xs
xsm
sm
md
lg

โนเกีย-เอ็นทีทีเซ็น MOU จุดพลุบริการ 5G ไร้สายเพื่อองค์กรไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อาร์เจย์ ชาร์มา (ซ้าย) ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท โนเกีย ประจำประเทศไทยและกัมพูชา และ สุทัศน์ คงดำรงเกียรติ (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประจำประเทศไทย บริษัท เอ็นทีที จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อให้บริการโซลูชันเครือข่ายไร้สายระดับองค์กรสำหรับองค์กรธุรกิจทั่วประเทศไทย โดยได้รับเกียรติจาก ยูริ ยาร์วิอะโฮ (กลาง) เอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทยและเอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำประเทศกัมพูชา ร่วมเป็นสักขีพยานในครั้งนี้
โนเกีย จับมือเอ็นทีที เซ็น MOU ร่วมให้บริการ 5G ไร้สายเพื่อองค์กร ลุยส่งเสริมดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันให้ภาคอุตสาหกรรมไทย ดัน 5G ไร้สายสู่องค์กรในรูประบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิทัลหลากรูปแบบ

นายอาร์เจย์ ชาร์มา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท โนเกีย ประจำประเทศไทยและกัมพูชา กล่าวในโอกาสร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงกับเอ็นทีที ว่ามีความยินดีที่ได้เป็นพันธมิตรและนำโซลูชันเครือข่าย 5G ไร้สายระดับองค์กรที่ล้ำสมัยของโนเกียไปใช้งานทั่วประเทศไทย หลังจากดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันเป็นที่จับตามองมากขึ้นจากภาคอุตสาหกรรมว่าเป็นหนทางสู่การเติบโตของธุรกิจรวมทั้งเป้าหมายด้านความยั่งยืน

"ข้อตกลงในครั้งนี้ครอบคลุมถึงเครือข่าย ซอฟต์แวร์ และโครงสร้างพื้นฐานของโนเกีย ซึ่งออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานและการยอมรับแอปพลิเคชันอุตสาหกรรม 4.0 และการใช้งานต่างๆ ขององค์กรธุรกิจทั่วประเทศไทย"


โนเกียนั้นประกาศความร่วมมือทางธุรกิจกับเอ็นทีที (NTT) เพื่อให้บริการโซลูชันเครือข่ายไร้สายระดับองค์กรสำหรับองค์กรธุรกิจกว่า 3.2 ล้านรายทั่วประเทศไทย เพื่อเร่งเดินหน้าสู่ความเป็นดิจิทัลอย่างแท้จริงซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณผลผลิต ประสิทธิภาพการดำเนินงาน และความปลอดภัยของคนงานที่สามารถประเมินผลได้ โดยโซลูชัน 5G ไร้สายระดับองค์กรของโนเกียที่ถูกนำไปใช้งานในหลายองค์กรทั่วประเทศ จะเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานแอปพลิเคชันสำคัญสำหรับธุรกิจและการใช้งานทั่วทุกภาคส่วนที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิต การทำเหมืองแร่ เฮลธ์แคร์ และการศึกษา

ทั้งนี้ ความร่วมมือที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะนำไปสู่การใช้งานเครือข่ายไร้สายระดับองค์กรในสถานประกอบการต่างๆ ทั่วประเทศไทยเพื่อเปิดใช้งานระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิทัลในรูปแบบอื่น ซึ่งอุตสาหกรรมด้านการผลิต การทำเหมืองแร่ และเฮลธ์แคร์ เป็นเป้าหมายหลักของแผนอุตสาหกรรม 4.0 ที่จะช่วยเพิ่มผลผลิต ประสิทธิภาพการดำเนินงาน และความปลอดภัยของคนงาน และลดต้นทุนไปในขณะเดียวกัน


นายสุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประจำประเทศไทย บริษัท เอ็นทีที จำกัด กล่าวแสดงความยินดีที่ได้ขยายขอบเขตความร่วมมือกับโนเกีย และได้นำเครือข่ายไร้สายระดับองค์กรไปปรับใช้ในสถานประกอบการที่เป็นองค์กรธุรกิจมากมายในประเทศไทย เชื่อว่าความร่วมมือที่เกิดขึ้นจะช่วยให้อุตสหากรรมไทยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและแอปพลิเคชัน 5G ขั้นสูงสุดได้อย่างเต็มที่

"และยังเป็นการปลดล็อกการใช้งานที่เป็นระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และโซลูชันสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัลที่จะขับเคลื่อนผลิตภาพและประสิทธิภาพ ไปพร้อมกับช่วยให้พนักงานปลอดภัยยิ่งขึ้น"

สำหรับเครือข่ายไร้สายระดับองค์กรนั้นถูกออกแบบให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในระยะไกล หรือในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น พื้นที่ซึ่งสัญญาณ Wi-Fi ให้บริการได้ไม่เต็มที่ โดยเครือข่ายไร้สายระดับองค์กรสามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วยแบนด์วิดท์สูงและมีความหน่วงต่ำที่เชื่อถือได้ ซึ่งจำเป็นต่อการใช้งานในอุตสาหกรรม 4.0 ที่มาพร้อมความปลอดภัยสูงพร้อมใช้งานตลอดเวลา ตลอดจนสมรรถนะในการใช้งานสำหรับแอปพลิเคชันสำคัญของธุรกิจ

ในภาพรวม ความร่วมมือในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อองค์กรธุรกิจและอุตสาหกรรมทั่วประเทศไทย ให้ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จาก Industrial IoT (IIOT), Machine Learning (ML) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้อย่างเต็มที่ โดยครอบคลุมถึงโซลูชันเครือข่ายล้ำสมัยของโนเกีย ไม่ว่าจะเป็น Nokia Digital Automation Cloud (DAC) เครือข่ายอัตโนมัติ รวมทั้งแพลตฟอร์ม Industrial Digitalization Edge และ MX Industrial Edge (MXIE)


ด้วยเทคโนโลยีและทรัพยากรของเอ็นทีทีและโนเกียที่นำมารวมกันในครั้งนี้ ทั้ง 2 เชื่อว่าจะช่วยให้องค์กรธุรกิจไทยในอุตสาหกรรมต่างๆ เข้าถึงชุดบริการเทคโนโลยีดิจิทัลแบบ as-a-service ที่ช่วยให้สามารถใช้งานใน use case ต่างๆ อย่างฝาแฝดดิจิทัล (Digital Twin) ที่เป็นระบบจำลองเสมือนจริงเพื่อติดตามเครือข่ายและควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ระบบวิเคราะห์ด้วยภาพวิดีโอ และระบบแมชชีนวิชั่น (Machine Vision) พร้อมวิดีโอแบบเรียลไทม์และสตรีมระบบ IoT เช่นเดียวกับอุปกรณ์อุตสาหกรรมที่เชื่อมต่อแบบล่วงหน้า (Pre-integrated Industrial Devices) และแอปพลิเคชันต่างๆ ในแคตตาล็อกได้

นายรากาฟ ซาห์กาล ประธานบริหารด้านบริการคลาวด์และเครือข่ายของโนเกีย เผยถึงความภูมิใจที่ได้สนับสนุนวาระการเปลี่ยนสู่ความเป็นดิจิทัลของรัฐบาลไทย โดยย้ำว่าโนเกียวางแผนที่จะเปิดตัวบริการนี้ในตลาดอื่นๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นต่อไป

ปัจจุบัน บริการเครือข่ายสำหรับภารกิจสำคัญของโนเกียได้ถูกนำไปใช้งานโดยลูกค้าประเภทองค์กรธุรกิจชั้นนำมากกว่า 2,600 ราย ทั้งในภาคการขนส่ง พลังงาน องค์กรขนาดใหญ่ การผลิต โครงสร้างพื้นฐานแบบ webscale และหน่วยงานภาครัฐทั่วโลก นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ขยายความเชี่ยวชาญไปยังลูกค้าเครือข่ายไร้สายแบบส่วนตัวอีกกว่า 635 รายทั่วโลกและได้รับการกล่าวถึงในฐานะผู้ให้บริการด้านเครือข่ายไร้สายระดับองค์กรในอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลกโดยนักวิเคราะห์ด้านอุตสาหกรรมจำนวนมาก


กำลังโหลดความคิดเห็น