Cloud HM เปิดตัวโซลูชัน Sovereign Cloud บนเทคโนโลยี VMware นำเสนอบริการใหม่ เทียบเท่ากับบริการที่มีอยู่ใน Public Cloud พร้อมให้ความมั่นใจว่าข้อมูลของคุณจะได้รับการคุ้มครองเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย และถูกจัดเก็บเฉพาะภายในประเทศไทย
คุณณพัชร อัมพุช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท คลาวด์ เอชเอ็ม จำกัด หรือ Cloud HM ภายใต้กลุ่มเบญจจินดา กล่าวว่า Cloud HM ร่วมมือกับ VMware Tanzu ให้บริการบน Sovereign Cloud ทำให้ Cloud HM สามารถช่วยให้องค์กรดำเนินการสร้าง พัฒนา ใช้งาน บริหารจัดการ และรักษาความปลอดภัยให้แก่แอปพลิเคชันยุคใหม่ได้อย่างดีขึ้นด้วยระบบ Kubernetes ที่ติดตั้งมาในตัว โดย Tanzu portfolio จะช่วยอำนวยความสะดวกให้การดำเนินงานของแพลตฟอร์ม อีกทั้งยังให้อิสระแก่นักพัฒนาในการเคลื่อนย้ายและเข้าถึงทรัพยากรที่เหมาะสมสำหรับการสร้างแอปพลิเคชันที่ดีที่สุด ซึ่ง Cloud HM ให้บริการ Sovereign-Ready VMware Tanzu ผ่าน Data Center ของบริษัทเองโดยตรง มั่นใจได้ว่าจะไม่มีข้อมูลใดหลุดรอดออกจากประเทศไทย หรือ Sovereign Cloud ของ Cloud HM ได้
“อธิปไตยของข้อมูล (Data Sovereignty) และนวัตกรรมสามารถไปด้วยกันได้ ซึ่งเราภูมิใจที่ได้เป็นพาร์ตเนอร์ผู้ให้บริการ VMware Sovereign Cloud ระดับสากล ตอนนี้เราสามารถส่งมอบศักยภาพในการทำงานที่ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มคุณค่าให้แก่ข้อมูลของลูกค้าได้อย่างไร้ขีดจำกัดด้วยโซลูชัน Developer-Ready Cloud ของเรา” คุณณพัชร กล่าว
ขณะที่ คุณเอกภาวิน สุขอนันต์ Country Manager บริษัท วีเอ็มแวร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ VMware กล่าวว่า ในโลกแห่งการใช้งาน Multi-Cloud ในปัจจุบัน เรากำลังช่วยให้องค์กรต่างๆ ก้าวเข้าสู่การเป็น Cloud Smart ตั้งแต่กระบวนการแรก โดยสนับสนุนให้พวกเขาสามารถควบคุมและมีทางเลือกในการใช้ระบบ Cloud ที่เหมาะสมได้ตามต้องการ
“เมื่อมีพันธมิตรอย่าง Cloud HM เราสามารถเพิ่มศักยภาพให้แก่องค์กรผ่านระบบ Cloud Infrastructure ที่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสอดคล้องกับข้อกฎหมายภายในประเทศ ในขณะเดียวกัน องค์กรต่างๆ ยังสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งหมดจากระบบ Cloud ตั้งแต่ความพร้อมในการใช้งาน ตลอดจนการเข้าถึง และความปลอดภัยในการขยับขยายธุรกิจ” คุณเอกภาวิน กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ สถานการณ์ปัจจุบัน องค์กรในประเทศจำนวนมากมีความต้องการที่จะปรับปรุงแอปพลิเคชันให้มีความทันสมัย สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีและเพิ่มระดับการมีส่วนร่วมระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ตนได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเพื่อยกระดับการรักษาความปลอดภัย ประสิทธิภาพในการทำงาน และความยืดหยุ่นในการตอบรับการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม สำหรับธุรกิจที่ต้องจัดการกับข้อมูล หรือแอปพลิเคชันที่ต้องรองรับ Sensitive Data โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน ธุรกิจประกันภัย โรงพยาบาล หรือแม้แต่หน่วยงานภาครัฐเองต่างต้องเผชิญกับความท้าทายเรื่องข้อกำหนดด้าน Data Privacy ที่จำเป็นต้องมีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด ดังนั้น การจะคิดค้นหรือพัฒนาแอปพลิเคชันดังกล่าวจึงต้องสอดคล้องกับกฎหมายและเป็นไปตามข้อกำหนดของเขตพื้นที่นั้นๆ