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงวิตกเกี่ยวกับเนื้อหาที่ผลิตโดย GenAI และความปลอดภัยในการใช้เครื่องมือ โดยมีเพียง 21% เท่านั้นที่ไว้วางใจผลลัพธ์ของ GenAI

และแม้ว่าผู้บริโภคชาวไทยจะเชื่อถือเนื้อหาและผลลัพธ์ของ GenAI มากกว่า (44%) และถือว่าปลอดภัยที่จะใช้งาน (42%) แต่องค์กรต่างๆ จะต้องแน่ใจในดำเนินการตามหลักจริยธรรมต่อไปเพื่อสร้างความไว้วางใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเพื่อการรักษาลูกค้าในระยะยาว ซึ่งกลยุทธ์ต่างๆ รวมถึงการลงทุนในการพัฒนาตัวควบคุมปัญญาประดิษฐ์ในกลุ่มโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Guardrails for large language models: LLM) เพื่อส่งเสริมการตอบสนองที่แม่นยำ การรักษาความปลอดภัยข้อมูลผู้บริโภคและ/หรือลูกค้าส่วนตัวที่มักเปิดเผยด้วยแชตบอต และการค้นหาในรูปแบบการสนทนา รวมถึงยึดมั่นสร้างความโปร่งใสอันแข็งแกร่งโดยอาศัยการสื่อสารที่ชัดเจนของแหล่งข้อมูลเป็นสำคัญ


กำลังโหลดความคิดเห็น