ติ๊กต็อก (TikTok) มุ่งสร้างความเข้าใจเรื่องความปลอดภัยให้ทุกภาคส่วน เดินหน้า 7 แนวทางสร้างพื้นที่ปลอดภัยบนโลกดิจิทัล TikTok หวังสร้างชุมชนสีขาวในสังคมออนไลน์ไทย 61.21 ล้านคน
แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดฮิต TikTok ให้เหตุผลถึงการกำหนดแนวทางสร้างพื้นที่ปลอดภัยของบริษัท ว่าโลกอินเทอร์เน็ตมีอิทธิพลกับความเป็นอยู่ของผู้คนสูง โดยมากกว่าการทำหน้าที่เชื่อมต่อผู้คนเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้แพลตฟอร์มล้วนจำเป็นต้องพัฒนานโยบายด้านความปลอดภัย เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากโลกอินเทอร์เน็ตที่อาจเกิดขึ้นได้
"เนื่องด้วยคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มที่มีความหลากหลายเต็มเปี่ยมไปด้วยสาระและความบันเทิงนี้ทำให้ TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานอย่างแพร่หลายในทุกกลุ่ม TikTok ตระหนักดีถึงบทบาทสำคัญของแพลตฟอร์ม จึงมุ่งมั่นทุ่มเทสร้างพื้นที่ปลอดภัยบนโลกดิจิทัล ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มด้านความบันเทิงที่น่าเชื่อถือ พร้อมรักษามาตรฐานการเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ความสำคัญด้านสภาวะแวดล้อมเชิงบวกเพื่อให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถแสดงออกได้อย่างมั่นใจโดยไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น เพราะพื้นที่ที่ปลอดภัยจะส่งเสริมให้ผู้ใช้งานได้จุดประกายความคิดสร้างสรรค์และความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่" TikTok ระบุ
ปัจจุบัน รายงานข้อมูลเชิงลึกการใช้งานอินเทอร์เน็ตของคนไทยจาก Data Reportal แสดงให้เห็นว่าปัจจุบันประเทศไทยมีตัวเลขผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากกว่า 61.21 ล้านคน หรือมากกว่า 85.3% ของจำนวนประชากรทั้งหมด
***7 มิติเพิ่มความปลอดภัย
TikTok ระบุว่าได้ผลักดันนโยบายด้านความปลอดภัยของผู้ใช้งานในหลากหลายมิติ ได้แก่ การต่อต้านข้อมูลที่บิดเบือนไม่เป็นความจริง (Anti-misinformation) ความปลอดภัยของผู้เยาว์ (Minor Safety) และสุขภาวะดิจิทัลและการให้ความรู้ทางด้านดิจิทัล (Digital Well-being and Digital Literacy) ผ่านการริเริ่มแนวทางการส่งเสริมความปลอดภัยต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้เกิดผลเชิงบวกในวงกว้าง
สำหรับด้านแรก การต่อต้านข้อมูลที่บิดเบือนไม่เป็นความจริง (Anti-Misinformation) TikTok อธิบายว่าเมื่อพฤติกรรมการรับข้อมูลข่าวสารของผู้ใช้งานในปัจจุบันขึ้นอยู่กับความเร็วและความกระชับของเนื้อหา แต่นอกจากความรวดเร็วในการนำเสนอเนื้อหาบนแพลตฟอร์มแล้ว ความถูกต้องของเนื้อหายังคงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่สามารถละเลยได้เช่นกัน
"TikTok ในฐานะแพลตฟอร์มมีความมุ่งมั่นอย่างมากที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ และร่วมกันต่อต้านข้อมูลที่บิดเบือนไม่เป็นความจริงจากแพลตฟอร์ม โดยที่ผ่านมา TikTok ได้มีการพัฒนาเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่เป็นทางการเกี่ยวกับสถานการณ์ที่อาจส่งผลต่อกระแสสังคมในช่วงเวลานั้นๆ ผ่านเครื่องมือต่างๆ เช่น Information Hub หรือ Information Tag และ Live Banner ที่จะปรากฏขึ้นบนวิดีโอหรือระหว่างการไลฟ์หากเนื้อหานั้นมีความเกี่ยวข้องกับประเด็นสังคมที่ควรได้รับข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เป็นทางการ นอกจากนี้ ยังได้มีการร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกในการตรวจสอบข้อมูลอย่าง Agence France-Presse ซึ่งเป็นสำนักข่าวระดับโลก รวมถึงการทำงานร่วมกับ COFACT ในแคมเปญต่างๆ การต่อต้านข้อมูลบิดเบือนที่ไม่เป็นความจริงคือหนึ่งในภารกิจของ TikTok ที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษามาตรฐานการเป็นแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือทั้งในปัจจุบันและอนาคต"
ด้านที่ 2 ความปลอดภัยของผู้เยาว์ (Minor Safety) TikTok ชี้ว่าหนึ่งในนโยบายที่ TikTok ได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอดคือ ความปลอดภัยของผู้เยาว์ เพื่อสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยให้ผู้ใช้กลุ่มนี้ได้แสดงออกอย่างมั่นใจและสร้างสรรค์
"เพราะความปลอดภัยของเยาวชนคือเรื่องที่ TikTok ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก โดยไม่อนุญาตให้มีเนื้อหาที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการถูกแสวงประโยชน์หรือได้รับอันตรายต่อจิตใจ ร่างกาย และพัฒนาการโดยสิ้นเชิง ในขณะเดียวกัน แพลตฟอร์มยังคำนึงถึงความสมดุลระหว่างประสบการณ์ของผู้ใช้และความห่วงใยของผู้ปกครอง โดยเปิดโอกาสให้เยาวชนและครอบครัวได้มีส่วนร่วมกับการเลือกประสบการณ์ที่เหมาะสมกับวัยและต่อยอดความคิดสร้างสรรค์"
เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว TikTok ได้มีการดำเนินการพัฒนา Family Pairing ให้ผู้ปกครองสามารถปรับแต่งตัวคัดกรองเนื้อหาและช่วยลดโอกาสในการรับชมเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมได้อย่างเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมถึงการจัดตั้ง Youth Council หรือสภาเยาวชนที่จะเปิดพื้นที่การรับฟังให้ผู้ใช้ที่เป็นเยาวชนได้มีโอกาสแบ่งปันประสบการณ์บนแพลตฟอร์ม รวมถึงมุมมองที่อยากเสนอแนะเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานเอง
ด้านที่ 3 สุขภาวะดิจิทัลและการให้ความรู้ทางด้านดิจิทัล (Digital Well-being and Digital Literacy) ด้านนี้ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายด้านความปลอดภัยที่ TikTok ได้ผลักดันมาโดยตลอดคือการสร้างสุขภาวะดิจิทัลที่ดีให้ผู้ใช้งานได้มีเกราะป้องกัน และสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์บนแพลตฟอร์มได้อย่างไร้กังวล ด้วยการสร้างองค์ความรู้และความเข้าใจในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยบนโลกดิจิทับแบบเชิงรุก ผ่านการสร้างพันธมิตรกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรอิสระ สื่อมวลชน รวมถึงเหล่าครีเอเตอร์ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนพื้นที่ปลอดภัยบนโลกดิจิทัล
ตัวอย่างเช่นการสร้าง #พื้นที่ปลอดภัยในการไถฟีด ที่ได้รวบรวมข้อมูลสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในการใช้สื่อออนไลน์ โดยให้ผู้ใช้เข้ามาร่วมแชร์ข้อมูลหรือเทคนิคที่เป็นประโยชน์ในแบบฉบับของตนเอง รวมทั้งการจัดเสวนาเพื่อให้ความรู้กับผู้ที่เกี่ยวข้องได้มาร่วมแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์การใช้พื้นที่ดิจิทัลของคนยุคปัจจุบันในการเชื่อมต่อกับชุมชน
*** White Community เกิด
TikTok มุ่งมั่นที่จะผลักดันการสร้างพื้นที่ปลอดภัยบนโลกดิจิทัลร่วมกับพันธมิตรในภาคส่วนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เมื่อเร็วๆ นี้ TikTok ได้ร่วมกับสื่อมวลชนในการจัดกิจกรรมเวิร์กชอปเพื่อสร้างความเข้าใจในนโยบายด้านความปลอดภัยและหลักเกณฑ์ของชุมชนหรือ Community Guidelines ให้สื่อมวลชนภายใต้หัวข้อ "White Community" ซึ่งประกอบไปด้วย นโยบาย (Policy) เครื่องมือด้านความปลอดภัย (Product) แนวทางปฏิบัติ (People) และการสร้างความร่วมมือกับเหล่าพันธมิตร (Partnership) เพื่อบรรลุเป้าหมายที่มีร่วมกัน บนพื้นฐานหลักเกณฑ์สำหรับชุมชนที่จะสร้างสมดุลระหว่างเสรีภาพทางการแสดงออกและการปกป้องภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้
ด้านที่ 4 ที่ TikTok ดำเนินการคือนโยบาย (Policy) ด้านความปลอดภัยที่ถูกสะท้อนผ่านหลักเกณฑ์สำหรับชุมชน (Community Guidelines) เพื่อรักษาไว้ซึ่งความสมดุล ศักดิ์ศรี และความเป็นธรรมของผู้ใช้ทุกคนบนแพลตฟอร์มอย่างเท่าเทียมโดยมีความครอบคลุม 7 หัวข้อหลัก ได้แก่ ความปลอดภัยและสวัสดิภาพของเยาวชน (Youth Safety and Well-Being) ความปลอดภัยและความสุภาพ (Safety and Civility) สุขภาพจิตและพฤติกรรม (Mental and Behavioral Health) เนื้อหาที่ละเอียดอ่อนและเหมาะสมสำหรับผู้ใหญ่ (Sensitive and mature themes) บูรณภาพและความจริงแท้ (Integrity and authenticity) สินค้าในควบคุมและกิจกรรมทางการค้า (Regulated goods and commercial activities) ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย (Privacy and security)
หลักเกณฑ์เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติร่วมกันของคนในชุมชน ซึ่งมุ่งหวังให้ทุกคนสามารถใช้แพลตฟอร์มได้อย่างปลอดภัยและมีสุขภาวะดิจิทัลที่ดี
"อย่างไรก็ตาม หากมีการตรวจพบการละเมิดหลักเกณฑ์สำหรับชุมชน แพลตฟอร์มจะมีการดำเนินการใน 3 ระดับ ได้แก่ เริ่มจากระงับการมองเห็นของวิดีโอ และเมื่อตรวจสอบบริบทของวิดีโอแล้วมีการละเมิดหลักเกณฑ์สำหรับชุมชนจริง วิดีโอดังกล่าวจะถูกดำเนินการลบ หากเพิกเฉยต่อนโยบายด้านความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม และยังคงมีการละเมิดหลักเกณฑ์สำหรับชุมชนซ้ำจะมีการดำเนินการลบบัญชีผู้ใช้" TikTok ย้ำ
ด้านที่ 5 เครื่องมือด้านความปลอดภัย (Product) ที่จะช่วยเป็นเกราะป้องกันให้แก่ผู้คนในชุมชน อีกหนึ่งแนวทางที่ TikTok ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้ใช้งานจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้คือเครื่องมือด้านความปลอดภัยซึ่งถูกออกแบบมาให้ครอบคลุมลักษณะการใช้งานและสามารถเข้าถึงได้ง่าย
ศูนย์ความปลอดภัยของ TikTok (Safety Center) เป็นหนึ่งในเครื่องมือด้านความปลอดภัยที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทำหน้าที่ในการให้ความรู้เกี่ยวกับนโยบายด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
TikTok ย้ำว่าการตั้งค่าเพื่อควบคุมด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวซึ่งผู้ใช้สามารถทำได้ผ่าน 1) การตั้งค่าบัญชีใช้งาน (Account Setting) เพื่อควบคุมข้อมูลส่วนตัว ความเป็นส่วนตัวของบัญชี และการเข้าถึงจากสาธารณะ 2) การควบคุมชุมชน (Community Controls) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดผู้ที่สามารถเข้าถึงวิดีโอ แสดงความคิดเห็น หรือส่งข้อความโดยตรงถึงได้ 3) การควบคุมคอนเทนต์ (Content Controls) ซึ่งจะถูกปรับตามการเลือกติดตามบัญชีใช้งานใหม่ๆ การติดตามแฮชแท็ก ความสนใจในเนื้อหาที่แสดงบนหน้าการค้นพบ (Discover) เพื่อให้การแสดงผลบนหน้าฟีด For You ตรงกับความสนใจและความเหมาะสมกับผู้ใช้งาน
ด้านที่ 6 แนวทางปฏิบัติ (People) ในการตรวจสอบเนื้อหาบนแพลตฟอร์ม TikTok ระบุว่าได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อตรวจสอบพื้นที่บนแพลตฟอร์มให้มีความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลาด้วยระบบการจัดการเนื้อหาแบบเชิงรุก หรือ Content Moderation ซึ่งจะทำงานผ่าน 2 ระบบหลักคือการใช้ machine learning ด้วยระบบคอมพิวเตอร์จะมีการคัดกรองเนื้อหาที่มีการละเมิดหลักเกณฑ์สำหรับชุมชน ควบคู่ไปกับการใช้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบกว่า 40,000 คน ในการพิจารณาบริบทของวิดีโอที่ได้รับการรายงานหรือมีความเสี่ยง ซึ่งจะปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้มั่นใจได้ว่าการตรวจสอบเนื้อหาบนแพลตฟอร์มเป็นไปอย่างเข้มงวด
และด้านที่ 7 การสร้างความร่วมมือกับเหล่าพันธมิตร (Partnership) เพื่อบรรลุเป้าหมายในการร่วมสร้างพื้นที่ปลอดภัยบนโลกดิจิทัล
การเดินหน้าสร้างพื้นที่ปลอดภัยบนโลกดิจิทัลนั้นเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่และไม่สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวโดยลำพัง TikTok จึงได้มีการจับมือและทำงานร่วมกับเหล่าพันธมิตร รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องในด้านใดด้านหนึ่งเพื่อทำให้องค์ประกอบในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยบนโลกดิจิทัลนั้นมีความครอบคลุมครบทุกด้าน โดยที่ผ่านมา TikTok ได้มีการจับมือกับทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรอิสระ และสื่อมวลชนทั้งจากประเทศไทยและระดับโลก
"TikTok มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนพื้นที่บนโลกออนไลน์ให้สามารถเปิดกว้างและตอบรับความคิดสร้างสรรค์และตัวตนของทุกคนได้อย่างปลอดภัยผ่านเนื้อหาความบันเทิงที่สร้างสรรค์ โดยเชื่อว่าการจัดกิจกรรมเวิร์กชอปในครั้งนี้จะเป็นการผลักดันให้เกิดสภาวะแวดล้อมบนโลกออนไลน์ที่ยั่งยืน" TikTok ทิ้งท้าย