แคสเปอร์สกี้เผยผลการสำรวจล่าสุด พบ “ผู้สูงวัยอาเซียน” เกือบ 1 ใน 3 ยังกังวลเมื่อต้องชำระเงินออนไลน์ ตอกย้ำคนรุ่นใหม่ควรช่วยแนะนำ
น.ส.แซนดร้า ลี กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่ากลุ่มผู้สูงอายุไม่ใช่ผู้ที่เติบโตในยุคอินเทอร์เน็ต ความกังวลของคนวัยนี้จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ และควรถูกมองว่าเป็นมาตรการป้องกันไว้ก่อนจะเกิดข้อผิดพลาดในการใช้เทคโนโลยีที่เพิ่งรู้จัก อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่ (26%) ไว้วางใจแพลตฟอร์มดิจิทัลเพย์เมนต์เพราะยินดีรับการเปลี่ยนแปลง
"แคสเปอร์สกี้ขอสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ก้าวไปข้างหน้า และช่วยเหลือผู้สูงวัยที่เรารัก ความตระหนักและความพยายามให้ความรู้ต่างๆ โดยชุมชนและรัฐบาลก็มีความสำคัญเช่นกัน"
ผลการสำรวจล่าสุดเผยให้เห็นความกังวลของผู้สูงอายุเรื่องการทำธุรกรรมออนไลน์และความไว้วางใจในซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มผู้ใช้ที่อายุน้อยกว่า สำหรับการชำระเงินทางดิจิทัล หรือดิจิทัลเพย์เมนต์ (digital payment) ได้กลายเป็นตัวเลือกหลักสำหรับผู้บริโภคจำนวนมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อพูดถึงการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ การวิจัยล่าสุดของแคสเปอร์กี้แสดงให้เห็นว่าการพิจารณาเกี่ยวกับความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ และการชำระเงินเป็นปัจจัยสำคัญต่อพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคในภูมิภาคนี้อย่างมาก
ผลการศึกษาเรื่อง “Mapping a secure path for the future of digital payments in APAC” พบว่าผู้ใช้บริการดิจิทัลเพย์เมนต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวน 1 ใน 5 คน (21%) รู้สึกวิตกกังวลเมื่อทำธุรกรรมออนไลน์ เมื่อเปรียบเทียบตามอายุแล้ว กลุ่มที่อายุมากที่สุดคือ Silent Generation (30%) เป็นกลุ่มที่มีความกังวลสูงที่สุด
นอกจากนี้ ผู้ใช้จำนวนเกือบหนึ่งในห้า (17%) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยอมรับว่ามักจะจ่ายด้วยเงินสดมากกว่า โดยที่คนวัยอาวุโสที่สุดมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดคือ 20% เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มอายุทั้งหมด
การปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่เหล่านี้อาจสร้างความท้าทายให้กลุ่ม Silent Generation โดย 20% มองเห็นความยากลำบากในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ แต่อย่างไรก็ดี ผู้ตอบแบบสอบถามจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวนเกือบหนึ่งในสี่ (24%) ระบุว่า เชื่อมั่นในการชำระเงินทางดิจิทัลอย่างเต็มที่
ด้วยเหตุที่กลุ่มผู้สูงอายุมักจะระมัดระวังทางออนไลน์ จึงไม่น่าแปลกใจที่คนรุ่นเก่าๆ จะชื่นชอบประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์แอนติไวรัสมากที่สุด ผู้ใหญ่อายุ 55 ปีขึ้นไปจำนวนมากกว่าสามในห้า (61%) มีระดับความไว้วางใจสูงสุดต่อโซลูชันการรักษาความปลอดภัยเมื่อเทียบกับกลุ่มอายุที่น้อยกว่า
โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ใช้จากทุกกลุ่มอายุในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวนครึ่งหนึ่ง (50%) เข้าใจความต้องการซอฟต์แวร์แอนติไวรัสเพื่อปกป้องเงินและข้อมูลออนไลน์ โดยกลุ่ม Gen Z มีความเชื่อถือน้อยที่สุดที่ 46% กลุ่ม Millennials 49% และกลุ่ม Gen X 52%
ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนเกือบหนึ่งในสี่ (20%) รู้สึกว่าการใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสนั้นเพียงพอ รองลงมาคือ 17% ที่ไม่แน่ใจหรือไม่ทราบว่าโปรแกรมป้องกันไวรัสสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการสูญเสียทางการเงินได้อย่างไร
ที่น่าตกใจคือยังมีผู้ตอบแบบสอบถามอีก 14% ที่ระบุว่าซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสไม่ใช่เครื่องมือสำคัญในการต่อสู้กับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่พยายามละเมิดข้อมูลทางการเงินและทรัพย์สิน
“เมื่อเราได้ยินเกี่ยวกับการหลอกลวงและการฉ้อโกงทางการเงินต่างๆ ทุกคนน่าจะเข้าใจได้ดีที่สุดถึงความสำคัญของโซลูชันความปลอดภัยในเวลานี้ อาชญากรไซเบอร์เข้าใจนิสัยและสภาวะทางอารมณ์ของผู้ใช้เพราะเขาเองเป็นมนุษย์เช่นกัน เราได้เห็นแล้วว่าคนกลุ่มนี้มีความคิดสร้างสรรค์ในการกำหนดเป้าหมายการโจมตีทางวิศวกรรมสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเราจึงขอให้คนทุกรุ่นปกป้องอุปกรณ์ของตนด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อรักษาความปลอดภัยของทั้งข้อมูล และที่สำคัญที่สุดคือเงินที่หามาได้ยาก” แซนดร้ากล่าวเสริม
ผู้เชี่ยวชาญของแคสเปอร์สกี้ขอแนะนำวิธีการต่างๆ เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุเปิดรับเทคโนโลยีอย่างปลอดภัยขณะออนไลน์ โดยควรติดตั้ง อัปเดต และใช้งานอุปกรณ์และแอปอย่างมีประสิทธิภาพเป็นปัญหาสำหรับผู้ใช้สูงวัยบางคน ฟีเจอร์การควบคุมโดยผู้ปกครอง (Parental controls) ไม่ได้มีไว้สำหรับจำกัดกิจกรรมของเด็กเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้เพื่อช่วยดูแลสิ่งต่างๆ สำหรับผู้สูงอายุได้ง่ายขึ้นอีกด้วย บัญชีผู้ใช้ที่ได้รับการควบคุมดูแลนั้นสามารถช่วยให้จัดการคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และแอปได้ด้วยการจำกัดจำนวนตัวเลือกที่เข้าถึงได้ เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนและการเปิดโปรแกรมโดยไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนี้ยังสามารถอนุญาตให้เข้าสู่ระบบระยะไกลเพื่อช่วยจัดการกิจกรรมต่างๆ ได้
นอกจากนี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอปและโปรแกรมต่างๆ ได้รับการตั้งค่าให้อัปเดตโดยอัตโนมัติ เป็นเวอร์ชันล่าสุดและปลอดภัยที่สุดเสมอ พร้อมกับใช้โซลูชันการรักษาความปลอดภัยและขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ ที่สามารถลดความเสี่ยงของการตกเป็นเหยื่อภัยคุกคามและรักษาข้อมูลทางการเงินให้ปลอดภัยได้ เบื้องต้นแนะนำให้ใช้โซลูชันการรักษาความปลอดภัยที่เชื่อถือได้สำหรับการป้องกันที่ครอบคลุมจากภัยคุกคามที่หลากหลาย เช่น Kaspersky Internet Security, Kaspersky Fraud Prevention และการใช้ Kaspersky Safe Money เพื่อช่วยตรวจสอบความถูกต้องของเว็บไซต์ธนาคาร ระบบการชำระเงิน และร้านค้าออนไลน์ที่คุณเข้าชมเพื่อสร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย
ขณะเดียวกัน ควรอธิบายความจำเป็นของอินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัย และแนวทางปฏิบัติด้านสุขอนามัยในโลกไซเบอร์เป็นประจำ สอนวิธีเก็บรหัสผ่านเป็นส่วนตัว แบ่งปันข้อมูลเฉพาะบุคคลที่รู้จักในชีวิตจริง เชื่อมต่อกับเครือข่ายในบ้านเมื่อทำธุรกรรมออนไลน์เท่านั้น และอย่าคลิกลิงก์ที่น่าสงสัย พร้อมกับเน้นย้ำให้ผู้สูงอายุติดต่อลูกหลานได้หากมีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือในโลกดิจิทัล