เทรนด์ไมโคร (Trend Micro) เปิดกลยุทธ์ธุรกิจปี 2023 เดินหน้าตอบโจทย์ทุกความต้องการองค์กร มั่นใจเติบโตมากกว่า 15 เปอร์เซ็นต์
น ส.ปิยธิดา ตันตระกูล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันภัยคุกคาม (Threats) เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้คนหันมาให้ความสำคัญกับ Cybersecurity มากขึ้น หากย้อนกลับไป 5 ปีที่แล้ว ภัยคุกคามจะยังมีไม่มากนัก แต่ปัจจุบันภัยคุกคามเติบโตขึ้นอย่างน่าตกใจ อย่างแรนซัมแวร์ (Ransomware) ที่เติบโตมากถึง 78% ในปี 2022 ที่ผ่านมา อีกส่วนหนึ่ง คือ คนหันมาทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน (Digital Transformation) มากขึ้น คนลงทุนกับเทคโนโลยีมากขึ้น การทำงานของคนเปลี่ยนแปลงไปเป็นรูปแบบรีโมตมากขึ้น (Remote Work) ใช้เครื่องมือต่างๆ เชื่อมต่อการทำงานภายในองค์กรมากขึ้น ทำให้มีจุดที่เป็นความท้าทายกับการปิดช่องโหว่มากขึ้น
"จากปัจจัยข้างต้น ทำให้ปี 2022 เราเติบโต YoY 20% เพราะธุรกิจต้องการขับเคลื่อนไปข้างหน้า ขณะที่ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นหัวใจหลัก ตลาดเอ็นเตอร์ไพรส์ทั้ง โทรคมนาคม ธนาคาร และภาครัฐ ทุกตลาดเติบโตหมด และมีส่วนแบ่งตลาดใกล้เคียงกัน ส่วนอีกกลุ่มตลาดที่น่าสนใจคือ ภาคอุตสาหกรรมการผลิต หรือรีเทล ที่เราได้ลูกค้าเข้ามามากมายในปีที่ผ่านมา สะท้อนภาพว่าธุรกิจอื่นๆ เริ่มเห็นความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยองค์กรมากขึ้น"
Trend Micro วางตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการวางระบบด้านความปลอดภัยไซเบอร์ Cyber Security แบบครบวงจร โดยมองว่าปี 2022 เป็นปีที่ตลาดต้องการระบบรักษาความปลอดภัยมากขึ้น ส่งผลภาพรวมเติบโต 20% เมื่อเทียบปีต่อปี บริษัทจึงพร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ สร้าง Cybersecurity Platform เพื่อตอบโจทย์ความต้องการทุกองค์กร พร้อมตั้งเป้าเพิ่มทีมผู้เชี่ยวชาญ 25% เพื่อเป้าหมายการปิดปี 2023 ด้วยการเติบโตมากกว่า 15%
สำหรับกลยุทธ์ปี 2023 ของ Trend Micro บริษัทออกเป็น 3 แนวทาง โดยแนวทางแรก คือ การเดินหน้าสร้าง Cybersecurity Platform เพื่อให้สอดคล้องกับการให้บริการ Software as a Service (SaaS) มากขึ้น เพราะปัจจุบันธุรกิจที่หันไปใช้คลาวด์มากขึ้น
แนวทางที่ 2 คือ แบ่งกลยุทธ์การเติบโตออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ รักษาตำแหน่งผู้นำการเป็นเจ้าตลาดโทรคมนาคม ธนาคาร และภาครัฐ สำหรับธุรกิจคอมเมอร์เชียล จะเข้าไปให้ความรู้และช่วยลูกค้าวางแผนในการย้ายระบบขึ้นคลาวด์มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีเชื่อมต่อมากๆ สำหรับสตาร์ทอัปจะเน้นให้ความรู้กับการใช้คลาวด์ และระบบ SaaS เพื่อให้ได้ใช้ฟีเจอร์ล่าสุดอยู่เสมอ
และแนวทางที่ 3 การสร้างทีมเวิร์กที่แข็งแกร่งมากขึ้น จะมีทีมงานพร้อมเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น โดยในปีนี้ Trend Micro จะเดินหน้าขยายทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน Cybersecurity อีก 25%
“เรามั่นใจว่า Trend Micro สามารถตอบโจทย์ความท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และเรามองถึงการคาดการณ์ในอนาคตให้ลูกค้าได้อีกด้วย ดังนั้น ทิศทางในปีนี้เราเชื่อว่าจะเติบโตมากกว่า 15%” ปิยธิดา กล่าว
ปิยธิดา กล่าวทิ้งท้ายว่า การทำงานในอนาคตจะขับเคลื่อนด้วยข้อมูล หากเกิดปัญหากับข้อมูลจากการถูกโจมตีจะส่งผลกับองค์กรด้านความเชื่อมั่น เพราะฉะนั้นการมีรากฐานที่มั่นคงแข็งแรง จะทำให้องค์กรสามารถป้องกันข้อมูลจากการถูกโจมตีได้ ซึ่ง Trend Micro เป็นบริษัทที่เข้ามาทำธุรกิจในไทย 18 ปี มีทีมงานที่พร้อมดูแลลูกค้า เข้าไปช่วยประเมินสุขภาพขององค์กรในด้านความปลอดภัย ค้นหาจุดเสี่ยงหรือช่องโหว่ ก่อนจะช่วยวางแผน เพื่อให้ลูกค้ามีระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแรงในระยะยาว