xs
xsm
sm
md
lg

เอชพีวางเป้าเพิ่มความเท่าเทียมทางดิจิทัล 150 ล้านคน ภายในปี 2573

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอชพี ประกาศกลยุทธ์ใหม่เพื่อมุ่งสู่การเติบโตสำหรับเอเชียในงาน Future Ready Better Together 2023 หนึ่งในนั้นคือการลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลและเพิ่มช่องทางการเข้าถึงเทคโนโลยี ระบุได้เร่งให้เกิดความเท่าเทียมทางดิจิทัลให้ผู้คนแล้วมากกว่า 21 ล้านคน โดยมีเป้าหมายที่ 150 ล้านคนภายในปี 2573 

Vinay Awasthi กรรมการผู้จัดการประจำ Greater Asia ของเอชพี กล่าวว่า ลูกค้าเป็นหัวใจหลักในการทำงานของเอชพีเสมอ กลยุทธ์ Future Ready คือความทุ่มเทในการสร้างสิ่งที่เหนือความคาดหมายให้ผู้ใช้ปลายทาง โดยเฉพาะประสบการณ์ที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตประจำวันของทุกคนโดยตรง บริษัทจึงรังสรรค์สิ่งใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างง่ายดายมากขึ้น สะดวกสบายยิ่งขึ้น และเข้าถึงตัวช่วยที่หลากหลาย

"เอชพีให้บริการโซลูชันต่างๆ ที่ช่วยให้คุณรับมือกับสภาพแวดล้อมแบบไฮบริดที่มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ การทำงานในภูมิภาคเอเชียของเรานี้นับเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการเพิ่มมูลค่าสินค้าที่มีความสม่ำเสมอและเชื่อถือได้ให้ลูกค้าของเรา”

การประกาศกลยุทธ์และกรอบการทำงานของเอชพีเกิดขึ้นในงาน HP Future Ready - Better Together 2023 ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ท่ามกลางลูกค้าและพาร์ตเนอร์ 350 รายทั่วเอเชียที่พบปะกันครั้งแรกในรอบ 3 ปี เอชพีได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์ Future Ready เป็นครั้งแรก ว่ามุ่งขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาวร่วมกับพาร์ตเนอร์และมุ่งส่งมอบมูลค่าสินค้าให้ลูกค้าตลอดอายุการใช้งาน

เอชพีย้ำว่ากลยุทธ์ Future Ready พัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงลูกค้าเป็นสำคัญ ประกอบด้วยโครงการริเริ่มมากมายบนฐานรากของ 3 เสาหลัก ได้แก่ พอร์ตโฟลิโอธุรกิจ (Portfolio) การปฏิบัติการ (Operations) ลูกค้าและพาร์ตเนอร์ (Customers and Partners) เป้าหมายหลักคือการสร้างความสัมพันธ์ตลอดชีวิตกับลูกค้าผ่านการเสริมความแข็งแกร่งของสินค้าและบริการภายใต้การบริหารงานของเอชพี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายยิ่งขึ้น และช่วยให้พาร์ตเนอร์เปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ในกลุ่มสินค้าที่มีอัตราเติบโตสูง ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เกมมิ่ง การทำงานแบบไฮบริด การให้บริการบุคลากร ความปลอดภัย และความยั่งยืน

นอกจากตื่นเต้นที่ได้มาพูดคุยกับพาร์ตเนอร์และลูกค้าที่งาน 'Future Ready Better Together' ในประเทศญี่ปุ่น Vinay กล่าวเสริมว่าปีนี้ยังเป็นการครบรอบ 60 ปี ในการดำเนินงานของเอชพี นับตั้งแต่ที่ได้เปิดตัวในตลาดเอเชียเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2560

เอชพีเชื่อว่าแม้โควิด-19 จะจบไปแล้ว แต่การทำงานแบบยืดหยุ่นจะยังคงเกิดขึ้นต่อไป โดยรายงานฉบับล่าสุดของ PwCชี้ว่า 90% ของพนักงานในเอเชียแปซิฟิก (APAC) เลือกที่จะทำงานแบบไม่ต้องเข้าออฟฟิศหรือการทำงานแบบไฮบริด (Hybrid) ผู้นำในภูมิภาคจึงเดินหน้าสอดรับการเปลี่ยนแปลงในแง่ของการจัดสรรงานและให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีอุบัติใหม่ ความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ และโครงการนวัตกรรมดิจิทัลเมื่อต้องลงทุนในเทคโนโลยี เพื่อผลักดันให้เกิดการทำงานร่วมกันที่ราบรื่นและผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

 Vinay Awasthi กรรมการผู้จัดการประจำ Greater Asia ของเอชพี
ปัจจุบัน เอชพีกำลังกำหนดนิยามใหม่ให้นวัตกรรมผ่านผลิตภัณฑ์ภายใต้กลยุทธ์ Future Ready ด้วยการนำเสนอประสบการณ์ระดับพรีเมียมแบบครบวงจรที่จะมาช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริดที่มีความซับซ้อนได้อย่างตรงใจ ให้ทุกคนได้ทำงาน เล่น และเชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ

***สู่อนาคตที่ยั่งยืน

เอชพีย้ำว่าจะยังคงลงทุนเชิงกลยุทธ์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมไปถึงอุปกรณ์เกมมิ่ง อุปกรณ์ต่อพ่วง ระบบสมาชิกของผู้บริโภค การให้บริการบุคลากร ความปลอดภัย และโซลูชันการพิมพ์ เพื่อขยายความหลากหลายของกลุ่มสินค้าและบริการให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า B2B และ B2C ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอทั่วภูมิภาค

ในอีกด้าน เอชพีจะเดินหน้าพัฒนาโดยใช้ประโยชน์จากข้อเสนอแนะที่รวบรวมมาจากพาร์ตเนอร์และลูกค้าในภูมิภาค เพื่อช่วยให้ปรับตัวเข้ากับความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เอชพีจะลงทุนไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพ HP Amplify อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นโปรแกรมคู่ค้าช่องทางจำหน่ายระดับสากลโปรแกรมแรกของโลก โดยมีเครื่องมือที่จะมาช่วยให้พาร์ตเนอร์มีความคล่องตัว ลดความซับซ้อน เติบโต และทำงานร่วมกัน โปรแกรมโฉมใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อส่งมอบบริการดิจิทัลที่ลูกค้าต้องการเพื่อเพิ่มศักยภาพให้พนักงาน กระตุ้นโอกาสเติบโตและการประสบความสำเร็จในภูมิทัศน์ที่มีความหลากหลายและไม่เคยหยุดนิ่งในเอเชีย

นอกจากนี้ เอชพียังตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ยั่งยืนและสร้างความเท่าเทียมมากที่สุดภายในปี 2573 พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายด้านผลกระทบที่ยั่งยืนเชิงรุกเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งในเรื่องของการรับมือสภาพภูมิอากาศ (Climate Action) สิทธิมนุษยชน (Human Rights) และความเสมอภาคในยุคดิจิทัล (Digital Equity)

โครงการริเริ่มและไฮไลต์สำคัญยังมีการปกป้องระบบนิเวศทางธรรมชาติ โดยเอชพี ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ออกมามากกว่า 300 รายการซึ่งใช้พลาสติกที่ถูกทิ้งลงสู่ทะเล ทั้งยังพัฒนาการพิมพ์ที่เป็นมิตรกับป่าไม้ และมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2583

ขณะเดียวกัน เอชพีจะเพิ่มศักยภาพพาร์ตเนอร์เพื่อร่วมก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น โดย HP Amplify Impact เป็นการประเมินพาร์ตเนอร์ ทรัพยากร และโปรแกรมฝึกอบรมที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยพาร์ตเนอร์ 100% ร่วมให้คำมั่นและจัดทำแผนเพื่อการสร้างผลกระทบด้านความยั่งยืน

ที่สำคัญคือการลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลและเพิ่มช่องทางการเข้าถึงเทคโนโลยี เบื้องต้น เอชพีเร่งให้เกิดความเท่าเทียมทางดิจิทัลให้ผู้คนมากกว่า 21 ล้านคน โดยมีเป้าหมายที่ 150 ล้านคน ภายในปี 2573


กำลังโหลดความคิดเห็น