นูทานิคซ์ (Nutanix) เผย 3 เทรนด์ที่บริษัทเห็นชัดในกลุ่มลูกค้าช่วงไตรมาส 1 ปี 2022 ชี้เทรนด์หลักคือองค์กรต้องการเอาชนะความเสี่ยงและเก็บข้อมูลบนคลาวด์แบบไม่ประนีประนอม ยอมรับภาพรวมการแข่งขันในอาเซียนปีนี้ยังคงเป็นภาวะองค์กรยึดติดระบบเก่าที่เคยใช้มา ซึ่งเป็นกับดักที่ทำให้ไม่สามารถพัฒนาไปสู่ระบบใหม่ที่รองรับการเปลี่ยนแปลงได้ดีกว่า ภูมิใจรายได้ไตรมาสล่าสุดเพิ่มขึ้นสวยงาม 21% เมื่อเทียบเป็นรายปี
แมตต์ ยัง (Matt Young) รองประธานอาวุโสและหัวหน้าหน่วยธุรกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก-ญี่ปุ่น บริษัท นูทานิกซ์ กล่าวถึง 1 ใน 3 แนวโน้มที่นูทานิคซ์สัมผัสได้ในตลาดแพลตฟอร์มไฮบริดคลาวด์ไตรมาส 1 ปีการเงิน 2022 ว่าองค์กรธุรกิจมีมุมมองต่อคลาวด์เปลี่ยนไป โดยไม่ได้มองเป็นจุดหมายปลายทาง แต่มองเป็นเครื่องมือทำธุรกิจที่มีหลายวิธีการใช้งาน ซึ่งทำให้คลาวด์ไม่ใช่การตัดสินใจที่มีทางเลือกจำกัดอีกต่อไป นอกจากนี้ องค์กรส่วนใหญ่ยังมองว่าการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทางธุรกิจ ยังสามารถเริ่มต้นด้วยการปรับกลยุทธ์ใช้งานคลาวด์ให้เข้ากับความต้องการของธุรกิจ และดูแลให้กระบวนการมีความเหมาะสม
“ขณะเดียวกัน องค์กรก็พยายามตั้งคำถามเกี่ยวกับระบบคลาวด์ให้ถูกต้อง แทนการถามว่าจะไปคลาวด์ได้อย่างไร มาเป็นการถามว่าจะใช้คลาวด์สำหรับธุรกิจของแต่ละคนได้อย่างไร”
อีกข้อมูลที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของวงการคลาวด์ คือ ผลการวิจัยล่าสุดที่นูทานิคซ์พบว่าองค์กรส่วนใหญ่กว่า 91% ได้ย้ายแอปพลิเคชันอย่างน้อยหนึ่งรายการไปยังระบบใหม่ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา สะท้อนว่าธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ Matt Young ดูแลนั้นกำลังทบทวนการใช้งานระบบคลาวด์แบบใหม่หมด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะธุรกิจเอกชนและหน่วยงานภาครัฐต้องปรับตัวรับรูปแบบการปฏิบัติงานที่เปลี่ยนไป โดยในปี 2022 การสำรวจของนูทานิคซ์ประเมินว่า มากกว่า 50% ของข้อมูลที่สร้างโดยองค์กรจะถูกสร้างขึ้นและประมวลผลนอกศูนย์ข้อมูลแบบเดิมของคลาวด์ แปลว่าข้อมูลองค์กรที่ถูกสร้างขึ้นมานั้น ราวครึ่งหนึ่งจะมาจากเอดจ์ หรืออุปกรณ์ที่ขอบรอบเครือข่าย
Matt Young เคยให้สัมภาษณ์ว่า APJ อาจจะเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ตลาดมีความผันผวนมากที่สุดในโลก ภูมิภาคนี้มีประชากรมากกว่า 60% ของโลก ประกอบด้วยตลาดใหญ่อย่างออสเตรเลีย จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ไทย และอีกหลายประเทศ โดยการสำรวจพบว่ากว่า 3 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสอบถาม (72%) เชื่อว่าระบบไอทีในองค์กรถูกมองเป็นกลยุทธ์สำหรับการแข่งขันทางธุรกิจมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ตลาดของนูทานิคซ์มีความต้องการสูงขึ้นอีกแน่นอน
ฐานลูกค้าของนูทานิคซ์ใน APJ นั้นประกอบด้วยเซกเมนต์สาธารณูปโภค ธนาคารและสถาบันการเงิน บริษัทเทคโนโลยี และผู้ให้บริการที่ปรึกษา ความต้องการและปัจจัยบวกหลายด้านทำให้ธุรกิจของนูทานิคซ์เติบโตต่อเนื่อง โดยในไตรมาสที่ 1 ปีการเงิน 2022 (สิ้นสุดตุลาคม 2021) บริษัทสามารถทำรายได้ส่วนมูลค่าสัญญารายปี (ACV Billings) ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็น 183.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.9 พันล้านบาท โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบเป็นรายปี คิดเป็น 379 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1.23 หมื่นล้านบาท
ความคืบหน้าสำคัญล่าสุดของนูทานิคซ์คือการเป็นพันธมิตรด้านกลยุทธ์กับเทคโนโลยี Citrix ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการเดสก์ท็อปเสมือนจำนวนมากในราคาคุ้มค่า ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ควบคู่กับระบบนูทานิคซ์ ช่วยให้องค์กรเข้าถึงเดสก์ท็อปและแอปที่ปลอดภัย ตามความต้องการและยืดหยุ่นจากทุกอุปกรณ์ ทุกสถานที่ และทุกขนาด
สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่นูทานิคซ์เพิ่งเปิดตัวคือ Nutanix Cloud Platform ซึ่งมีจุดแข็งเรื่องช่วยปรับให้เส้นทางสู่ไฮบริดมัลติคลาวด์ง่ายยิ่งขึ้น นูทานิกซ์การันตีว่านี่คือโซลูชันที่ครอบคลุมเพื่อการใช้งานทุกแอปพลิเคชันบนคลาวด์ทุกระบบทั้งพับลิก ไพรเวท และไฮบริดคลาวด์ ซึ่งนอกจากความง่าย เชื่อว่ายังช่วยขจัดความซับซ้อนที่มักเกี่ยวกับการเปิดใช้งานบริการไฮบริดคลาวด์ครบวงจรในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย โดยลดความซับซ้อนของการเลือกใช้โซลูชัน และวิธีการคิดราคา เพื่อช่วยให้ลูกค้าเตรียมพร้อมรับมือกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปได้รอบด้าน ซึ่งรวมถึงการขยายเวิร์กโหลด การกำหนดลักษณะคลาวด์ การอัปเกรดเทคโนโลยี และอื่นๆ
ผู้บริหารนูทานิกซ์ทิ้งท้ายถึงภาพรวมการแข่งขันที่พบเห็นในตลาด APJ โดยเฉพาะอาเซียนซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่เติบโตของภูมิภาค ว่าการแข่งขันหลักคือภาวะที่องค์กรยึดติดกับระบบเก่าที่ใช้งานมาแต่เดิม ภาวะนี้คืออุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางการเปลี่ยนแปลงระบบและกระบวนการทำงานเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะหน่วยเก็บข้อมูลดั้งเดิมที่ทำให้หลายธุรกิจไม่ก้าวข้ามไปยังระบบที่มีประสิทธิภาพมากกว่า