xs
xsm
sm
md
lg

กรณีศึกษา dtac business เสริมประสิทธิภาพ ‘เจย์ เฟรช’ นำไปใช้กับธุรกิจผลิตน้ำดื่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รูปแบบการนำเทคโนโลยีการสื่อสารไปใช้งานในธุรกิจ SMEs นั้นถือว่ามีความหลากหลายมาก เพราะแต่ละธุรกิจจะมีความต้องการในการใช้งานที่แตกต่างกัน ลองไปดูกรณีศึกษาที่ ‘เจย์ เฟรช’ ธุรกิจน้ำดื่มรายใหญ่เมืองตรัง นำโซลูชันจาก dtac business ไปช่วยเสริมการทำงานที่ท้าทายกว่าเดิม

นายพงษ์ศักดิ์ โกเอี้ยน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจย์ เฟรช จำกัด กล่าวว่า เจย์ เฟรช เริ่มลุยธุรกิจผลิตน้ำดื่มในปี 2558 ในจังหวัดตรังบ้านเกิด วันแรกที่เจย์ เฟรช เปิดกิจการ สามารถทำยอดขายได้เพียง 180 บาท ทั้งหมดมาจากการอุดหนุนของเพื่อนและคนรู้จัก แต่ 6 เดือนหลังจากนั้นยอดขายกลับก้าวกระโดดถึง 1 แสนบาทต่อเดือน

“เจย์ เฟรช วางแนวทางผลิตน้ำดื่มที่ไม่ซ้ำรอยแบรนด์ไหนในจังหวัด สร้างการเติบโตจากบริษัทเล็กๆ ชูจุดแข็งด้วยการนำเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานระดับสูงมาใช้ในธุรกิจอย่างรอบด้าน กระทั่งผงาดขึ้นเป็นผู้ผลิตน้ำดื่มเบอร์หนึ่งของจังหวัดตรัง”

แม้ว่าตลาดน้ำดื่มจะมีผู้เล่นอยู่แล้ว แต่การที่เจย์ เฟรช เป็น OEM ทำให้ได้เปรียบ เพราะลูกค้า OEM มีความสม่ำเสมอ แทบไม่มีการเปลี่ยนผู้ผลิต จึงรักษายอดขายไว้ได้และโตขึ้นเรื่อยๆ เคล็ดลับของเราคือ โฟกัสกับร้านใหญ่ๆ หรือร้านที่พอเอ่ยชื่อในตรังแล้วคนรู้จักก่อน และเมื่อกว่า 80% ของร้านเหล่านี้เป็นลูกค้าหมดแล้ว พอมีคู่แข่งคนก็จะจดจำได้ว่าเราเป็นเจ้าแรกที่ไม่ทิ้งมาตรฐานการผลิตและน้ำดื่มที่ต้องได้คุณภาพ


อีกปัจจัยที่เจย์ เฟรช ให้ความสำคัญอย่างมากคือ การรักษาสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้าและลูกค้า โดยใช้ความเป็นคนในพื้นที่ รู้จักผู้คนในหลายภาคส่วน สอบถามความคิดเห็นถึงน้ำดื่มเจย์ เฟรช แล้วนำมาปรับปรุงและพัฒนาสินค้าให้ดีขึ้น ทำให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละเจ้าได้อย่างรวดเร็ว กลายเป็นข้อได้เปรียบของเจย์ เฟรช เหนือแบรนด์ใหญ่ ที่อาจไม่สามารถมาคลุกคลีกับลูกค้าได้ใกล้ชิดขนาดนี้

แน่นอนว่าในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สร้างผลกระทบ โดยในช่วงการระบาดเดือนมีนาคม-เมษายน ปี 2563 จนล็อกดาวน์ครั้งแรก ยอดขายหายไปถึง 60%

“ช่วงล็อกดาวน์คนอยู่บ้านยังต้องบริโภคน้ำเท่าเดิม ดังนั้นจะทำอย่างไรให้ผลิตภัณฑ์ไปถึงลูกค้าได้โดยตรง เลยให้รถแบ่งสายวิ่งขายน้ำทั่วจังหวัดจนยอดกระเตื้องขึ้น จนตอนนี้ยอดโตขึ้นถึงกว่า 700,000 บาทต่อเดือน เยอะกว่าก่อนมีโควิดอีก”


นอกจากนี้ การเลือกใช้บริการดีแทค บิสิเนส แพกเกจ WorryFree Plus Pro ที่รวมให้บริการ Google Workspace สำหรับทำงานออฟฟิศอย่างครบครัน โดยเจย์ เฟรช ใช้มาตั้งแต่ยังชื่อ Google G-Suite ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น Google Workspace ความที่ใช้เบอร์ของ ดีแทคอยู่แล้ว พอเห็นแพกเกจนี้เลยใช้อย่างไม่ลังเล

โดยดีแทค บิสสิเนสจะมีทีมไอทีสอนการใช้งาน ทำให้เราทำงานร่วมกันกับทีมงานได้ทุกที่ขอเพียงมีอินเทอร์เน็ต ข้อดีของ Google Workspace คือ พนักงานสามารถกรอกข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟน และทุกคนจะเห็นข้อมูลเหมือนกันหมด ง่ายต่อการบริหารจัดการ ถ้าลูกค้าโทร.มาขอใบเสนอราคา ก็สามารถออกให้ได้ในเวลาไม่กี่นาที และความที่ใช้ Gmail เป็นอีเมลทางธุรกิจ ก็ช่วยเสริมภาพลักษณ์ทำให้ดูมีมาตรฐานสากลขึ้น

นายศิริพงศ์ นกทนงค์ ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มธุรกิจงานขาย ธุรกิจเอสเอ็มอี บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ดีแทค บิสิเนส มีทีมงานมืออาชีพที่คอยให้คำแนะนำ มีเครื่องมือและดิจิทัลแพลตฟอร์มมากมายเป็น One Stop Shop เพื่อที่จะนำมาช่วยตอบโจทย์เอสเอ็มอีทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเจ้าของคนเดียว หรือระดับกลุ่มธุรกิจที่มีพนักงานมากกว่า 50 คน ที่ต้องการการทำงานที่เป็นระบบ มีความเป็นมืออาชีพ และพัฒนาองค์กรสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ

ทิศทางธุรกิจต้องเติบโตรับความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ไปถึงเป้าหมายได้รวดเร็วยิ่งขึ้นคือเทคโนโลยีอย่างคลาวด์โซลูชัน มีส่วนอย่างมากในการสร้างความก้าวหน้าให้ธุรกิจผลิตน้ำดื่มเจย์ เฟรช

“ตอนนี้ทุกคนเริ่มเข้าใจแล้วว่ามันจะต้องมีการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล บางธุรกิจอาจกำลังคิดว่าจะเปลี่ยนผ่านอย่างไรจึงจะอยู่รอด อยากให้มองดีแทค บิสิเนส เป็นพาร์ตเนอร์ที่จะนำธุรกิจไปสู่จุดนั้น เพื่อเติบโตร่วมกันไปในกลุ่มธุรกิจเทเลคอม”


กำลังโหลดความคิดเห็น