องค์การการค้าและการพัฒนาของสหรัฐอเมริกา ลงนามดีป้า หนุนเงินทุนกว่า 30 ล้านบาท ร่วมทุนพัฒนาโครงการเมืองอัจฉริยะด้านต่างๆ ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานสำคัญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในจังหวัดภูเก็ต
นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ดีป้า และองค์การการค้าและการพัฒนาของสหรัฐอเมริกา (USTDA) ร่วมลงนามข้อตกลงโครงการความร่วมมือ Phuket Smart City Technical Assistant Package เพื่อร่วมทุนพัฒนาโครงการเมืองอัจฉริยะด้านต่างๆ ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานสำคัญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในจังหวัดภูเก็ต โดยสนับสนุนเงิน จำนวน 8.3 แสนเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 30 ล้านบาท เพื่อให้ใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกา และ สำนักงานเมืองอัจฉริยะประเทศไทยซึ่งปัจจุบันอยู่ในการดำเนินงานของดีป้า มีการดำเนินงานร่วมกันเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านกลไกต่างๆ เช่น การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยี ศึกษาดูงาน ร่วมศึกษาค้นคว้า และสร้างเสริมศักยภาพบุคลากร ซึ่งการลงนามข้อตกลงความร่วมมือ Phuket Smart City Technical Assistant Package ในครั้งนี้นับเป็นอีกครั้งที่ประเทศไทยและสหรัฐฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการยกระดับการพัฒนาของเมืองซึ่งเป็นแกนกลางในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศรวมถึงภูมิภาค จึงได้ร่วมลงทุนพัฒนาแนวทางการแก้ปัญหาของเมืองที่ใช้ความต้องการของคนเป็นศูนย์กลางและเทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งจะส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตประชาชน รวมถึงภาคการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต
“นอกจากการร่วมลงทุนแล้ว USTDA จะช่วยพัฒนาข้อกำหนดทางเทคนิคและกลยุทธ์สำหรับการยกระดับแพลตฟอร์มจัดเก็บและบริหารข้อมูลเมืองภูเก็ต (Phuket City Data Platform) ซึ่งเป็นพัฒนานวัตกรรมทางข้อมูลและเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการบริหารเมืองและการให้บริการประชาชน โดยจะมุ่งเน้นที่การเสริมสร้างศักยภาพศูนย์บัญชาการและรวบรวมข้อมูล (Command Center) ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) สำคัญของภูเก็ต รวมถึงระบบควบคุมการจราจรและการแจ้งเหตุฉุกเฉิน โครงข่ายไฟเบอร์ออปติก เซิร์ฟเวอร์ข้อมูล การโอนย้ายข้อมูลไปยังระบบคลาวด์ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และเครือข่าย 5G เป็นต้น” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว
ด้านเกว็นโดริน เจ คาร์ดโน อุปทูต สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยมีทั้งเป้าหมายหลักและหน่วยงานรับผิดชอบในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในประเทศไทยที่ชัดเจน USTDA มีความภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับหน่วยงานรับผิดชอบนั้น คือ ดีป้า รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและท้องถิ่นของจังหวัดภูเก็ต เพื่อส่งเสริมให้จังหวัดปรับใช้แนวทางการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีที่สมัย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อประชาชนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 10 ล้านคนที่มาเยือนในแต่ละปี นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและบริการจากสหรัฐฯ ที่ตรงตามความต้องการของภูเก็ตอีกด้วย
โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งผลการดำเนินงานที่แสดงให้เห็นว่า ความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ และไทยจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัล และก่อให้เกิดประโยชน์โดยตรงแก่คนไทย ขณะเดียวกัน ยังช่วยส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ชาญฉลาด และมีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งสหรัฐฯ เชื่อว่า การพัฒนาทางเทคโนโลยีและวัฒนธรรมการบ่มเพาะนวัตกรรมของสหรัฐฯ ที่จะเป็นส่วนช่วยสำคัญให้ประเทศไทยสามารถเก็บเกี่ยวประโยชน์และประสบความสำเร็จในยุคของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลได้
ทั้งนี้ จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดบนเกาะทางใต้ของไทยในทะเลอันดามัน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 10 ล้านคนทุกปี อีกทั้งยังเป็น 1 ใน 26 ประเทศสมาชิกทางการของเครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียน (ASEAN Smart Cities Network : ASCN) เวทีความร่วมมือของบรรดาเมืองจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนที่ทำงานร่วมกัน เพื่อเป้าหมายการพัฒนาเมืองที่ชาญฉลาดและยั่งยืน
สำหรับการลงนามข้อตกลงโครงการความร่วมมือ Phuket Smart City Technical Assistant Package จะช่วยให้เป้าหมายของกรอบความร่วมมือ Partnership for Global Infrastructure and Investment (PGII) รุดหน้า ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาและนำเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยมาใช้ในการเร่งอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ อีกทั้งช่วยให้เกิดสังคมดิจิทัลที่เปิดกว้างในอนาคต