ศึกษาแนวทางธุรกิจออกแบบ-ตกแต่งภายใน นำดีแทค บิสิเนส WorryFree Plus Pro แพกเกจสื่อสารที่รวม Google Workspace รุกตลาดออนไลน์เต็มตัว ขยายฐานลูกค้าเข้าถึง B2C หรือผู้ประกอบการรายย่อยมากขึ้น จาก “วงปี สตูดิโอ”
ที่ผ่านมาวงการออกแบบทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่สีเขียวภายในอาคารมากขึ้น อย่างท่าอากาศยานชางงี ประเทศสิงคโปร์ ที่นำไม้ดอกไม้ประดับนานาพันธุ์มาตกแต่งจนร่มรื่นสวยงาม แต่ตอนนั้นกระแสดังกล่าวยังไม่เป็นที่นิยมในไทย เพราะสภาพแวดล้อมภายในอาคารไม่ค่อยเอื้อกับการนำต้นไม้จริงมาใช้ตกแต่งภายใน
เมื่อหาข้อมูลมากขึ้นพบว่า “ต้นไม้ปลอม” เป็นทางเลือกใหม่ของการสร้างพื้นที่สีเขียว ช่วยสร้างบรรยากาศของธรรมชาติที่สมจริง ด้วยการใช้วัสดุทดแทน เช่น ผ้า กระดาษ โฟม พลาสติก ยาง เม็ดพลาสติก รวมไปถึงการผสมสี ซึ่งทั้งหมดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถรีไซเคิลได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องขยะหรือการย่อยสลาย
กิตติคุณ เลิศประยูรมิตร และยศภาคย์ จงเจริญใจ สองผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท วงปี สตูดิโอ จำกัด ให้ข้อมูลว่า เราพยายามหาสิ่งใหม่ๆ มาเป็นจุดขายในการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป้าหมายของวงปี คือ การใช้ต้นไม้ปลอมเพื่อส่งเสริมให้เกิดพื้นที่สีเขียวเพิ่มเติม เนื่องจากสภาพแวดล้อมหลายพื้นที่ในชีวิตจริงอาจไม่เหมาะต่อการดำรงชีวิตของต้นไม้ เราอยากให้ผู้คนเข้าถึงธรรมชาติมากขึ้น เวลามองเห็นต้นไม้ปลอมจะช่วยให้เกิดความรู้สึกว่าอยากออกไปเจอต้นไม้จริงข้างนอก
ขณะเดียวกัน การออกแบบ-ตกแต่งภายในด้วยต้นไม้จริง มีแนวคิดแตกต่างจากต้นไม้ปลอม และตอบสนองความต้องการของผู้คนแตกต่างกัน กิตติคุณ เล่าว่า คนที่ชอบต้นไม้จริงมักจะมีพื้นที่พร้อม มีสภาพแวดล้อมลงตัว ขณะที่ต้นไม้ปลอมจะตอบโจทย์ผู้ที่อยากตกแต่งห้องเพื่อความสวยงาม เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องโรค แมลง และมีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 5 ปี
“ด้วยเทคโนโลยีการผลิต เราสามารถสร้างต้นไม้จากวัสดุรีไซเคิลให้เหมือนต้นไม้จริงนานาพันธุ์ได้ อย่างกล้วยด่าง มอนสเตอร่าด่าง บอนสี หรือต้นไม้อื่นๆ ที่ช่วงนี้กำลังฮิตก็สามารถทำได้ แต่ต้นไม้เหล่านี้มีเอกลักษณ์เฉพาะ ตั้งแล้วมันจะสวยด้วยตัวของมันเอง พอต้องจัดรวมกันให้คุมธีม คุมภาพรวมในการออกแบบจะจัดยาก แต่ขึ้นอยู่กับคอนเซ็ปต์ของงานที่ลูกค้าต้องการ หากสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวย ในหลายๆ งานสามารถใช้ทั้งต้นไม้จริงและต้นไม้ปลอมเพื่อส่งเสริมกันและกันได้ด้วย”
เปลี่ยนวิถีการทำงานเรียกลูกค้า
ไตรมาสแรกของปี 2563 หลังโควิด-19 แพร่ระบาด สองผู้ก่อตั้งวงปี สตูดิโอ บอกว่า โชคดีที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากลูกค้ากว่า 90% คือลูกค้าแบบ B2B ที่เป็นบริษัทหรือองค์กรใหญ่ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า โครงการบ้านจัดสรร และคาเฟ่ ที่ทำสัญญาดำเนินโครงการเรียบร้อยแล้ว จนเมื่อโรคระบาดลากยาวเข้าสู่ระลอก 2 ปัญหาและอุปสรรคจึงเริ่มถาโถม ทั้งไม่สามารถก่อสร้างหรือไปหาลูกค้าแบบเดิมได้ เป็นผลให้งานหายไปจนหมด
แต่วงปี สตูดิโอ ไม่ยอมอยู่เฉย ถือโอกาสลองผิดลองถูก เปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่ เริ่มจากนำเทคโนโลยีมาใช้ เปลี่ยนจากการทำงานผ่านกระดาษมาทำงานบนระบบคลาวด์ และยังรุกตลาดออนไลน์เต็มตัว ทำให้ได้ฐานลูกค้า B2C หรือผู้ประกอบการรายย่อยมากขึ้น บทเรียนสำคัญที่ยศภาคย์ เรียนรู้จากวิกฤตนี้ คือ ความยืดหยุ่น ปรับตัวง่าย ที่สำคัญต้องทำงานแข่งกับความเร็ว
“เวลาคุยงานออนไลน์ ถ้าลูกค้าขอดูรูปหรือตัวอย่างผลงานที่น่าสนใจ ต้องเอาให้ดูได้ทันที ไม่เหมือนแต่ก่อนที่เวลานัดคุยงานจะนัดล่วงหน้า วางแผนเป็นขั้นเป็นตอนว่าลูกค้าจะขอดูตัวอย่างผลงานตอนไหนบ้าง แต่การทำงานออนไลน์ ผู้คนอาจเห็นเราจากโฆษณาในหน้าฟีด แล้วทักมาบอกว่าสนใจ แต่อาจไม่ได้วางแผนมาก่อนว่าต้องการอะไร ชื่นชอบต้นไม้แบบไหน ถ้าเราใช้เวลานานแล้วตอบเขาไม่ได้ เราอาจสูญเสียพวกเขาไปเลย”
ทำงานแบบเรียลไทม์ง่ายขึ้นด้วยระบบคลาวด์
แม้จะเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีมากขึ้น แต่ทั้งคู่บอกด้วยว่า พวกเขาไม่ได้เชี่ยวชาญงานด้านนี้มากนัก จนกระทั่งพบว่าดีแทค บิสิเนส มีบริการแพกเกจ WorryFree Plus Pro แพกเกจสื่อสารที่รวม Google Workspace เหมาะสำหรับการทำงานออฟฟิศอย่างครบครันในราคาเริ่มต้น 499 บาท พร้อมมีทีมไอทีจากดีแทคคอยสนับสนุนการใช้งาน กิตติคุณและยศภาคย์ จึงสมัครใช้บริการแพกเกจนี้อย่างไม่ลังเล และพบว่าช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยากได้จริงๆ
“WorryFree Plus Pro ของ dtac business ตอบโจทย์อย่างมากกับการทำงานแบบเรียลไทม์ผ่านระบบคลาวด์ เรากรอกข้อมูลและมองเห็นข้อมูลทุกอย่างพร้อมกันได้แบบเรียลไทม์ ยิ่งข้อมูลของลูกค้าเยอะ และแต่ละรายยังมีความเฉพาะตัวแตกต่างกัน หากเก็บข้อมูลในรูปแบบกระดาษแล้วเกิดเสียหายขึ้นมา จะกระทบต่อความเชื่อมั่นและเสียหายต่อธุรกิจ การเก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์จึงตอบโจทย์ธุรกิจมากที่สุด”
หากอนาคต โรคโควิด-19 หมดไป ยศภาคย์ ยังยืนยันว่า วงปี สตูดิโอ จะใช้บริการนี้ต่ออย่างแน่นอน เพราะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การทำธุรกิจสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นอย่างชัดเจน
“แม้เทคโนโลยีนี้อาจไม่ใช่แก่นสำคัญของการทำธุรกิจออกแบบและจัดสวนด้วยต้นไม้ปลอม แต่พอใช้แล้วเห็นประโยชน์ ช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพดีขึ้น ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเลิกใช้ครับ” ยศภาคย์กล่าวทิ้งท้าย