เฟซบุ๊ก (Facebook) เปิดช่องให้ผู้ใช้ทุกคนสร้างโปรไฟล์เพิ่มเติมได้สูงสุด 4 โปรไฟล์ สามารถสลับไปมาระหว่างกันได้โดยไม่ต้องออกจากระบบ ถือเป็นการเปิดศักราชฟีเจอร์หลายโปรไฟล์ส่วนบุคคล หรือ multiple personal profiles feature เพื่อให้ผู้ใช้สามารถแยกโปรไฟล์ตามการใช้งาน อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ทุกกลุ่ม
เมต้า (Meta) ต้นสังกัด Facebook ระบุในแถลงการณ์ถึงรายละเอียดฟีเจอร์ใหม่ว่าผู้ใช้ Facebook จะสามารถสร้างโปรไฟล์เสริมเพื่อตอบโจทย์ประสบการณ์หลากหลายโดยไม่ต้องสร้างบัญชีใหม่ โดยผู้ใช้สามารถสร้างโปรไฟล์เสริมส่วนตัวจาก 1 บัญชีผู้ใช้หลักเพื่อจัดการประสบการณ์การใช้งานบน Facebook ที่แตกต่างกันไป เช่น สามารถสร้าง 1 โปรไฟล์ไว้สำหรับติดตามอัปเดตเกี่ยวกับเรื่องอาหารที่ชื่นชอบ และอีกโปรไฟล์ไว้สำหรับติดตามข้อมูลข่าวสารของเพื่อนฝูงและครอบครัว
"แต่ละโปรไฟล์จะมี Feed เฉพาะที่นำเสนอเนื้อหาตามความสนใจ และสามารถสลับการใช้งานโปรไฟล์ได้อย่างง่ายดายโดยไม่จำเป็นต้องล็อกอินใหม่ และโปรไฟล์ทุกโปรไฟล์ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรฐานชุมชนของ Facebook อย่างเคร่งครัด"
Meta ย้ำว่าการแยกโปรไฟล์ตามการใช้งาน จะช่วยให้การใช้ชีวิตเป็นเรื่องง่ายขึ้น นี่จึงเป็นการอำนวยความสะดวกให้ทุกคนสามารถปรับแต่งประสบการณ์บน Facebook ตามที่ต้องการ ด้วยการสร้างโปรไฟล์ส่วนตัวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้รายใหม่ หรือใช้งาน Facebook มาอย่างยาวนานแล้ว
"คุณอาจต้องการที่จะแบ่งแยกความสัมพันธ์ส่วนตัวกับความสัมพันธ์ในที่ทำงานออกจากกันอย่างชัดเจน หรือคุณอาจต้องการให้โปรไฟล์ใดโปรไฟล์หนึ่งเชื่อมต่อกับชุมชนที่คุณเป็นสมาชิก ในขณะที่มีอีกโปรไฟล์ไว้พูดคุยกับกลุ่มเพื่อนโดยเฉพาะ การสร้างโปรไฟล์ส่วนตัวตามการใช้งานที่หลากหลายจะช่วยให้คุณจัดระเบียบประสบการณ์บนแพลตฟอร์มได้ง่ายขึ้น โดยเพิ่มความสามารถในการเลือกผู้คนที่คุณต้องการแชร์เนื้อหาด้วย รวมถึงประเภทเนื้อหาที่คุณต้องการติดตาม โดยจำแนกตามความสนใจที่หลากหลายในชีวิตของคุณ เช่น คุณสามารถสร้างโปรไฟล์หนึ่งไว้สำหรับติดตามอัปเดตเกี่ยวกับเรื่องอาหารที่คุณชื่นชอบ และอีกโปรไฟล์ไว้สำหรับติดตามข้อมูลข่าวสารของเพื่อนฝูงและครอบครัวของคุณ"
ก่อนหน้านี้ Facebook มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมประสบการณ์ด้วยการเลือกกลุ่มผู้ชมที่ต้องการแชร์เนื้อหาด้วย แต่หลังจากการทดสอบฟีเจอร์การสร้างโปรไฟล์เสริมในปีที่ผ่านมา Meta ย้ำว่าได้รับความคิดเห็นจากผู้ใช้ที่กล่าวว่าการจัดระเบียบกลุ่มเพื่อน หรือชุมชน และความสนใจต่างๆ อย่างชัดเจนมากขึ้น ช่วยให้ทุกคนรู้สึกมีอิสระในการแสดงออกและรู้สึกมีส่วนร่วมและสร้างความใกล้ชิดกันมากขึ้น
"เราได้เห็นความสำเร็จจากการแยกบัญชีบน Instagram ตามความสนใจมาแล้วก่อนหน้านี้ เราจึงรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้นำตัวเลือกดังกล่าวมาให้บริการบนแพลตฟอร์มของ Facebook โดยความสามารถในการสร้างสรรค์โปรไฟล์เสริมส่วนตัวที่หลากหลายได้เริ่มทยอยให้บริการแล้วทั่วโลกตั้งแต่วันนี้ และจะขยายการให้บริการอย่างต่อเนื่องภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า"
ขั้นตอนการใช้งานฟีเจอร์ใหม่ เริ่มที่การเลือกชื่อผู้ใช้และ @username สำหรับโปรไฟล์ใหม่ๆ ที่สามารถสร้างได้สูงสุดถึง 4 โปรไฟล์ จากนั้นสามารถใช้โปร์ไฟล์ที่สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อกับผู้คนหรือชุมชนที่เลือกไว้ เพื่อให้แต่ละโปร์ไฟล์มี Feed ที่แตกต่างกันด้วยเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจที่มีร่วมกับคนอื่น
แม้การสลับการใช้งานโปรไฟล์ต่างๆ สามารถทำได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องล็อกอินใหม่ แต่การเปิดตัวในครั้งนี้บางฟีเจอร์ของ Facebook เช่น Dating, Marketplace, Professional Mode และการชำระเงินจะยังไม่สามารถเข้าถึงได้จากโปรไฟล์ส่วนตัวที่ถูกสร้างเพิ่มในช่วงเริ่มต้น
"สำหรับการส่งข้อความในโปรไฟล์ส่วนตัวที่ถูกสร้างเพิ่ม จะใช้ได้ภายในแอป Facebook และบนเว็บไซต์ก่อนเท่านั้น โดยเราวางแผนที่จะขยายการรองรับ Messenger ให้โปรไฟล์เพิ่มเติมเหล่านี้ในอีกไม่เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ ตัวเลือกในการสร้างโปรไฟล์ส่วนตัวเพิ่มเติมจะให้บริการกับบัญชีผู้ใช้งานที่บรรลุนิติภาวะและมีคุณสมบัติตามเกณฑ์เท่านั้น"
ผู้สนใจสามารถตั้งค่าหลังจากสร้างโปรไฟล์ใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยค่ามาตรฐาน (Default) จะครอบคลุมที่ข้อมูลการแจ้งเตือน และความเป็นส่วนตัวจากโปรไฟล์เดิม จะไม่ส่งผลต่อโปรไฟล์อื่นๆ นอกจากนี้ การตั้งค่าบางอย่างจะจัดการได้แตกต่างกันในแต่ละโปรไฟล์ เช่น การเลือกผู้ที่สามารถเห็นโพสต์บนโปรไฟล์ของคุณได้ หรือเลือกผู้ที่สามารถเพิ่มเป็นเพื่อนได้ แนะนำให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวทุกครั้งที่สร้างโปรไฟล์ใหม่ โดยจะสามารถอัปเดตการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้ทุกเมื่อ ทั้งนี้ โปรไฟล์ Facebook หลักจะไม่แสดงให้เห็นว่าใครมีโปรไฟล์ส่วนตัวอื่นใดบ้าง
ในภาพรวม Meta ย้ำว่าจะยังคงยึดหลักปฏิบัติเดิมในด้านความถูกต้องของตัวตน และความรับผิดชอบต่อสังคม โดยจะอิงตามนโยบายความถูกต้องของบัญชีและตัวตนที่แท้จริง (account integrity and authentic identity) ที่บังคับใช้มาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ตัวนโยบายระบุว่าโปรไฟล์หลักของผู้ใช้งานจะต้องตรงกับชื่อ-นามสกุลจริง ทั้งนี้ ทุกคนสามารถใช้ชื่อใดก็ได้ในการสร้างโปรไฟล์เสริมเพิ่มเติม แต่ไม่สามารถใช้ชื่ออื่นสำหรับโปรไฟล์หลัก (บัญชีผู้ใช้หลัก) ได้
"บริษัทฯ ยังคงรักษาจุดยืนเดิมในการป้องกันการแอบอ้างเป็นผู้อื่นและการบิดเบือนข้อมูลระบุตัวตน ดังนั้นโปรไฟล์อื่นๆ ของคุณจะไม่สามารถแอบอ้างเป็นผู้ใช้อื่น หรือบิดเบือนข้อมูลระบุตัวตนของคุณได้ รวมทั้งอายุและตำแหน่งที่อยู่"
Meta ขีดเส้นใต้ 200 เส้นว่าทุกโปรไฟล์จะยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรฐานชุมชนของ Facebook โดยหากบัญชีผู้ใช้ใดมีการฝ่าฝืนมาตรฐานชุมชนไป หรือมีการละเมิดบ่อยครั้ง ผู้ใช้รายนั้นจะไม่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์นี้และสร้างโปรไฟล์เสริมใหม่ได้ และหากมีการฝ่าฝืนกฎบ่อยครั้งโดยการใช้โปรไฟล์เสริมใหม่ที่สร้างขึ้น ทาง Facebook จะมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อจัดการกับบัญชีหลัก และทุกโปรไฟล์ที่เกี่ยวข้องของบัญชีผู้ใช้รายนั้น
ที่สำคัญ หากผู้ใดฝ่าฝืนนโยบายของบริษัทฯ บ่อยครั้งโดยใช้โปรไฟล์ส่วนตัวเสริมที่สร้างขึ้น ระบบของ Facebook จะสามารถตรวจจับโปรไฟล์ดังกล่าวได้ และจะสามารถใช้มาตรการที่เหมาะสมจนถึงขั้นลบโปรไฟล์ส่วนตัวเสริมนั้นๆ หรือทุกโปรไฟล์ รวมถึงบัญชีหลัก
และหากผู้ใช้มีการบล็อกโปรไฟล์เสริมของบัญชีผู้ใช้ใด ทาง Facebook จะดำเนินการบล็อกโปรไฟล์อื่นที่อยู่ภายใต้บัญชีเดียวกันนั้นโดยอัตโนมัติ เพื่อปกป้องไม่ให้โปรไฟล์เสริมที่ถูกบล็อกไปนั้นมีการติดต่อหรือพูดคุยกับผู้ใช้นั้นได้ โดยที่จะไม่มีการเปิดเผยตัวตนของเจ้าของบัญชีนั้น
"อีกมาตรการที่ Facebook จะดำเนินการคือการยกระดับบทลงโทษจนถึงระดับบัญชีผู้ใช้หลัก ดังนั้น การกระทำใดๆ ที่ละเมิดมาตรฐานชุมชนผ่านโปรไฟล์เสริม จะส่งผลกระทบไปถึงโปรไฟล์หลักของผู้ใช้ด้วย" Meta ทิ้งท้าย
