xs
xsm
sm
md
lg

มุมมอง ‘ASUS’ ปรับฐานให้แข็งแกร่ง หาตลาดใหม่รักษาผู้นำคอนซูเมอร์พีซี (Cyber Weekend)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากภาวะที่เกิดขึ้นในตลาดคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการใช้ของผู้บริโภคที่เริ่มกลับไปสู่จุดเดิมในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์แพร่ระบาด จนทำให้ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาตลาดหดตัวลงถึง 18% และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสที่ตลาดจะทรงตัวอยู่ที่บวกลบไม่เกิน 5%

ทำให้สภาพตลาดที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอยู่ในช่วงการเปลี่ยนเครื่องทดแทนเครื่องรุ่นเดิมที่ไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากในฝั่งพีซีไม่ได้มีปัจจัยมาช่วยกระตุ้นอย่างเทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงซึ่งรวมถึงในตลาดเกมมิ่งที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ได้มีเกมพีซีในระดับ AAA ที่เข้ามาช่วย

ลีโอ เจิ้ง กรรมการผู้จัดการ เอซุส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ตลาดพีซีกลับมาเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการใช้งานล่วงหน้าที่เกิดขึ้นไปแล้ว จนทำให้ปัจจุบันตลาดพีซีกำลังย้อนกลับไปสู่ในช่วงที่ตลาดทรงตัวเทียบกับช่วงปี 2019 เพิ่มเติมด้วยกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นบางส่วนจากตลาดเกมมิ่งที่มีสัดส่วนในตลาดมากขึ้น

“ปัจจุบันตลาดโน้ตบุ๊กเกมมิ่งมีสัดส่วนในตลาดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 32-33% ซึ่งนับว่าเติบโตขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ เพราะความต้องการใช้งานโน้ตบุ๊กที่มีสเปกสูงถูกนำไปใช้งานทั้งเพื่อความบันเทิง รวมไปถึงการใช้ในมุมของครีเอเตอร์ที่ต้องการเครื่องไปใช้ในการตัดต่อ”


ในมุมของเอซุส เพื่อตอบรับกับตลาดครีเอเตอร์ที่เติบโตมากขึ้น และมีความต้องการที่ชัดเจนในแง่ของสเปกเครื่องที่ใช้งาน หน้าจอที่ให้ความแม่นยำของสีชัดเจน แต่ไม่ได้ต้องการเครื่องที่มีขนาดใหญ่เหมือนเกมมิ่ง จึงทำให้เกิดตลาดครีเอเตอร์เครื่องบางเบาขึ้นมาตอบโจทย์และมีสัดส่วนของกลุ่มนี้ในพอร์ตเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 5%

“แน่นอนว่าเมื่อมีการแยกตลาดครีเอเตอร์ออกมา ทำให้ตลาดเกมมิ่งที่แบรนด์ ROG และ TUF Gaming ทำตลาดอยู่ได้รับผลกระทบ แต่เชื่อว่าในระยะยาวจะทำให้ตลาดมีความชัดเจนขึ้น ซึ่งปัจจุบันเอซุสมีความแข็งแรงในตลาดเกมมิ่งเป็นอย่างมาก จากการเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งกว่า 45% ในส่วนของตลาดพีซีเกมมิ่ง”

หลังจากนี้ เอซุสมองว่าโอกาสที่ตลาดเกมมิ่งจะกลับมาเติบโตเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ จะเกิดขึ้นเมื่อบรรดาผู้ผลิตเกมหันมาลงทุนสร้างเกมที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อเครื่องใหม่เพื่อมาเล่นเกมที่ออกใหม่มากขึ้น เพราะในช่วงที่ผ่านมาตลาดเกมนับว่าโดนผลกระทบจากฝั่งของการ์ดจอที่ราคาพุ่งสูงขึ้นจากการนำไปใช้กับการขุดเหรียญสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ

รวมถึงการที่ผู้ผลิตการ์ดจออย่าง NVIDIA หันไปให้ความสนใจกับการผลิตชิปเซ็ตสำหรับการประมวลผล AI ที่สร้างรายได้มหาศาล ตามเทรนด์ของ Generative AI ที่เกิดขึ้น จึงทำให้กำลังการผลิตส่วนใหญ่หันไปให้ความสำคัญกับฝั่งของชิปประมวลผล AI แทน

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของตลาดที่เกิดขึ้นในช่วงสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันคือ การแข่งขันในตลาดพีซีที่ราคาต่ำกว่า 15,000 บาท ซึ่งหลายๆ แบรนด์ที่ต้องการชิงส่วนแบ่งตลาดมีการลดราคาเครื่องที่ค้างสต๊อกลงไปแข่งขันกันอย่างดุเดือด จนทำให้ปัจจุบันตลาดนี้มีสัดส่วนถึง 20-25%

“สิ่งที่เอซุสจัดการได้ดีในช่วงที่ผ่านมาคือการบริหารสต๊อกทำให้สินค้าที่เข้ามาเพียงพอกับความต้องการของลูกค้า ทำให้กลายเป็นว่าเอซุส สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดคอนซูเมอร์ไว้ได้ จากการที่มีส่วนแบ่งในตลาดระดับกลาง-บนของสินค้าทั้งในตระกูล Vivobook และ Zenbook”

***ROG Ally ผลตอบรับดีเกินคาด



ทั้งนี้ ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา เอซุส ได้มีการเปิดตลาดใหม่สำหรับอุปกรณ์พกพาอย่าง ROG Ally ซึ่งเป็นเครื่องเล่นเกมพีซีแบบพกพา ที่นำเข้ามาเจาะตลาดผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกม และมองหาอุปกรณ์พกพาเพื่อนำไปใช้เล่นเกมนอกสถานที่ เหมือนเป็นดีไวซ์ที่ 2 ของบรรดาเกมเมอร์

สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการเปิดตัว Ally Z1 Extreme คือได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคที่สนใจจำนวนมากจากการเปิดราคาในระดับที่เหมาะสม จนทำให้สินค้าล็อตแรกไม่เพียงพอจำหน่าย ก่อนเริ่มกลับสู่สถานการณ์ปกติในปัจจุบันซึ่งช่วยเปิดตลาดใหม่ให้แก่เอซุส

ขณะเดียวกัน เอซุสยังอยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะนำ ROG Ally Z1 ที่เป็นรุ่นสเปกรองลงมาเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเพิ่มเติมในช่วงไตรมาส 4 นี้ เพียงแต่กำลังศึกษาว่าจะเข้าไปเจาะตลาดไหนเพิ่มเติม เพราะถือเป็นดีไวซ์ที่เน้นเข้าไปเสริมกลุ่มผู้ที่เล่นเกมพีซี แต่ไม่ได้เข้าไปแข่งขันกับเครื่องเล่นเกมพกพาอย่าง Nintendo Switch

***จุดเปลี่ยนพีซี ปีหน้าได้เห็นฝั่ง ‘AI’ ช่วยทำงาน



ผู้บริหาร เอซุส ให้มุมมองเพิ่มเติมถึงปัจจัยที่จะทำให้ตลาดคอมพิวเตอร์กลับมาเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง คือการที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับ AI ในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมากขึ้น ซึ่งจะเกิดจากความร่วมมือตั้งแต่บรรดาผู้ผลิตชิปเซ็ตอย่าง Inel AMD และ NVIDIA ที่พัฒนาชิปเซ็ตที่สามารถประมวลผล AI เข้ามาเพิ่มเติม

ตามด้วยผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการอย่าง Microsoft และบรรดาผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ที่จะดึงประสิทธิภาพของชิปเซ็ตที่สามารถประมวลผล AI มาช่วยอำนวยความสะดวกของผู้บริโภคให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะการเรียนรู้รูปแบบการใช้งาน ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้รวดเร็วขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น

“เมื่อพีซีเริ่มนำ AI เข้ามาช่วย จะทำให้ผู้บริโภคทั่วไปเริ่มเห็นถึงความสำคัญในการเปลี่ยนเครื่องใหม่มากขึ้น เพราะจริงๆ แล้วผู้บริโภคสนใจที่จะเปลี่ยนเครื่องใหม่ใช้งาน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องทำให้ชีวิตในการใช้งานดีขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน”

ในระหว่างนี้ กลยุทธ์หลักของเอซุสคือการเสริมความแข็งแรงพื้นฐานที่ครอบคลุม 3 ส่วนหลักด้วยกันคือ 1.ผลิตภัณฑ์ 2.ช่องทางจำหน่าย และ 3.การทำตลาด ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาในแง่ของผลิตภัณฑ์เอซุสมีการนำเสนอนวัตกรรมเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง อย่างการนำโน้ตบุ๊กขนาด 16 นิ้ว เข้ามาทำตลาดแทน 15.6 นิ้ว เพื่อรับกับการใช้งาน รวมถึงการเลือกใช้หน้าจอแบบ OLED เข้ามาทำตลาด และกลายเป็นเทรนด์หลักที่เกิดขึ้นในเวลานี้

ขณะที่ในมุมของช่องทางการจำหน่าย เมื่อสินค้ามีคุณภาพที่ดีก่อให้เกิดความเชื่อมั่นของคู่ค้า ก็จะช่วยเสริมความมั่นใจของช่องทางจำหน่ายในการเพิ่มพื้นที่การแสดงสินค้าครอบคลุมทั่วประเทศ เช่นเดียวกับเรื่องของบริการหลังการขายที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องของการนำ On-Site Service เข้าไปบริการถึงที่ในกลุ่มสินค้าพรีเมียม และมีแผนที่จะขยายสู่สินค้าเมนสตรีมในอนาคต

สุดท้ายในแง่ของการตลาดเมื่อมีสินค้า คู่ค้า และบริการหลังการขายที่ครบถ้วน ทำให้การทำตลาดเพื่อสื่อสารไปยังผู้บริโภคง่ายขึ้น โดยเฉพาะในแง่ของการเป็นตัวเลือกแรกในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต


กำลังโหลดความคิดเห็น