NT ผนึกจุงหวา เทเลคอม และเดอะ ไวท์สเปซ เปิดการใช้งาน 5G คลื่น 26GHz แห่งแรกกับโรงงานเดลต้า ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู พร้อมเดินหน้าขยายสู่โรงงานอื่น รวมถึงกลุ่มเกษตร และการแพทย์
พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT กล่าวว่า หลังจากที่ NT และบริษัท จุงหวา เทเลคอม (Chunghwa Telecom) จากไต้หวัน ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการ 5G Enterprise Private Network ไปเมื่อเดือนธ.ค.2564 ที่ผ่านมา บริษัท จุงหวา เทเลคอม ได้สานต่อความสำเร็จในไต้หวันเพิ่มเติมด้วยการนำคลื่น 26 GHz จำนวน 400 MHz ทำโครงการ 5G Enterprise Private Network มาติดตั้งให้บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ที่โรงงานแห่งแรกในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ทำให้เกิดการทำงานทางไกลร่วมกันด้วยเทคโนโลยี AR ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการฝึกอบรมภาคปฏิบัติ การปฏิบัติงานในโรงงาน และการใช้งานโสตทัศนูปกรณ์ต่างๆ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลหลังยุคการแพร่ระบาดโควิด-19 ของเดลต้า ประเทศไทย สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ยังได้วางแผนนำเทคโนโลยี AGV ไปทดสอบกับโครงการ 5G Enterprise Private Network ในโรงงาน และคาดว่าในอนาคตอันใกล้ เดลต้า ประเทศไทย จะสามารถค่อยๆ ใช้เครือข่าย 5G นี้ เป็นพื้นฐานของเครือข่ายสารสนเทศอัจฉริยะ พร้อมขยายการใช้งานไปสู่โรงงานอื่นๆ ในอนาคต จุงหวา เทเลคอม ยังคงมีแผนที่จะสานต่อความร่วมมือกับพันธมิตรในไทย โดยมี NT เป็นผู้ให้บริการเครือข่าย 5G บริษัท เดอะ ไวท์สเปซ เป็นผู้มอบประสบการณ์ด้านการตลาดและการดำเนินงานในพื้นที่ และจุงหวา เทเลคอม ที่จะให้บริการ MEC Intelligent A+ รวมถึงการออกแบบและการวางแผน เพื่อให้บริการโซลูชันอัจฉริยะ 5G+AIoT แบบครบวงจรในเขตการปกครองท้องถิ่น อุตสาหกรรมการผลิต การเกษตร การท่องเที่ยว การแพทย์ และการเงินในประเทศไทย
สำหรับโครงการ 5G Enterprise Private Network นั้น NT มุ่งเน้นที่จะตอบสนองความต้องการและให้บริการแก่กลุ่มวิสาหกิจขนาดใหญ่ เช่น ภาคอุตสาหกรรมการผลิต นอกจากนี้ ยังเน้นการให้บริการ 5G ในรูปแบบ Network Sharing เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนขององค์กร และทำให้องค์กรต่างๆ สามารถใช้บริการ 5G คุณภาพสูงได้ โดยในปัจจุบัน NT มีศักยภาพในการให้บริการคลื่นความถี่ 5G ร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และพื้นที่อื่นๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาสู่การเป็น Smart City ต่อไป
ด้านนายชัยยศ จิรบวรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ ไวท์สเปซ (WhiteSpace : WSP) กล่าวว่า เดอะ ไวท์สเปซ ทำหน้าที่เป็นโลคัล อิมพลีเมนต์ในประเทศไทยให้จุงหวา เทเลคอม รวมถึงเป็นผู้หาลูกค้าให้ที่นอกเหนือจากโรงงานของไต้หวันที่มาตั้งในไทย ทั้งภาคการผลิตโรงงานอื่นๆ ภาคการเกษตร และทางการแพทย์ การดำเนินธุรกิจรูปแบบนี้นับเป็นทิศทางในการทำธุรกิจแบบใหม่ของ MVNO อย่างเดอะ ไวท์สเปซ ซึ่งแต่เดิมมีแต่คลื่นความถี่ที่ทำสัญญาร่วมกับ NT และกำลังจะหมดสัญญาคลื่นความถี่ในปี 2568 สำหรับจุงหวา เทเลคอม มียูสเคสโซลูชัน 5G บนคลื่นความถี่ 28 GHz เมื่อนำยูสเคสมาปรับใช้กับคลื่นความถี่ 26 GHz จึงสามารถทำงานได้ทันทีเพราะไม่มีความแตกต่างกัน
ขณะที่จางฉายซิง ผู้จัดการทั่วไป บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า เดลต้าประเทศไทย ถือเป็นผู้บุกเบิกโรงงานอัจฉริยะ 5G ในฐานะผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ และผู้ให้บริการโซลูชันนวัตกรรม ดังนั้น การเชื่อมต่อของ 5G จะช่วยสร้างโอกาสในด้าน IoT ความปลอดภัยของข้อมูล AI และ Big data มากยิ่งขึ้น และยังช่วยเร่งแผนการอุตสาหกรรม 4.0 ให้พัฒนาเร็วยิ่งขึ้น การบุกเบิกนำ 5G มาใช้ในโรงงานของ เดลต้า ประเทศไทย จะเป็นรูปแบบการเรียนรู้ชั้นยอดสำหรับผู้ผลิตอื่นๆ ในพื้นที่ อีกทั้งมีส่วนช่วยผลักดันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 อีกด้วย
กัวสุ่ยอี้ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จุงหวา เทเลคอม กล่าวว่า จุงหวา เทเลคอม ได้นำเทคโนโลยีต่างๆ เช่น 5G, AI, Blockchain มาใช้งานจริงในหลากหลายอุตสาหกรรมในไต้หวัน ซึ่งทำให้ชีวิตสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย และเกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจ นอกจากบริการด้านการแพทย์อัจฉริยะ จุงหวา เทเลคอม ยังให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะอื่นๆ อีกมากมาย เช่น บริการวิเคราะห์ Big data ข้อมูลจราจร การบังคับใช้กฎหมายด้านเทคโนโลยี การปรับปรุงกำลังการผลิต และการเพิ่มประสิทธิภาพสายการผลิตในโรงงานอัจฉริยะ ซึ่งทั้งหมดนี้มากพอที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าเทคโนโลยี 5G+AIoT สามารถพัฒนาเป็นโซลูชันต่างๆ ที่ล้ำสมัยและแปลกใหม่ได้