ซัมซุง (Samsung) เผยวิสัยทัศน์นำเทคโนโลยียกระดับวิถีชีวิตผู้บริโภค ด้วยอีโคซิสเต็มการเชื่อมต่ออุปกรณ์อย่างไร้รอยต่อ ภายใต้การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
จอง ฮี ฮาน รองประธาน ซีอีโอ และหัวหน้าหน่วยธุรกิจ DX Division ซัมซุง กล่าวถึงกลยุทธ์ในปีนี้ว่า จะเน้นการส่งมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตบนโลกที่ทุกๆ อุปกรณ์ในทุกที่จะเชื่อมต่อเข้าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน
“การมีส่วนร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนเกิดจากความตั้งใจของซัมซุงที่จะมอบพลังให้ผู้บริโภคบนโลกสามารถใช้ทุกอุปกรณ์เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ พร้อมกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยให้การใช้งานเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันมีความยั่งยืนมากขึ้น”
วิสัยทัศน์ของซัมซุงในปีนี้นับเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ เพราะเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาที่สิ่งแวดล้อมที่กำลังเกิดขึ้น พร้อมไปกับการเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต ซึ่งซัมซุงต้องใช้เวลา รวมไปถึงความร่วมมือกับพันธมิตรของเราทั่วโลกเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์
***ใส่ใจกับความยั่งยืน
ซัมซุง วางเป้าหมายด้านความยั่งยืนด้วยแนวทางที่ทุกกลุ่มธุรกิจของซัมซุง จะใช้พลังงานไฟฟ้าในอัตราเท่ากับไฟฟ้าที่กำเนิดจากพลังงานทดแทน และมีการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 โดยแผนก DX จะเริ่มเปลี่ยนไปใช้พลังงานทดแทนภายในปี 2027 และ Net Zero ภายในปี 2030
เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายนี้ ซัมซุงได้เปิดโครงการ "ความยั่งยืนในทุกวัน" ที่จะร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์จากวัสดุที่ใช้พลังงานน้อยลงและออกแบบให้ผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น
อิน ฮี ชุง รองประธาน Corporate Sustainability Center ของซัมซุงกล่าวว่า ขณะนี้ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของซัมซุงจำนวนหนึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนสูงที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มทีวี และสมาร์ทโฟนหลายรุ่นที่มีการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้งาน
ไม่ว่าจะเป็นการนำพลาสติกรีไซเคิลมาจากตาข่ายดักปลาที่เสื่อมสภาพ ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน หน่วยความจำ และชิปเซตสำหรับการรับสัญญาณ 5G ยังช่วยประหยัดพลังงานให้กผู้ใช้มากยิ่งขึ้น และบริการเครือข่ายต่างๆ เช่น SmartThings Energy และ AI Energy Mode ยังช่วยให้ผู้บริโภคลดต้นทุนด้านพลังงานไปพร้อมกับการลดผลกระทบต่อสภาวะอากาศ
นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม SmartThings ที่ใช้เชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านเข้าด้วยกัน จะช่วยผู้บริโภคประหยัดพลังงานมากขึ้น จากการที่ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านพลังงาน ENERGY STAR SHEMS
***เชื่อมโยงเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
แจ ยอน จุง รองประธาน และหัวหน้าหน่วยธุรกิจ SmartThings ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หัวใจสำคัญของวิสัยทัศน์เกี่ยวกับบ้านที่อัจฉริยะมากขึ้น คือความยืดหยุ่นในการใช้งานผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ซัมซุง หรืออุปกรณ์ที่ผลิตโดยพันธมิตรในอุตสาหกรรม
“ในขณะนี้ผู้ผลิตต่างๆ ต่างมุ่งมั่นจะใช้มาตรฐานกลางเพื่อความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ Smart Home ซึ่งซัมซุงได้ยึดมั่นแนวทางดังกล่าว โดย SmartThings ถือเป็นแพลตฟอร์มแรกๆ ที่รองรับมาตรฐานแมตเทอร์ และซัมซุงยังเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้ง กลุ่มพันธมิตรมาตรฐานการเชื่อมโยงอุปกรณ์ในบ้าน (HCA)”
โดย SmartThings Station เป็นอุปกรณ์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้เริ่มต้นการใช้งาน SmartThings ที่บ้าน และช่วยให้มีการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมโยงกันได้ พร้อมกับขยายความร่วมมือกับ Philips Hue เพิ่มเติมด้วย
***นำ AI สู่อุปกรณ์ต่างๆ
ในปีนี้ ซัมซุงได้มีการนำความสามารถของ AI รุ่นใหม่มาใช้งานร่วมกับสินค้าต่างๆ มากขึ้น อย่างหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Jet Bot AI+ ที่ต้องการความแม่นยำในการทำความสะอาด
รวมถึงการนำเสนอโหมดที่ช่วยให้ผู้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น สามารถรับชมทีวีได้ผ่าน “รีลูมิโน่โหมด (Relumino Mode)” ซึ่งจะยกระดับความต่างของแสง และสีสัน ให้เนื้อหาที่รับชมดูคมชัดและรับชมได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ในงาน CES 2023 ซัมซุงยังได้จัด Samsung VD First Look เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ Odyssey, ViewFinity และ Smart Monitor รวมเทคโนโลยีจอภาพในกลุ่มผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของ Neo QLED, MICRO LED และ Samsung OLED