วีเอ็มแวร์ (VMware) ประกาศขยายความร่วมมือกับเอ็นวิเดีย (NVIDIA) เพื่อสร้างแพลตฟอร์มเจเนอเรทีฟเอไอ (generative AI) ที่ทำงานบนโครงสร้างพื้นฐาน VMware Cloud หวังขับเคลื่อนการนำเทคโนโลยี AI มาใช้สร้างข้อมูลใหม่ในระดับองค์กร และใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เชื่อถือได้
นายรากู รากูราม ซีอีโอของวีเอ็มแวร์ กล่าวว่าศักยภาพอันน่าทึ่งของ generative AI นั้นไม่สามารถปลดล็อกได้เต็มที่ จนกว่าองค์กรจะสามารถรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และลดความเสี่ยงด้านทรัพย์สินทางปัญญา ไปพร้อมกับการเทรนนิ่ง ปรับแต่ง และให้บริการโมเดล AI ของตัวเอง
"ดังนั้น VMware Private AI จึงถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เชื่อถือได้ เพื่อให้สามารถสร้างและทดสอบโมเดล AI ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยในสภาพแวดล้อมมัลติคลาวด์"
VMware อธิบายว่าองค์กรขนาดใหญ่ระดับเอนเตอร์ไพรส์ในปัจจุบันมักเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบากในเรื่องของการใช้งาน generative AI เนื่องจากการใช้ประโยชน์จาก pubic AI โมเดล เพื่อมาช่วยสร้าง AI แอปพลิเคชันนั้นแฝงไปด้วยอันตรายและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลและแหล่งการเทรนนิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือเมื่อใช้โมเดล AI หรืออาจลองใช้แนวทาง “โมเดลแบบที่ทำขึ้นมาเอง (do-it-yourself)” ซึ่งอาจจะพบเจอความลำบากในการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ และใช้เวลาให้คุ้มกับต้นทุน ดังนั้น VMware AI Labs จึงได้สร้าง VMware Private AI มาเพื่อแก้ไขปัญหา และความท้าทายต่างๆ เหล่านี้
ในภาพรวม Private AI เป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างสมดุล เพื่อช่วยให้ธุรกิจยังสามารถได้ประโยชน์จากการใช้ AI แต่ยังสามารถรักษา ตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัวขององค์กรและ ข้อกำหนดด้านกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติตาม และเพื่อให้ Private AI สามารถใช้งานได้จริงสำหรับองค์กรเอนเตอร์ไพรส์ และขับเคลื่อนการสร้างแอปพลิเคชันรูปแบบใหม่ที่เน้น AI-enabled วีเอ็มแวร์ได้เปิดตัวโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI หนึ่งในนั้นคือ VMware Private AI Foundation กับ NVIDIA ที่ได้ขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างทั้งสองบริษัท เพื่อเตรียมธุรกิจโดยใช้โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของ VMware สำหรับยุค generative AI ที่กำลังจะมาถึง
นอกจากนี้ ยังมีสถาปัตยกรรม VMware Private AI Reference Architecture สำหรับโอเพ่นซอร์ส เพื่อรองรับการทำงานร่วมเทคโนโลยีซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่ดีที่สุด (OSS) ในปัจจุบันและในอนาคต เพื่อช่วยลูกค้าในการบรรลุผลลัพธ์จากการนำเทคโนโลยี AI ไปใช้
"VMware Private AI ได้นำความสามารถในการประมวลผล (Compute Capacity) และโมเดล AI ไปยังจุดที่มีการสร้างข้อมูล การประมวลผลข้อมูล และใช้งานข้อมูลขององค์กร ไม่ว่าจะอยู่ในพับบลิกคลาวด์ ดาต้าเซ็นเตอร์ภายในองค์กร หรือที่ Edge ด้วยข้อเสนอใหม่เหล่านี้ วีเอ็มแวร์กำลังช่วยเหลือลูกค้าในการบรรลุความสมดุลระหว่างความยืดหยุ่นในการใช้งาน แต่มีการควบคุมในเรื่องที่จำเป็นในการขับเคลื่อน AI-enabled แอปพลิเคชันรุ่นใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานอย่างมีนัยสำคัญ สร้างนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงฟังก์ชันทางธุรกิจหลัก และขับเคลื่อนผลกระทบทางเศรษฐกิจ"
รายงานของ McKinsey ประมาณการว่า generative AI อาจเพิ่มรายได้ให้เศรษฐกิจโลกได้มากถึง 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี
ในอีกด้าน สภาพแวดล้อมมัลติคลาวด์ได้เป็นรากฐานสำหรับแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI แบบใหม่ เนื่องจากทำให้ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ที่มีการทำงานอยู่กระจัดกระจายในระบบการประมวลผลแบบคลาวด์ง่ายต่อการควบคุมและใช้ประโยชน์ ขณะที่กลยุทธ์มัลติคลาวด์ที่ VMware นำเสนอ สามารถนำมาใช้ทำให้ธุรกิจมีทางเลือกและความยืดหยุ่นมากขึ้นในการใช้งาน ปรับแต่ง และใช้งาน AI โมเดล ในขณะที่ยังคงรักษาระดับความปลอดภัยและความยืดหยุ่นที่จำเป็นในทุกสภาพแวดล้อม
***จัดเต็มชุดเครื่องมือ AI แบบบูรณาการ
VMware Private AI Foundation พร้อมด้วย NVIDIA จะประกอบด้วยชุดเครื่องมือ AI แบบบูรณาการ จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถปรับใช้ AI โมเดลที่ได้รับการพิสูจน์ ซึ่งได้รับการเทรนด์บนข้อมูลส่วนตัว และมีการบริหารต้นทุนได้อย่างคุ้มค่าไม่ว่าจะเป็นในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าบนพับบลิกคลาวด์ชั้นนำ และที่ Edge
เบื้องต้น VMware Private AI Foundation จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถรันโมเดลที่ศูนย์ข้อมูลบนพับบลิกคลาวด์ชั้นนำได้ ขณะเดียวกัน จะผสานรวมสถาปัตยกรรม Private AI ของ VMware ที่สร้างขึ้นบน VMware Cloud Foundation เข้ากับซอฟต์แวร์ NVIDIA AI Enterprise และการประมวลผลแบบเร่งความเร็ว ทั้งหมดถูกการันตีว่าจะช่วยให้องค์กรได้รับโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลที่รวดเร็วและซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ต้องการในการปรับแต่งโมเดลและเรียกใช้แอปพลิเคชัน AI ทั่วไป รวมถึงแชตบอตอัจฉริยะ ผู้ช่วย การค้นหา และการสรุป